ผู้ช่วย ผบ.ตร. เตือนการแข่งรถในทาง การขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย เป็นความผิดทางอาญา ศาลพิพากษาลงโทษหนัก ริบรถของกลาง ล่าสุด สน.คันนายาว จับกุมกลุ่มเด็กแว้นรวมตัวกันย่านรามอินทรา ผู้ต้องหาเด็กสุดอายุ 13 ปี
เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2567 พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดถึงกรณีจับกุมกลุ่มเด็กแว้น รวมตัวแข่งรถในทาง เตรียมส่งฟ้องศาล
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว ได้รับแจ้งจากสายด่วน 191 ว่ามีกลุ่มรถจักรยานยนต์รวมตัวกันเพื่อแข่งรถในทางอยู่บ่อยครั้ง จึงได้สืบสวนหาข่าวผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย พบว่าผู้ใช้ facebook ชื่อ “รามอินทรารถซิ่ง และเจ้าพ่อหลังถนน” โพสต์ข้อความชักชวนกลุ่มวัยรุ่นที่ชื่นชอบการแข่งรถในทางโดยนัดหมายรวมตัวกันเพื่อแข่งรถในทาง ในวันที่ 27 ก.ค 2567 เวลา 01.15 พร้อมข้อความ “01.15 แยกซาฟารีเวิลด์ ตรงต่อเวลา ใครเข้าก่อนยก เน้นแต่รถเปิด #ไม่เชื่อฉันแล้วจะเชื่อใคร #ที่นี่รามอินทรา”
ต่อมา พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.คันนายาว, พ.ต.ท.อภิชนฌาณ ครามสูงเนิน รอง ผกก.ป.สน.คันนายาว, พ.ต.ต.โพชชง เสืองาม สวป.สน.คันนายาว พร้อมกำลังตำรวจ นำกำลังเข้าตรวจสอบจับกุมกลุ่มรถจักรยานยนต์ตามวันและเวลาที่นัดหมายดังกล่าว จากการตรวจสอบพบกลุ่มรถจักรยานยนต์จำนวนกว่า 20 คัน รวมกลุ่มกันเตรียมพร้อมที่จะจัดการแข่งขัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวและขับรถจักรยานยนต์สายตรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม เมื่อกลุ่มรถจักรยานยนต์ดังกล่าวสังเกตเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตกใจกลัว และได้แยกย้ายขับรถหลบหนีไปคนละทิศละทาง โดยมี 5 รายที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ จึงได้นำตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 5 มาที่ สน.คันนายาว เพื่อทำบันทึกจับกุม โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา
ผู้ต้องหาที่ 1 นายเกียรติยศ อายุ 17 ปี ข้อหา “พยายามแข่งรถในทาง และเป็นผู้ขับขี่รถไม่มีใบอนุญาตขับขี่”
ผู้ต้องหาที่ 2 นายภัทรดนัย อายุ 20 ปี ข้อหา “พยายามแข่งรถในทาง และเป็นผู้ขับขี่รถไม่สวมหมวกนิรภัย”
ผู้ต้องหาที่ 3 นายฐนิสพงษ์ อายุ 19 ปี ข้อหา “พยายามแข่งรถในทาง”
ผู้ต้องหาที่ 4 ด.ช.พินิจ อายุ 13 ปี ข้อหา “พยายามแข่งรถในทาง, เป็นผู้ขับขี่รถไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และเป็นผู้ขับขี่รถไม่สวมหมวกนิรภัย”
ผู้ต้องหาที่ 5 นายชินพัฒน์ อายุ 17 ปี ข้อหา “พยายามแข่งรถในทาง, เป็นผู้ขับขี่รถไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และเป็นผู้ขับขี่รถไม่สวมหมวกนิรภัย”
พร้อมยึดรถจักรยานยนต์ไว้เพื่อตรวจสอบอีก 5 คัน และจะนำตัวผู้ก่อเหตุส่งฟ้องศาลต่อไป
นอกจากนี้ พล.ต.ท.สำราญฯ ย้ำว่า คณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้วางแนวทางการดำเนินคดีอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ การแข่งรถในทาง การขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นวงกว้าง และเป็นความผิดทางอาญา ศาลพิพากษาลงโทษหนัก ริบรถของกลาง จึงอยากฝากเตือนพี่น้องประชาชน รวมถึงผู้ปกครองที่มีบุตรหลาน ให้ช่วยกันห้ามปราม อย่าปล่อยปละละเลยบุตรหลานของท่าน และอย่าเลียนแบบหรือกระทำตามในลักษณะนี้เด็ดขาด ซึ่ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ คณะทำงานฯ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รอง ผบ.ตร. ขับเคลื่อนงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ทั้งการโพสต์ชักชวน เชิญชวน บนสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็ดี ทั้งการรวมตัวบนท้องถนนก็ดี โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุร้ายที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง