วันที่ 11 ธันวาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบการจ้างงาน สภาพการจ้าง การบังคับใช้แรงงานหรือบริการ และการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว โดยมี นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวรายงาน ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ร่วมเป็นเกียรติ วิทยากร และผู้เข้ารับการอบรมร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องบอลรูม 2 ชั้น 3 โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ผมมีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบการจ้างงาน สภาพการจ้าง การบังคับใช้แรงงานหรือบริการ และการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว ในวันนี้ กระทรวงแรงงานดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ รวมถึงปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมือง การทารุณกรรมต่อแรงงานต่างด้าว ซึ่งขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล ในการใช้กฎหมายแรงงาน เพื่อดูแลสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว ไม่ให้ถูกละเมิดสิทธิ์ โดนบังคับใช้แรงงานค้ามนุษย์ และการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย ซึ่งเป็นการทำงานเชิงรุกของเจ้าหน้าที่ โดยต้องให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ มีการเพิ่มศักยภาพด้านการป้องกันและปราบปรามให้แก่คณะทำงานเฉพาะกิจ เพื่อให้สามารถบังคับใช้กฎหมาย ทำงานได้ตามมาตรฐาน การปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงแรงงานพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนการบังคับใช้แรงงานและการค้ามนุษย์ในประเทศไทย รวมทั้งการป้องปรามแรงงานต่างด้าวแย่งอาชีพคนไทย ซึ่งสามารถตรวจสอบอาชีพห้ามคนต่างด้าวทำได้ที่เว็บไซต์กรมการจัดหางาน www.doe.go.th
“ผมขอขอบคุณวิทยากรทุกท่านจากกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กรมการปกครอง กรมการจัดหางาน และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ที่มาให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน” นายพิพัฒน์ กล่าว
ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า การอบรมในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ มีความรู้เกี่ยวกับหลักการป้องกันตัวเบื้องต้นในการลงพื้นที่เพื่อความปลอดภัยในการทำงาน และสามารถบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ การค้ามนุษย์ การใช้แรงงานผิดกฎหมาย และการใช้แรงงานเด็ก อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายกระทรวงแรงงานในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยเพื่อประโยชน์อันสูงสุดต่อแรงงานทุกคน พร้อมบังคับใช้กฎหมายแรงงานเพื่อดูแลสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานต่างด้าวโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติภายใต้ความสมดุลทั้งในด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และสิทธิมนุษยชน ซึ่งกระทรวงแรงงานขอขอบคุณผู้เข้าร่วมอบรมจากทุกหน่วยงาน จำนวน 95 คน ที่ได้บูรณาการทำงานร่วมกัน ประกอบด้วย กรมการปกครอง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กองทัพบก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมประมง กรมเจ้าท่า ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล กองทัพเรือ กรุงเทพมหานคร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
