พิชัยสงครามว่าไว้ว่า ถ้าข้าศึกไม่ประสงค์เข้าตี แค่ขีดเส้นบนพื้นข้าศึกก็ไม่เข้าตี
สภาพรัฐบาลอุ๊งอิ๊งตอนนี้ก็เหมือนกัน
1. ข้าศึก ลั่นกลองรบ โหมกระหน่ำเข้าตีในแนวรบด้านกฎหมายไม่เว้นแต่ละวัน ถึงขณะนี้ก็มีการร้องให้ดำเนินคดีอาญา ร้องให้ยุบพรรค ร้องให้ถอดถอนนายกออกจากตำแหน่ง เกือบ 10 คดีแล้ว และยังโหมกระหน่ำร้องเข้ามาจากทุกทิศไม่หยุดไม่หย่อน พลาดพลั้งเข้าสักเรื่องก็จบเห่กัน
2. เหตุที่ข้าศึกโหมกระหน่ำเข้าตีแนวรบด้านกฎหมาย ก็เพราะคิดเห็นว่า เป็นแนวรบที่อ่อนเปราะบางที่สุด และตีให้แตกง่ายที่สุด และเป็นจุดอ่อนที่สุด ที่ยังไม่แก้ไขให้ตกไป แม้ถูกยุบพรรคมาแล้วถึง 2 ครั้ง นายกฯ ถูกถอดถอนมาแล้ว 4 คน อดีตรัฐมนตรี และไพร่พล ถูกศาลตัดสินจำคุกนับ 10 คน ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาจุดอ่อนนี้ให้ตกไปได้
ข้าศึกจึงหวังจะได้ชัยในแนวรบนี้ ดังนั้นข้าศึกจึงโหมเข้าตี ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา และจนวันนี้ก็ยังไม่เห็นว่าฝ่ายรัฐบาลได้ตั้งแนวรับทางกฎหมาย หรือจัดกระบวนรบทางกฎหมายแต่อย่างใด ด้านหนึ่งจึงถูกปฏิบัติการด้านจิตวิทยามวลชนหรือ io กระหน่ำตีจนเป็นมารร้ายของแผ่นดินไปแล้ว
อีกด้านหนึ่งคดีความทุกประเภทก็โหมเข้ามาทุกทิศ เพราะข้าศึกเห็นว่าจะได้ชัยจากแนวรบนี้นั่นเอง
3. ถ้าเมื่อใดที่ข้าศึกไม่ประสงค์จะเข้าตี ต่อให้ขีดเส้นไว้ที่พื้นดิน ข้าศึกก็จะไม่เข้าตี เพราะไม่เห็นประโยชน์ หรือชัยชนะนั่นเอง
4. การที่รัฐบาลยังไม่สามารถจัดทีมกฎหมาย ก่อตั้งแนวรับในแนวรบนี้ จึงมีแต่เจ๊งกับเจ๊ง
เจ๊งแรกคือถูกปฏิบัติการจิตวิทยามวลชน หรือ io สร้างความไม่พอใจกระทั่งเป็นความเกลียดชังเพิ่มขึ้นทุกวัน อีกเจ๊งหนึ่งก็เป็นคดีความที่โหมเข้ามาทุกทิศทาง ถ้าหากไม่มี 4 เศียร 8 กร ดุจพระพรหมจะรับมือไหวหรือ?
Cr. Paisal Puechmongkol