ข่าวประชาสัมพันธ์

‘สุชาติ’ หารือผู้นำเข้าเกาหลีใต้ เร่งผลักดันส่งออกสินค้าไทย หนุนไทยลงทุนธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ตั้งเป้าก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน


26 กันยายน 2024, 13:34 น.

 

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 ณ สาธารณรัฐเกาหลี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือกับผู้นำเข้าสินค้าไทยในเกาหลีใต้ 3 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท KT&F จำกัด (ชาวไทย) บริษัท Hyolim จำกัด (ชาวเกาหลี) และบริษัท LTM Food KP จำกัด (ชาวเกาหลี) เพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าไทยไปยังสาธารณรัฐเกาหลี

 

 

นายสุชาติ กล่าวว่า การหารือกับนายไมเคิล บริษัท Hyolim Ltd. ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าข้าวไทยรายใหญ่ในเกาหลีใต้ โดยแจ้งว่า ปัจจุบันการนำเข้าข้าวทั้งหมดได้รับการดูแลจัดการโดย Korea Agro-Fisheries และ Food Trade Corporation (aT Center) ซึ่งไทยได้รับจัดสรรโควตาแบบรายประเทศ ประมาณจำนวน 28,494 ตัน/ปี และมีสิทธิเข้าร่วมประมูลโควตารวมอีก 20,000 ตัน/ปี เกาหลีใต้ถูกบังคับให้จำเป็นต้องทำตามภาคผนวก Annex 5 ของ WTO เพื่อกำหนดอัตราภาษีนอกโควตา โดยรัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศว่าอัตราภาษีนอกโควตาอาจจะเป็น 513% ทั้งนี้ มองเห็นว่าตลาดข้าวหอมมะลิของไทยมีโอกาสมากในตลาดเกาหลีใต้ โดยสามารถบริโภคได้ถึง 1,000 ตันต่อปี แต่ปัจจุบันยังสามารถนำเข้ามาได้ไม่เต็มที่ เพราะติดปัญหาโควตา ซึ่งสามารถนำเข้ามาได้ประมาณ 200 ตันต่อปี ดังนั้น หากสามารถผลักดันให้สามารถส่งออกข้าวหอมมะลิได้มากขึ้น จะส่งผลดีต่อการส่งออกของไทย รวมทั้งอาจส่งผลดีต่อการขยายสินค้าข้าวหอมมะลิไทยเข้าสู่ร้านอาหารไทยเพิ่มขึ้น

 

 

สำหรับการหารือกับ Mr. Kenny Park บริษัท LTMFood KP Co.,Ltd ผู้นำเข้าไก่รายใหญ่ของเกาหลีใต้ ได้รายงานถึงตลาดไก่ไทยในเกาหลีใต้ ว่าเนื้อไก่ดิบเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งออกก่อนปี 2547 แต่หลังจากไข้หวัดนก เนื้อไก่แปรรูปด้วยความร้อนได้เติบโตอย่างจริงจัง โดยเนื้อไก่ดิบได้กลับมานำเข้ามาอีกครั้ง ตั้งแต่ปี 2560 โดยมีบราซิลเป็นคู่แข่งในส่วนขาและอก และมีเดนมาร์กเป็นคู่แข่งในส่วนปีก เนื้อไก่แปรรูปแข่งขันกับจีน แต่ไทยมีความโดดเด่นกว่าแม้จะมีราคาที่สูงก็ตาม โดยเฉพาะสินค้านำเข้าจากประเทศไทยมีเพิ่มมากขึ้นในส่วนของสินค้าประเภทไก่ย่างถ่าน ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2561 มีปริมาณไก่ที่นำเข้าจากยุโรปเพิ่มขึ้น เนื่องจากภาษี 0% ปัจจุบันความยากลำบากในการนำเข้าผลิตภัณฑ์เนื้อไก่แปรรูปคือต้นทุน ถึงแม้ว่าสินค้าไทยจะได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพดีขึ้นในตลาด แต่ปริมาณการนำเข้าทั้งหมดยังอยู่ที่ 10% เมื่อเทียบกับของประเทศคู่แข่งเช่นบราซิล ดังนั้น หากการเจรจาในครั้งนี้สามารถผลักดันภาษีของไทยลดลงเป็น 0% ได้ผู้นำเข้าหลายรายจะนำเข้าสินค้าจากไทยมากขึ้น

 

 

นอกจากนี้ รมช.สุชาติ ยังได้หารือกับคุณประไพ ผู้ก่อตั้งบริษัท KT&F Co.,Ltd ซึ่งเป็นชาวไทยที่มาอาศัยอยู่ประเทศเกาหลีใต้นานกว่า 30 ปี โดยเริ่มต้นการทำธุรกิจจากการปลูกผักไทยจำหน่ายก่อน จากนั้นจึงเริ่มขยายกิจการในการนำเข้าสินค้าอุปโภคและบริโภคของไทยมาจัดจำหน่าย โดยกลุ่มลูกค้าหลักเป็นแรงงานชาวไทยและชาวเอเชียที่อาศัยอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ ปัจจุบันมีโกดังจำหน่ายสินค้าทั้งปลีกและส่ง 1 โกดัง โรงงานผลิตอาหารแปรรูป อาทิ ไส้กรอกอีสาน ลูกชิ้นหมู ไส้อั่ว หมูแดดเดียว และอื่นๆ 1 โรงงาน โรงงานผลิตขนมไทยและเบเกอรี่ 1 โรงงาน และโรงเรือนปลูกผักไทย 2 โรงเรือน ได้แจ้งว่าอัตราภาษีนำเข้าสินค้าหลายประเภทจากไทย มีอัตราภาษีนำเข้าสูงกว่าสินค้าเวียดนาม ทำให้สินค้าเราเสียเปรียบ เช่น ปลาน้ำจืดแช่แข็ง รวมทั้งการตรวจสารตกค้างผักนำเข้า ใช้เวลานาน 2-4 วัน ทำให้ผักไม่สด ไม่สามารถนำมาขายต่อได้ทัน จึงขอความอนุเคราะห์ในการเจรจาปรับลดภาษีในการนำเข้าต่างๆ เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้มากขึ้น

 

 

ทั้งนี้ นอกจากผู้ประกอบการไทยที่เข้าไปดำเนินธุรกิจในเกาหลีใต้ในกลุ่มร้านอาหารไทยและผู้นำเข้าและกระจายสินค้าไทยแล้ว ยังมีนักลงทุนของไทยรายใหญ่ที่เข้าไปลงทุนในเกาหลีใต้ โดยเฉพาะในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน คือ บริษัท บี. กริม พาวเวอร์ จำกัด มหาชน ซึ่งเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ของปี 2567 โดยมีมูลค่าการลงทุนถึง 129,000 ล้านบาท เป็นการลงทุนด้านพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม และถือเป็นเอกชนรายแรกที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลเกาหลีใต้ในการนำเทคโนโลยี “กังหันลมไฟฟ้าขับเคลื่อนตรง” มาใช้เป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นสาขาการลงทุนที่รัฐบาลเกาหลีใต้ให้ความสำคัญเนื่องจากเป็นการสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ

 

“ผมได้ขอให้รัฐบาลเกาหลีใต้ให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนของไทย ด้วยเห็นว่าเป็นการลงทุนที่ตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวของเกาหลีใต้ และก็ตรงกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่ต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งทั้งสองประเทศได้ตั้งเป้าหมายตรงกันในการก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 หรืออีก 25 ปี ข้างหน้า” นายสุชาติ กล่าว

 

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดข่าวประชาสัมพันธ์

เรื่องล่าสุด