พลอากาศตรี ณัฎอรรจน์ ถวิลหวัง นายกสมาคมชาวอีสานได้แจ้งข่าวใหญ่ ผ่านสื่อออนไลน์ หรือสื่อดิจิตอล (Digital media) ว่า วาระศุภมงคลสมัย ที่สมาคมชาวอีสาน จะครบรอบ 99 ปี ใน พ.ศ.2568 คณะกรรมการและมวลหมู่สมาชิกสมาคมชาวอีสาน พิจารณา เห็นว่าองค์พระธาตุพนม เป็นปูชนียสถานสำคัญ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชน มายาวนานกว่า 2,500 ปี

ขณะเดียวกัน สมาคมชาวอีสาน มีตราสัญลักษณ์ “รูปองค์พระธาตุพนม” เป็นศูนย์รวมจิตใจที่สมาชิกและคณะกรรมการสมาคมฯ เคารพศรัทธาเลื่อมใสมาตลอดเสมือนเป็น “ลูกพระธาตุ” ได้มีมติเห็นพ้องต้องกัน จะจัดสร้างวัตถุมงคล “องค์พระธาตุพนม” ให้ยิ่งใหญ่จารึกไว้ในประวัติศาสตร์แห่ง “พุทธศตวรรษที่ 26” 

ความคืบหน้าในการจัดงานครั้งประวัติศาสตร์ดังกล่าว พล.อ.ต.ณัฎอรรจน์ ถวิลหวัง นายกสมาคมชาวอีสาน พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคมฯ อาทิ พล.ท.จารุมาศ เรืองสุวรรณ, ดร.สมศักดิ์ มีเสถียร, ท่านธนาดิษฐ์ บุญรักษา, คุณกรพงศ์ แจ้งยุบล และ คุณวริศรา ยางม่วง ได้เดินทางไปกราบนมัสการ พระเดชพระคุณ พระธรรมวชิรโสภาณ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 เจ้าอาวาส วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เพื่อปรึกษาหารือ และขออนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคล องค์พระธาตุพนม เมื่อวันที่ 14-15 ตุลาคม 2567

ทั้งนี้ พระเดชพระคุณ ท่านเจ้าอาวาส วัดพระธาตุพนมฯ ติดกิจนิมนต์ จึงมอบหมายพระครูพนมปรีชากร ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดพระธาตุพนมฯ (เลขานุการเจ้าอาวาสฯ) รับเรื่องการขออนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคล องค์พระธาตุพนม พร้อมกับให้คำปรึกษาแนะนำพิธีกรรมต่างๆ ตลอดจนการเตรียมงานกับสมาคมชาวอีสาน อย่างดียิ่ง

การสร้างวัตถุมงคล องค์พระธาตุพนมฯ ที่จะครบรอบ 99 ปี ในปี พ.ศ. 2568 ของสมาคมชาวอีสาน ได้กำหนดวัตถุประสงค์ไว้ ดังนี้

1. เพื่อความเป็นสิริมงคล ของพุทธศาสนิกชนชาวไทยและ สปป.ลาว ตลอดจนประชาชนทั่วโลก ได้บูชาและเก็บรักษาไว้
2. เพื่อทำบุญใหญ่ให้กับประเทศ และอุทิศส่วนกุศลให้บูรพคณาจารย์ ตลอดจนประชาชนผู้ล่วงลับจากภยันตราย และภัยพิบัติในอดีต
3. เพื่อเป็นพลังสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Solf Power) ของท้องถิ่นและประเทศไทย
4. เพื่อนำรายได้ สนับสนุนกิจการสาธารณะประโยชน์ของสมาคมชาวอีสาน ได้แก่ ให้ทุนการศึกษากับเยาวชนผู้ด้อยโอกาส และช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ

ประกอบกับเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2560 รัฐบาลไทยได้ขอขึ้นทะเบียนพระธาตุพนมฯ เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ต่อองค์การยูเนสโก ขั้นตอนขณะนี้อยู่ระหว่างการรับประเมินค่าทางวิชาการจากกรรมการมรดกโลกฯ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ภายในปลายปี 2567 หรือต้นปี พ.ศ.2568 ดังนั้น สมาคมชาวอีสานจะใช้วาระอันเป็นมงคลนี้ เชิญชวนประชาชนทั่วโลกมาร่วมพิธีพุทธาภิเษกฯ เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่า องค์พระธาตุพนม เป็นศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสากล

อนึ่ง เมื่อกระทำพิธีพุทธาภิเษกหรือปลุกเสกเหรียญต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว สมาคมชาวอีสาน จะเปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาบูชาวัตถุมงคล องค์พระธาตุพนมฯ ต่อไป และจะจัดสรรเหรียญ องค์พระธาตุพนมฯ นำไปมอบให้ทหาร, ตำรวจ, พลเรือน และผู้ปฏิบัติหน้าที่ราชการชายแดนทั่วประเทศ อีกด้วย