6 พฤศจิกายน 2567 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้นางสาวขวัญจิต สุดสวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจและกิจการสัมพันธ์ประจำภูมิภาคอาเซียน บริษัท ซีเกท (ประเทศไทย) จำกัด และคณะเข้าพบ เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมแนะนำบริษัทฯ การดำเนินธุรกิจในประเทศไทย รวมทั้งรับทราบวิสัยทัศน์และนโยบาย “การปฏิรูปอุตสาหกรรม” หารือถึงฐานการผลิตในประเทศไทยของบริษัทฯ ที่จังหวัดนครราชสีมา สมุทรปราการ และความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม ในการถ่ายทอดความรู้และทักษะแรงงานไทยในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม นายอรรถวิชช สุวรรณภักดี ประธานที่ปรึกษาคณะทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ด้านยุทธศาสตร์ นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมประชุม ณ อาคารการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ถนนวิภาวดีรังสิต
บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยผลิตฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟแบบครบวงจร เช่น การผลิตนาโนทรานส์ดิวเซอร์ การประกอบหัวอ่าน-เขียนและชุดหัวอ่าน-เขียนสำเร็จรูป การประกอบฮาร์ดไดรฟ์สำเร็จรูป การทดสอบคุณภาพ รวมไปถึงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ มีฐานการผลิต 2 แห่ง คือ โรงงานซีเกท (เทพารักษ์) และโรงงานซีเกท (โคราช) ซึ่งเน้นกระบวนการผลิตด้วยเครื่องจักรที่สามารถรองรับเทคโนโลยีใหม่ได้ดียิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยภาพรวม ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญของอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ และอุตสาหกรรมห่วงโซ่อุปทาน โดยปริมาณการส่งออกของทั้งอุตสาหกรรม ถือเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยตลาดส่งออกหลัก คือ สหรัฐอเมริกา จีน ฮ่องกง เนเธอร์แลนด์และสิงคโปร์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม ได้กำหนดนโยบาย “การปฏิรูปอุตสาหกรรม” สู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม การสร้าง Supply Chain หรือห่วงโซ่อุปทานให้เกิดขึ้นสู่ความยั่งยืน โดยมีการบูรณาการนโยบายในการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy เน้นการใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบต่างๆ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และการนำวัสดุเหลือทิ้งเดิมมาเพิ่มมูลค่าสูงทางอุตสาหกรรม ซึ่งช่วยลดขยะและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม นอกจากนี้ ควรมีการนำ Ecosystem ในการบริหารจัดการของเสียอันตรายจากภาคอุตสาหกรรม โดยทางกระทรวงฯ ได้เร่งดำเนินการปรับปรุงกฎหมายเพื่อการปฏิรูปอุตสาหกรรม ยกร่างกฎหมายฉบับใหม่เพื่อบูรณาการภารกิจด้านการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมเป็นกฎหมายเฉพาะ แยกออกมาจากกฎหมายว่าด้วยโรงงาน และเพิ่มภารกิจด้านการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งดำเนินการจัดตั้งกองทุนปฏิรูปอุตสาหกรรมขึ้น เพื่อรวมกองทุนทั้งหมดและจัดตั้งเป็นกองทุนที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนและพัฒนาการปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ นอกจากนี้ ยังได้ชื่นชมบริษัท ซีเกท (ประเทศไทย) จำกัด ที่เป็นต้นแบบอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะที่ดี พร้อมให้ความร่วมมือกับทางกระทรวงอุตสาหกรรมในการถ่ายทอดความรู้และพัฒนาแรงงานไทย พัฒนาบุคลากร และถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ สู่ปฏิรูปอุตสาหกรรมในอนาคต