ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็กตอนเรียนชั้น ป. 1 ถึง ป. 4 เป็นคนอ่านหนังสือการ์ตูนให้เพื่อน ๆ ในห้องฟังโดยเฉพาะตอนพักกินข้าวกลางวัน พวกเราจะไปนั่งกันใต้ต้นฉำฉาใหญ่ กินข้าวกันไปคุยกันไปจากนั้นก็เอาหนังสือภาพการ์ตูนเรื่องศึกเขาพระวิหารออกมาอ่านให้เพื่อนฟัง
อ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าเรื่องเดียวกันนี้ จนจำได้ขึ้นใจ
เมื่อเรียนชั้น ป. 5 ถึง ป.7 ผมซื้อหนังสือวันเด็กเล่มละ 2 บาททุกปี
มีบทกวีเขียนเป็น กาพย์ยานี ที่ผมประทับใจอยู่เรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องของพ่อกับลูก ประพันธ์โดย ฐปนีย์ นาครทรรพ อยู่ในหนังสือวันเด็กที่ขายตอนอยู่ ป. 6 ผมอ่านครั้งเดียว แล้วจำได้จนถึงทุกวันนี้ เพราะความประทับใจ
ขออนุญาตนำกาพย์ยานี แห่งความทรงจำ มาลงให้ท่านได้อ่าน ดังนี้
ชายหนึ่งมีบิดา
ซึ่งชราเพลียสังขาร
หมดแรงทำการงาน
กิจการบ้านช่วยไม่ไหว
ชายนั้นเห็นเกะกะ
ก็คิดจะกำจัดไกล
จึงขูดกะลาให้
แล้วส่งพ่อไปขอทาน
อยู่มาลูกของตัว
นั่งเล่นหัวเงียบอยู่นาน
จึงถามอย่างอ่อนหวาน
ว่าลูกจ๋าเล่นอะไร
ลูกตอบเล่นกะลา
ขูดแล้วทาน้ำมันไว้
ยามเมื่อพ่อแก่ไป
จะส่งพ่อไปขอทาน
วันเด็กหลายปีที่ผ่านมารวมทั้งปีนี้ด้วยไม่รู้ว่ายังมีหนังสือวันเด็กออกมาอีกหรือไม่ถ้าไม่มีก็น่าเสียดาย เพราะหนังสือวันเด็กจะมีบทความ บทกวี ที่เป็นข้อคิดสอนใจมากมายให้เด็กเป็นคนดีมีคุณธรรม
และยังมีคำขวัญเท่ ๆ ของ นายกรัฐมนตรี ให้ได้ท่องจำ เพื่อเป็นแนวทางในการ ประพฤติ ปฏิบัติตน เช่น
<เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ>
<จงทำดี มีศีลธรรม ถือความสัตย์>
นอกจากได้อ่านหนังสือวันเด็ก ที่มีบทความ บทกวี ดี ๆ แล้ว เด็ก ๆ ยังมีโอกาสได้ไปเที่ยวในค่ายทหารไปขึ้นรถถัง ไปนั่งเครื่องบิน ได้กินขนมอร่อย ๆ
แค่คิดถึงความหลังครั้งเยาว์วัยในวันเด็กก็ยังอดยิ้มด้วยความสุขใจไม่ได้
ผมเคยอ่านพญาอีสาน ที่เหนือซุ้มประตูหน้าวัดบางรักใหญ่ เมื่อประมาณสามสิบกว่าปีมาแล้ว ผมชอบและจำได้ถึงทุกวันนี้เช่นกันเพราะเป็นช่วงอายุของคนว่า จะมีเหตุการณ์อย่างไร
10 ปีอาบน้ำบ่หนาว
20 ปีจีบสาวบ่เบื่อ
30 ปีไอ้เสือสู้ทุกท่า
40 ปีบอกลาก่อนไก่
50 ปีไปนากลับมาทอดหุ่ย
60 ปีเป่าขลุ่ยบ่ดัง
70 ปีเดินทางบ่ตรง
80 ปี ลงเตียงบ่ได้
90 ปีขี้ไหลบ่รู้
100 ปีไข้ก็ตายไม่ไข้ก็ตายแล
สุขสันต์วันเด็กครับ
พล.ต.ต.ไอยศูรย์ สิงหนาท