“เรื่องกฏแห่งกรรมนั้น มีความเชื่อแฝงในจิตสำนึก คนไทยมายาวนาน หากทำความดี จะได้รับกรรมดี ตอบสนอง ทำสิ่งใด จะได้รับสิ่งนั้น”
เหมือนคำพังเพยว่าไว้ ปลูกมะม่วง ได้กินมะม่วง ปลูกมะพร้าว ได้กินมะพร้าว ปลูกมะขาม แต่หวังกิน “แอปเปิ้ล” นั้นไม่มี..
สำนวนจีนโบราณกล่าว “ไม่มีแม่มังกรตัวใด ที่กำเนิดลูกออกมา เป็น งู ดินได้” แม่วัวย่อมออกลูกเป็นวัว จะเป็นงูเหลือม งูเขียว ก็จะพิสดารไปหน่อย
“ท.เลียงพิบูลย์” ผู้เผยแพร่เรื่องเล่า จากชีวิตชุด “กฏแห่งกรรม” กล่าวว่า สมัยที่ท่านอยู่ในวัยหนุ่ม เคยป่วยหนัก ถึงขั้น “วิญญาณออกจากร่าง” และได้พบกับ ท่านลุง ที่เคยนิมิตถึง มาพาวิญญาณ ของท่านไปชมภาพต่างๆ ทั้งนรก ! โลกมนุษย์ และภพสว่าง คือ “สวรรค์ สุคติภพ”
ท่านลุงบอกว่า คนเราถึงแก่กรรมแล้ว จะต้องไปอยู่ ในภพนั้นๆ ภพใดภพหนึ่ง ตามแต่กรรม ที่ได้ก่อไว้ เป็นเวลานาน กว่าจะได้เกิดใหม่
“ใครทำกรรมไว้มาก โกงชาติ โกงแผ่นดิน กินรถถัง เครื่องบิน ซุกหุ้น คอร์รับชั่น ฯลฯ ก็จะเผชิญ กับผลกรรม ที่เจ็บปวด ในทุคติภพ หรือ นรก หลีกเลี่ยงไม่ได้”
ท.เลียงพิบูลย์ เขียนเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นเรื่องจริง ในตำนาน จากประสบการณ์ โดยตรง กว่า 200 เรื่อง หวังเผยแพร่เป็นวิทยาทาน เรื่อง “บุญ -บาป” เป็นแง่คิดเตือนใจ ให้คนในสังคม ก่อนจะตัดสินใจ ก่อกรรมดี หรือกรรมชั่ว
เป็นกำลังใจ การทำความดี และเกรงกลัวต่อบาป ดั่งความเชื่อมานานแล้วว่า
“ทำดีได้ดี ทำชั่ว ได้ชั่ว !”
บางท่านบอกว่า “กรรมสมัยนี้ติดจรวด” มาเร็วกว่าชาติหน้าเสียอีก ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีผู้บอกว่าทุกวันนี้ “กรรม” ในยุคดิจิตอล มาเร็วกว่าหลายเท่านัก
บรรดา “นักการเมือง” ทั้งหลาย ไม่ว่าจะนั่งในกระทรวงเกรด เอ เกรดบี ซุ้มไหนๆ ในการปรับ ครม.ใหม่ เที่ยวนี้ หรือเที่ยวหน้า พึงสำนึก และสำเหนียก ให้มากอข้าไว้
“เห็นกันชาตินี้แหละ ! ไม่ต้องหวังชาติหน้า ! “
//////
ขอบคุณภาพจาก : Pngtree, workpointTODAY, Siammelody, ThaiWIKIHow