กาลครั้งหนึ่ง ไม่นานนัก มีกบหนุ่มรูปหล่อ กับกบสาวแสนสวย ต่างตกร่องปองใจรักจึงแต่งงานกัน
กบหนุ่มกับกบสาวเชิญกบมาเป็นสักขีพยานรักมากมาย มีคางคกมาร่วมงานด้วยหลายตัว แต่กบหนุ่มกับกบสาว พากันไล่ตะเพิดให้ออกไปจากงานด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์พร้อมกับพูดด้วยอารมณ์โกรธว่า <ช่างไม่เจียมกะลาหัวตัวเองบ้าง เป็นแค่คางคกจะมาอยู่ในสังคมกบได้อย่างไร ?>
เหล่าคางคกจึงพากันล่าถอยออกจากงาน ไปอยู่ริมป่า มองดูฝูงกบกินเลี้ยงกันแอบอิจฉานิด ๆ แต่ก็คิดได้ว่าตัวเองนั้น เป็นแค่คางคก
ระหว่างที่บรรดากบกำลังปาร์ตี้กันอย่างสนุกสนานนั้น นกกระยางคอยาว ได้ยินเสียงกบร้องอึงคนึงจึงชวนกันบินไปตามเสียงร้องของกบ แล้วพากันลงไปจิกกินกบเป็นอาหารอย่างเอร็ดอร่อย
กบหนุ่มกับกบสาว พากันกระโดดหลบหนีออกไปได้ทัน จึงรอดตาย
ต่อมา กบสาวได้ให้กำเนิดลูกออกมาหลายตัว แต่ทว่า ลูกที่ออกมานั้นดันมีลักษณะเป็นเหมือนกับคางคกมีตะปุ่มตะป่ำไปทั่วทั้งตัว
กบสาวรู้สึกตกใจ อึดอัด และเสียใจ จึงพูดกับกบหนุ่มว่า <พี่จ๋า น้องขอโทษ น้องจะสารภาพความจริงพี่จะดุ จะด่า จะทำอย่างไร น้องยอมพี่ทุกอย่าง ขออย่างเดียวพี่โปรดเมตตาน้องกับลูก ๆ ด้วยนะจ๊ะ>
กบหนุ่มยิ้ม พูดด้วยความเมตตาว่า <มีอะไรก็พูดมา>
กบสาวส่งสายตามองกบหนุ่ม สูดลมหายใจลึก ๆ แล้วพูดเสียงสั่นเครือว่า <พี่จ๋า ก่อนที่น้องจะมาเป็นกบแสนสวย น้องเคยเป็นคางคกมาก่อนจ้ะ น้องไปทำศัลยกรรมมาจ้ะพี่จ๋า> กบสาวพูดแล้ว ก้มหน้า ไม่กล้าสบตากบหนุ่ม
ส่วนกบหนุ่ม พอได้ฟังคำพูดกบสาว จึงหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า <อย่าเสียใจไปเลยที่รัก ไม่ว่าน้องจะเป็นกบ หรือจะเป็นคางคกพี่ก็รักน้องเสมอ รวมทั้งลูก ๆ ของเราด้วย>
กบสาวเงยหน้าขึ้น ยิ้มทั้งน้ำตา พูดว่า <เป็นบุญของน้องกับลูก ๆ เหลือเกินที่มีพ่อพระอย่างพี่ให้ความเมตตา>
กบหนุ่ม ถอนหายใจเฮือก พูดเสียงเบา ๆ ว่า <น้องเอ๋ย ก่อนที่พี่จะมาเป็นกบรูปงามเหมือนอย่างนี้ พี่ก็เคยเป็นคางคกมาก่อนเหมือนน้องนะแหละ>
กบสาวฟังแล้ว อุทานเสียงดังว่า <อุ๊ต้ะ ! อกอีแป้นจะแตก>
กบหนุ่มกับกบสาว พาลูก ๆ คางคกไปพบกับฝูงกบ เพื่อเข้ากลุ่ม แต่ก็ถูกฝูงกบขับไล่เพราะลูกคางคก ไม่ใช่ลูกกบ
กบหนุ่มกับกบสาว จึงพาลูก ๆ คางคก ไปพบกับฝูงคางคกก็ถูกขับไล่เช่นเดียวกัน เพราะพ่อแม่ของลูก ๆ คางคกนั้น เป็นกบอยู่
จะไปอยู่กับใคร เขาก็ไม่ต้อนรับขับสู้ กบหนุ่ม กบสาว และลูก ๆ คางคก จึงต้องอยู่กันเพียงลำพังร่ำร้องรำพึงรำพันกับตัวเองว่า <วันใดวันหนึ่งได้ขึ้นวออย่ามาง้อก็แล้วกัน>
เสียงเทวดาแว่วมาตามสายลมว่า <เจ้ากบ เอ๊ยคางคกเอ๋ย ถ้าเจ้าลืมชาติกำเนิดของเจ้า ถ้าเจ้าลืมกำพืดของเจ้า ถ้าเจ้าลืมเพื่อนพ้องน้องพี่ของเจ้า เจ้าก็สมควรถูกโดดเดี่ยวแล้วละ แต่ถ้าเจ้าไม่เคยลืมชาติกำเนิดของเจ้า ไม่เคยลืมกำพืดของเจ้า ไม่เคยลืมเพื่อนพ้องน้องพี่ของเจ้า ทุกคนก็พร้อมที่จะ อ้าแขนรับเจ้า จงจำไว้ให้ดี>
อ้าว ! พูดเรื่องคางคกเรื่องกบ แต่กลับจบด้วยเรื่องคนซะนี่ !
ไม่ได้ว่าใคร มันเป็นแค่นิทานล่องหน
พล.ต.ต.ไอยศูรย์ สิงหนาท