ตามที่ พลอากาศตรี ณัฏฐอรรจน์ ถวิลหวัง นายกสมาคมชาวอีสาน ได้แจ้งข่าวใหญ่ผ่านสื่อออนไลน์ หรือสื่อดิจิตอล (Digital media) เมื่อ 21 ตุลาคม 2567 เกี่ยวกับวาระศุภมงคลสมัย ที่สมาคมชาวอีสาน จะครบรอบ 99 ปี ใน พ.ศ. 2568 จะจัดสร้างวัตถุมงคล “องค์พระธาตุพนม” ซึ่งเป็นปูชนียสถานสำคัญ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชน มายาวนานกว่า 2500 ปี นั้น
ในศุภมงคลสมัย ดังกล่าว สมาคมชาวอีสานพร้อมมวลหมู่สมาชิกได้รับเมตตาธรรมอันสูงยิ่งจาก พระเดชพระคุณ พระธรรมวชิรโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม อนุญาตให้สมาคมชาวอีสาน จัดสร้างวัตถุมงคล “องค์พระธาตุพนม” เมื่อ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ตรงกับวันขึ้น 8 ค่ำเดือน 3 ซึ่งเป็นวันพุทธบูชา ถวายแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และองค์พระธาตุพนม หรือพี่น้องชาวอีสานเรียกว่า วันเริ่มต้นบุญเดือนสาม
การสร้างวัตถุมงคล “องค์พระธาตุพนม” เนื่องในโอกาสครบรอบ 99 ปี ครั้งนี้สมาคมชาวอีสาน ได้กำหนดวัตถุประสงค์ไว้ ดังนี้
- เพื่อความเป็นสิริมงคล ของพุทธศาสนิกชนชาวไทยและ สปป.ลาว ตลอดจนประชาชนทั่วโลกได้บูชาและเก็บรักษาไว้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจ
- เพื่อทำบุญใหญ่ให้ประเทศไทย และอุทิศส่วนกุศลให้บูรพคณาจารย์ ตลอดจนประชาชน ผู้ล่วงลับจากภยันตรายและภัยพิบัติในอดีต
- เพื่อเป็นพลังสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ( Soft Power ) ของท้องถิ่นและประเทศไทย
- เพื่อนำรายได้สนับสนุนกิจการสาธารณะประโยชน์ของสมาคมชาวอีสาน ได้แก่ ให้ทุนการศึกษากับเยาวชนผู้ด้อยโอกาส และช่วยเหลือประชาชน ผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ ตลอดจน ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครผู้ปฏิบัติหน้าที่ ป้องกันประเทศ ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
วัตถุมงคล “องค์พระธาตุพนม” ที่สมาคมชาวอีสานจะจัดสร้างอย่างยิ่งใหญ่อลังการนั้นประกอบด้วย
- เหรียญ “องค์พระธาตุพนม” ชนิดต่างๆ รุ่น “มหาบารมี-มหาเศรษฐี” จำนวน 10,000 เหรียญ
- พระผง “องค์พระธาตุพนม” รุ่น “ดวงเศรษฐี” จำนวน 84,000 องค์
สำหรับ วันเวลาการประกอบพิธี “มหาพุทธาภิเษก – เทวาภิเษก” สมาคมชาวอีสาน กำลังขอฤกษ์มงคล หรือฤกษ์งามยามดี จาก “พระเดชพระคุณ พระธรรมวชิรโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม ประธานประกอบพิธี และพระครูพนมปรีชากร (พระครูไก่) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯ พร้อมทั้งจะได้ฎีกานิมนต์ เกจิอาจารย์ทั่วภาคอีสานและทั่วไทย มานั่งปรกอธิษฐานจิต และบริกรรมคาถา ในพิธีฯ ณ ลานพุทธมณฑลองค์พระธาตุพนม เพื่อความเป็นสิริมงคล เกิดความขลังและศักดิ์สิทธิ์ อย่างแรงกล้า อาทิ พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท), พระวชิรญาณวิศิษฏ์ วิ. (พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปญโญ), พระราชวัชราวิทยาคม (พระอาจารย์ต้อม ปภสุสโร), พระครูโสภณวินัยวัฒน์ (หลวงปู่เวิน คุเณสโก), พระราชศีลโสภิต (หลวงปู่หนูอินทร์ กิตติสาโร) และ พระอาจารย์เฉลิมชัย ฐิตตธมโม(พระอาจารย์นก) เป็นต้น
พลอากาศตรี ณัฏฐอรรจน์ ถวิลหวัง นายกสมาคมชาวอีสาน ชี้แจงความก้าวหน้าเพิ่มเติมว่า การออกแบบวัตถุมงคลองค์พระธาตุพนมดำเนินการเรียบร้อยแล้วโดย นายช่างผู้มากประสบการณ์ด้านพุทธศิลป์ผสมผสานกันความเชื่อและความศรัทธา ด้านพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ส่วนขั้นตอนต่อไป คือการเตรียมพิธีกรรมสำคัญที่สืบทอดกันมายาวนาน ในความเชื่อ และวัฒนธรรมไทย ได้แก่
- การบวงสรวงองค์พระธาตุพนม และอัญเชิญเทพ พรหม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ร่วมเป็นประจักษ์พยาน ซึ่งพิธีกรรมนี้ เป็นการเสริมความเป็นสิริมงคล ให้เกิดขึ้นทั้งผู้สร้างพระ และผู้บูชาพระ
- การปลุกเสก และอธิฐานจิตวัตถุมงคลองค์พระธาตุพนม โดยคณะปรก หรือพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ผู้ทรงฤทธิ์อาคม นั่งสมาธิภาวนาส่งกระแสจิต และบริกรรมคาถา เพ่งคุณพระรัตนตรัย เข้าไปสู่วัตถุมงคล “องค์พระธาตุพนม” โดยจะฎีกานิมนต์ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ปลุกเสกฯ จำนวน 99 รูป ( ครบรอบ 99 ปี สมาคมชาวอีสาน )
- การเลือกมวลสารสำคัญ สร้างวัตถุมงคล ครั้งนี้ ได้รับเมตตาธรรมจากพระครูพนมปรีชากร (พระครูไก่) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม มอบมวลสารศักดิ์สิทธิ์ “ดินก้อนอิฐ” จำนวนหนึ่ง จากฐานพระธาตุพนมองค์เก่าที่พังล้มลงมาเมื่อปี 2518 นอกจากนั้น ยังมีพระสงฆ์องค์เจ้า ตลอดจน ผู้เฒ่าผู้แก่ในภาคอีสาน ได้มอบแร่เหล็กไหล ผสมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ในการสร้าง วัตถุมงคล “องค์พระธาตุพนม” ครั้งนี้
ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ของคณะกรรมการสมาคมชาวอีสาน พร้อมสมาชิกฯ รวมพลังสร้างวัตถุมงคล “องค์พระธาตุพนม” เนื่องในศุภสมัยครบรอบ 99 ปี สมาคมชาวอีสาน ครั้งนี้ จะเกิดมรรคผลสู่ความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของสมาคมทุกประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดพลังพุทธานุภาพ และฤทธานุภาพ เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ให้ผู้บูชา มีความเป็นสิริมงคล แคล้วคลาดปลอดภัย และเจริญรุ่งเรืองในการครองชีวิต