จะขอนิรโทษกรรมเฉพาะคนเสื้อแดงไม่ได้ ต้องนิรโทษกรรมให้กับทุกฝ่ายความสามัคคีสมานฉันท์ในชาติจึงจะเกิดได้ รัฐบาลต้องรีบเป็นเจ้าภาพ แก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ที่ทำให้เกิดความแตกสามัคคีแหลกลาญภายในชาติ ได้แล้ว

ภาพจาก : มติชน
ต้องนิรโทษกรรมให้แก่ทุกฝ่าย จึงจะสร้างความสามัคคีในชาติได้
เสียงเรียกร้องให้นิรโทษกรรม แก่ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการเมือง ดังกระหึ่มมากขึ้น
แต่จะนิรโทษกรรม ให้กับพรรคพวกกันฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องนิรโทษกรรมให้กับทุกฝ่าย โดยถือว่า ทุกฝ่ายทุกคน คือพสกนิกรในพระเจ้าอยู่หัวพระองค์เดียวกัน
ถึงเวลาต้องสร้างความสามัคคีภายในชาติแล้ว ประเทศไทยจึงจะเดินหน้าไปได้
ล่าสุดผู้นำทางความคิด Opinion Leader สำคัญของสังคมไทยคือท่านอาจารย์ธงชัย วินิจจะกุล ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาล นิรโทษกรรมให้กับคนเสื้อแดงที่ต้องคดีจำนวนมาก ว่าเป็นผู้มีพระคุณต่อพรรคเพื่อไทย!!!
อย่างนี้ก็ไม่ยุติธรรมสิครับ!! เพราะผู้ที่ต้องคดีทางการเมืองมีมากมาย ทั้งพวกพันธมิตร กปปส. คปท.
กองทัพธรรม สำนักวัดอ้อน้อย และประชาชนผู้รักชาติรักประชาธิปไตยอีกจำนวนมาก ที่ต้องคดี ทั้งแพ่งทางอาญา ซึ่งเป็นการต้องคดีโดยไม่ได้มีประโยชน์ส่วนตัวเกี่ยวข้อง เป็นการต้องคดีเพราะความรักชาติ แต่มีความเห็นไม่ตรงกันเท่านั้น จึงเป็นรากฐานของความขัดแย้งใหญ่โตในบ้านเมืองลุกลามบานปลายมาจนถึงทุกวันนี้ แม้กระทั่งรัฐบาลเอง ก็แทบจะเดินไม่ได้อยู่แล้ว
ดังนั้น ถ้าจะนิรโทษกรรม ก็ต้องนิรโทษกรรมให้แก่ทุกฝ่าย ทุกคน โดยไม่เลือกที่รักไม่มักที่ชัง และถ้าจำเป็นก็ต้องล้างมลทินให้แก่ ผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองด้วย
อย่างนี้จึงจะก้าวข้ามความขัดแย้ง เดินหน้าประเทศไทยต่อไปได้
มิฉะนั้นก็จะเดินหน้าไปไหนไม่ได้หรอกครับ
ไม่เห็นหรือ ที่เคย ผลักดันจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมแบบสุดซอย ในที่สุดก็พังพาบไม่เป็นท่า ก็เพราะคิดแต่จะนิรโทษฝ่ายเดียวพวกเดียวเท่านั้น
ปัจจุบันบ้านเมืองมี ความ ขัดแย้ง รุนแรงมาก และเป็นวงกว้างที่สุด กว่าทุกยุคทุกสมัย เกิดการ ขัดแข้งขัดขาตีกัน ไม่มีวันเลิกรา ยิ่งในสถานการณ์ ที่ภัยคุกคามจาก ต่างประเทศรุมเร้าเข้ามาทุกทิศ เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศขนาดนี้ ถ้าไม่รีบยุติความขัดแย้ง ดีไม่ดีก็จะสิ้นชาติ เหมือนเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2
ผมขอร่วมเรียกร้อง ให้รัฐบาล อัญเชิญพระบรมราโชบาย ในพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานแก่รัฐบาลพลเอกเปรม ให้ใช้สันติวิธี แก้ไขความขัดแย้งที่รุนแรงที่สุดภายในชาติ และได้ดำเนินการสำเร็จ อย่างยอดเยี่ยม ภายใต้คำสั่ง 66/2523 ซึ่งนิรโทษกรรมล้างมลทินให้แก่ ผู้ ต้องคดี เกี่ยวกับการเมือง หรือเนื่องจากการเมืองหรือได้รับผลกระทบมาจากการเมือง ให้กับทุกฝ่ายทุกคน ทำให้ทุกคนได้กลับมามีชีวิตใหม่ ไม่ต้องถูกโซ่ตรวนคดีติดพันอีกต่อไป อย่างนี้บ้านเมืองก็จะรอดปลอดภัยและเดินไปได้
ขอให้เราทั้งหลายมาร่วมกัน ก้าวข้ามความขัดแย้ง เดินหน้าประเทศไทย สู่ยุคศิวิไลซ์ด้วยกันเถิด
และนี่ก็คือโอกาสดีที่สุด ที่รัฐบาลจะได้ขับเคลื่อน ความสมานฉันท์ภายในชาติ สร้างสามัคคีภายในชาติขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการนิรโทษกรรมล้างมลทินให้กับทุกคนทุกฝ่าย ประเทศไทยเราจึงจะเดินไปข้างหน้าได้
ถ้าถือว่ามีอำนาจแล้วจะนิรโทษกรรมแต่พวกเดียวฝ่ายเดียวกัน ไม่ใยดีฝ่ายอื่นๆ ที่เขาก็รักชาติรักประชาธิปไตยเหมือนกัน จะไม่มีวันสำเร็จอย่างแน่นอน
นายไพศาล พืชมงคล
ทนายความ