กระทรวงพลังงาน นำสื่อมวลชนลงพื้นที่เขื่อนคิรีธาร จังหวัดจันทบุรี หลังพบการบุกรุกพื้นที่โครงการฯ ปลูกทุเรียน กว่า 260 ไร่ พบไม่ใช่ทุนจีน ได้รับฟังเสียงชาวบ้านพร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เวลาออกจากพื้นที่ 30 วัน ก่อนดำเนินคดีผู้บุกรุก พร้อมเดินหน้าปรับปรุงพื้นที่เพื่อบริหารจัดการน้ำและผลิตไฟฟ้าอย่างยั่งยืน
วันนี้ (26 ก.พ. 2568) ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พลตรีประพนธ์. กิตติญานทรัพย์ รอง ผอ.ศปป.4กอ.รมน. นายสุพจน์ ภู่รัตนโอภา รอง อธิบดีกรมป่าไม้ นายนันทนิษฎ์ วงศ์วัฒนา รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน นายปรีชา ลิ้มถวิล รองเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) พล.อ.ต.ชัยสม ร่มโพธิ์ทอง หัวหน้าสำนักงานที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหม พลเรือตรี นิวัฒน์ ทากุดเรือ รองผู้บัญชาการนาวิกโยธิน และส่วนปกครองจังหวัดจันทบุรี และคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่โครงการไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธาร จังหวัดจันทบุรี เพื่อตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่โครงการหลังพบการใช้พื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะกลางอ่างเก็บน้ำ(เกาะร้อยไร่) ซึ่งมีขนาดกว่า 260 ไร่ โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาข้อสรุป พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการให้เกิดความถูกต้องและป้องการการบุกรุกซ้ำในอนาคต
ดร.หิมาลัย กล่าวว่า ได้มีการร่วมประชุมหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พพ. กรมป่าไม้ ส.ป.ก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกร่วมกัน และได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยพบการบุกรุกพื้นที่เพื่อทำการเกษตรและปลูกพืชเศรษฐกิจ อาทิ ทุเรียน ในหลายจุด ซึ่งพบว่าไม่ใช่ทุนจีนแต่อย่างใด โดยพื้นที่การบุกรุกบางส่วนอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติและบางส่วนเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. ที่ต้องตรวจสอบสิทธิ์ ที่ผ่านมาทาง พพ.ได้แจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับผู้บุกรุกพื้นที่บริเวณเกาะร้อยไร่ 262 ไร่ และพื้นที่โดยรอบโครงการฯ 17 ราย 21 แปลง
“การบุกรุกพื้นที่รัฐเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวต้องหมดไป กระทรวงพลังงานและภาครัฐ จะดำเนินการถึงที่สุด ใครทำผิดต้องรับผิด เขื่อนคิรีธารไม่ได้เป็นเพียงโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ แต่เป็นแหล่งน้ำสำคัญของประชาชน การใช้พื้นที่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและประเทศชาติ ทั้งนี้ ได้มีการรับฟังเสียงประชาชน โดยประชาชนที่ได้รับเอกสารสิทธิ์จากราชการ จะดำเนินการเยียวยา ส่วนประชาชนที่เข้าใจผิดในการเข้าใช้พื้นที่ กระทรวงพลังงานจะให้เวลา 30 วันในการออกจากพื้นที่ก่อนจะดำเนินคดีหากพบว่ายังมีการบุกรุกอยู่” ดร.หิมาลัย กล่าว
นายนันทนิษฎ์ วงศ์วัฒนา รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมา พพ. ได้ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่และแจ้งผู้บุกรุกพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 ถึงปัจจุบัน ได้ติดตาม ตรวจสอบและประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่เขื่อนคิรีธาร มีการลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับกรมป่าไม้ โดย พพ. มีหนังสือขอยกเลิก หรือเพิกถอนสิทธิการครอบครองที่ดินบางส่วนจาก ส.ป.ก. และแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกที่ไม่มีเอกสารสิทธิ โดยการดำเนินคดีและมาตรการต่าง ๆ จะเป็นไปตามกรอบกฎหมาย พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนให้ปฏิบัติตามกฏหมาย เพื่อการผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำที่เป็นพลังงานสะอาด และบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ พพ. ยังเตรียมเพิ่มประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธารให้สามารถเพิ่มน้ำต้นทุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิตไฟฟ้า