การเมือง

กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ “ไพศาล” ชี้ช่อง กวาดล้างนักการเมือง-ข้าราชการชั่ว ให้เร็วขึ้น


21 พฤศจิกายน 2024, 12:18 น.

 

ช่องทางกำจัดกวาดล้าง นักการเมืองโกงข้าราชการชั่วให้เร็วขึ้น

 

ขณะนี้มีความเข้าใจไขว้เขวกันทั่วไปว่าการเอาผิดกวาดล้างข้าราชการและนักการเมืองชั่วทั้งหลายจะต้องไปร้องต่อ ป.ป.ช. องค์กรเดียวเท่านั้น 

 

ซึ่งผลที่เกิดขึ้นคือการดำเนินงานที่ล่าช้าไม่ทันต่อสถานการณ์ เพราะกว่า ป.ป.ช. จะลงมือตรวจสอบไต่สวนก็ใช้เวลานาน และเวลาที่ใช้ในการตรวจสอบไต่สวนก็นานมาก กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ไปแล้ว ที่สำคัญคือไม่สามารถหยุดยั้งการก่อกรรมทำเข็นของนักการเมืองโกงและข้าราชการชั่วได้ ทำให้คนเหล่านี้ไม่เกรงกลัวกฎหมาย หึกเหิมลำพอง และทำให้ชาติบ้านเมืองเสียหาย ทำให้ประชาชนเดือดร้อน

 

รัฐธรรมนูญบัญญัติให้ ป.ป.ช. มีอำนาจตรวจสอบไต่สวนและดำเนินคดีความผิดที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการการเมืองหรือข้าราชการประจำ แต่มิได้หมายความว่าตัดอำนาจองค์กรอื่นที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย เช่น ตำรวจหรือดีเอสไอ ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้ยังคงมีอำนาจสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีอาญาได้อยู่เหมือนเดิม แต่มีข้อจำกัดว่า ถ้าผู้กระทำความผิดทางอาญาเป็นข้าราชการการเมืองหรือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทางตำรวจหรือดีเอสไอจะต้องสรุปผลการสอบสวนส่งให้ ป.ป.ช. พิจารณาดำเนินการต่อไป

 

ในกรณีนี้จะสามารถดำเนินการได้รวดเร็วกว่า เพราะตำรวจหรือดีเอสไอมีอำนาจสืบสวนสอบสวนได้ก่อนว่ามีการทำความผิดทางอาญาเกิดขึ้น และผู้ทำความผิดเป็นใคร ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ  ตำรวจหรือดีเอสไอ ก็ต้องสรุปผลการสืบสวนสอบสวนส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อไป

 

ดังนั้นจึงมีเส้นทางเดินที่รวดเร็วอีกเส้นทางหนึ่ง คือ แทนที่จะไปร้องต่อ ป.ป.ช. ทางเดียวเหมือนที่ผ่านมาก็สามารถไปร้องต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือดีเอสไอได้ โดยเรียกว่าเป็น “การกล่าวโทษ” ว่ามีการกระทำความผิดทางอาญาเกิดขึ้นแล้วขอให้มีการสืบสวนสอบสวนว่าใครกระทำความผิดเพื่อดำเนินคดีต่อไป ซึ่งตำรวจ และ DSI สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว

 

ดังนั้นเพื่อยับยั้งการทำผิดทำชั่วของนักการเมืองโกงและข้าราชการชั่ว ประชาชนจึงสามารถไป “กล่าวโทษ” ว่ามีการทำความผิดทางอาญาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือดีเอสไอได้ ซึ่งตามระเบียบการตำรวจว่าด้วยคดีก็จะมีการดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาว่ามี การกระทำ ความผิดทางอาญาเกิดขึ้นหรือไม่ และใครเป็นผู้กระทำผิดนั้น เมื่อทราบตัวผู้กระทำความผิดและเป็นข้าราชการการเมืองหรือเป็นข้าราชการ ทางตำรวจหรือดีเอสไอ ก็ต้องส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ต่อไป ซึ่งเท่ากับว่าได้อาศัยตำรวจสืบสวนมาครึ่งทางแล้วก็จะดำเนินการได้รวดเร็วและป้องกันความเสียหายแก่ประเทศชาติและประชาชนได้มากขึ้น

 

ขอให้เราทั้งหลายได้เลิกความเข้าใจไขว้เขวนี้เสีย และทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้ถูกต้อง และถ้าประสงค์จะช่วยชาติบ้านเมือง ก็ไปกล่าวโทษในเรื่องการทำความผิดอาญาต่อตำรวจหรือดีเอสไอเถิด น่าจะเกิดผลรวดเร็วขึ้น

 

ขอบคุณข้อมูลจาก ‘Paisal Puechmongkol’

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดการเมือง

เรื่องล่าสุด