“แหล่งข่าวร้องเรียนวัชระ กรณีท่าอากาศยานดอนเมือง ภายใต้การกำกับดูแลของกรมการบินพลเรือน กระทรวงคมนาคม ได้อนุมัติและก่อสร้างประตูลับเข้าออกระหว่างท่าอากาศยานดอนเมืองกับถนนสาธารณะภายนอก ณ บริเวณประตูเข้าที่เก็บเครื่องบิน โรงเก็บเครื่องบินของเอกชน ส่อว่าผิดกฎหมายระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ผิดมาตรฐานระหว่างประเทศหรือไม่”
วันที่ 8 มกราคม 2568 นายวัชระ เพชรทอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ หอบหลักฐานสำคัญเข้าร้องเรียนต่อ นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้สอบสวนเจ้าหน้าที่ของรัฐกับพวก ส่อว่าปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริตหรือไม่ ส่อว่าผิดกฎหมายหรือมาตรฐานระหว่างประเทศหรือฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมร้ายแรงที่เกี่ยวข้องหรือไม่ กรณีอนุมัติและก่อสร้างประตูลับเข้าออกระหว่างท่าอากาศยานดอนเมืองกับถนนสาธารณะภายนอก ณ บริเวณประตูเข้าที่เก็บเครื่องบิน โรงเก็บเครื่องบินของเอกชน
โดยนายวัชระ เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ สังกัดบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กรณีท่าอากาศยานดอนเมือง ภายใต้การกำกับดูแลของกรมการบินพลเรือน กระทรวงคมนาคม ได้อนุมัติและก่อสร้างประตูลับเข้าออกระหว่างท่าอากาศยานดอนเมืองกับถนนสาธารณะภายนอก ณ บริเวณประตูเข้าที่เก็บเครื่องบิน โรงเก็บเครื่องบินของเอกชนหรือไม่ ซึ่งส่อว่าผิดกฎหมายระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ผิดมาตรฐานระหว่างประเทศหรือไม่ ได้แก่ สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association – IATA) องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization – ICAO) องค์กรความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป (European Aviation Safety Agency – EASA)
ดังนั้น ตนขอให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการสอบสวนย้อนหลังเจ้าหน้าที่ของรัฐกับพวก ตั้งแต่แรกเริ่มอนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างประตูลับเข้าออกระหว่างท่าอากาศยานดอนเมืองกับถนนสาธารณะภายนอกจนถึงปัจจุบัน โดยไม่ผ่านสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและกรมศุลกากร ส่อว่าปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริตหรือไม่ ส่อว่าผิดกฎหมายหรือมาตรฐานระหว่างประเทศและหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมร้ายแรงที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ดังนี้
1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ทุกท่านที่เกี่ยวข้อง
2. อธิบดีกรมการบินพลเรือน กระทรวงคมนาคม ทุกท่าน
3. กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติเขตการบินทุกท่าน
4. บริษัทเอกชนและกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกราย
นายวัชระ ยังกล่าวอีกว่า ขอให้สำนักงาน ป.ป.ช. เรียกวัตถุพยานเป็นสำเนากล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าวย้อนหลัง 60-90 วัน มาเก็บที่ ป.ป.ช. โดยด่วนและดำเนินการกันข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐชั้นผู้น้อยที่ให้ความร่วมมือในการสอบสวนอันเป็นประโยชน์ต่อทางราชการไว้เป็นพยานด้วย