ปี พ.ศ. 2557 ขณะที่ผมเป็น ผบก.ฯ รรท.ผบก.น.8 ผมออกตรวจเยี่ยมด่านความมั่นคงตำรวจ ทหาร ในเขตพื้นที่
พลบค่ำวันนั้น ผมอยู่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่วงเวียนใหญ่ มีลมพัดแรงอื้ออึง ฟ้าร้อง ฟ้าแลบแปลบปลาบ สายฟ้าแสงเจิดจ้า ได้พาดผ่านท้องฟ้าเป็นแนวหยักไปหยักมา จากบนลงมาล่าง เต็มไปหมด ฝนกำลังจะตก
ผมถอดหมวกเครื่องแบบออก และยกสองมือพนมไหว้ไปที่พระบรมราชานุสาวรีย์ พูดเบา ๆ ว่า <ลูกมารักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 ขอบารมีพระองค์ปกป้องและคุ้มครอง ลูกขออนุญาตถ่ายภาพพระบรมราชานุสาวรีย์ ไว้เป็นที่ระลึก ด้วยความเคารพบูชา ขอพระองค์ทรงเมตตาอนุญาตด้วยครับ> ผมลงท้ายคำพูดด้วยคำว่าครับ จริง ๆ ครับ
จากนั้นยกโทรศัพท์มือถือส่วนตัว ใช้แอปกล้องถ่ายรูป กดบันทึกภาพไป 1 ครั้ง คิดในใจว่า สายฟ้าอันเจิดจ้าที่พาดผ่านลงมาจำนวนมากนั้น จะเป็นภาพประกอบอันวิจิตรตระการตา สวยงามตามธรรมชาติ
เมื่อเปิดดูภาพในกล้องโทรศัพท์ ผมอุทานด้วยความแปลกใจ จนถึงกับขนลุกซู่ เพราะภาพที่ปรากฏนั้น เป็นภาพพระบรมราชานุสาวรีย์ ที่มีสายฟ้าเพียงเส้นเดียว และสายฟ้าเส้นนี้ ไม่ได้พาดผ่านจากบนลงล่าง เหมือนที่เห็นแต่เป็นสายฟ้าที่พาดผ่านเป็นแนวขวาง ผ่านปลายพระแสงดาบที่ชูขึ้น พอดี ฤาจะเป็นสัญญาณว่า นี่คือ <สายฟ้าแห่งพระบารมี>
ด้านมุมบนขวาของภาพ ก็มีเส้นสีขาวโค้งหยักไปมา เหมือนคน 4 คน ประดุจดัง 4 ทหารเอกของพระองค์
ตำรวจลูกน้องได้ยินเสียงอุทานของผม จึงถามผม ผมให้ทุกคนดูภาพในกล้องโทรศัพท์ เมื่อเห็นภาพ ทุกคนถอดหมวกยกมือไหว้ไปทางพระบรมราชานุสาวรีย์ พากันพูดถึงพระบารมีของพระองค์และขอให้ผมส่งภาพให้ทางไลน์
ต่อมาผมนำภาพนี้ไปขยาย ใส่กรอบรูป แจกจ่ายไปทุก สน. ในเขตปกครอง
<พระเจ้าตากสินมหาราช>
พระทรงเกียรติ ทรงชัย ยิ่งใหญ่นัก
ทรงพิทักษ์ รักษ์แผ่นดิน ถิ่นสยาม
ทุบหม้อข้าว เข้าเมืองจันท์ ไม่ครั่นคร้าม
ทรงปราบปราม รวมก๊กเหล่า เข้าเป็นไท
ศึกภายใน ราบคาบ ปราบพม่า
เอาเอกราช คืนมา หาช้าไม่
ตีค่ายโพธิ์สามต้น สุกี้พระนายกอง ต้องตายไป
พระเจ้าตากฯ จึงยิ่งใหญ่ ในใจเรา
ป.ล.
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
- ทรงตีเมืองจันท์ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2310
- ทรงตีค่ายโพธิ์สามต้น ปราบสุกี้พระนายกอง เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2310
- ทรงครองราชสมบัติ เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2310
ด้วยความสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ
พล.ต.ต.ไอยศูรย์ สิงหนาท