เรื่องที่ร้อนกว่าการเมืองในปัจจุบันสำหรับการแสดงพลังอำนาจในการจับขั้วกลุ่มนู้นกลุ่มนี้ของนักการเมืองชื่อเก่าๆ ก็คือความเหิมเกริมของธุรกิจจีนเทาดำที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าทำไมไทยเราถึงตกอยู่ในสภาพนี้ ??
พูดถึงธุรกิจสีเทาสีดำที่มีผลกระทบกับไทยก็คงต้องเป็นธุรกิจที่มาจากประเทศจีนนั่นเอง แต่ขอให้ทุกคนแยกให้ออกนะครับว่าผมพูดถึงคนที่ทำธุรกิจ ที่เป็นคนไม่ดี และมาจากประเทศจีน มิใช่ไปว่าประเทศจีนเหมารวมทั้งหมดว่าไม่ดี เราต้องแยกกันให้ออกเสียก่อน
ตั้งแต่ธุรกิจการล่อลวงคนมาทำงานในบ่อน/คาสิโนออนไลน์ คอลเซนเตอร์ แสกมเมอร์ ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ใน 3 ประเทศเพื่อนบ้านของไทย เมียนมา ลาว และกันพูชาที่ตั้งเด่นเป็นสง่าให้เห็นโดยเฉพาะในประเทศเมียนมา เราคงไม่ก้าวล่วงไปประเทศเพื่อนบ้านว่าเค้าตั้งถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร หากแต่การมีสิ่งต่างๆ เหล่านี้อยู่และส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อคนไทยและประเทศไทย เราคงยอมมิได้
ทั้งการล่อลวงให้ไปทำงานที่ไม่ตรงปก และขบวนการนำพานำคนเข้ามาทั้งผ่านไทยและออกจากไทย ไม่ว่าเหยื่อจะยินยอมให้นำพาหรือไม่ สุดท้ายจบที่ขบวนค้ามนุษย์และมีเหยื่อที่ตกหลุมพรางวงจรอุบาทว์นี้เป็นหลักหมื่น ที่มาจากเกือบร้อยสัญชาติ หลายคนยอมจ่ายเงินค่าไถ่เพื่อหนีออกมาจากความอำมหิตของขบวนการนำพา หลายคนอยากจ่ายแต่ไม่มีเงิน หลายคนสามารถกลับไปพบญาติได้ แต่หลายคนก็หายสาบสูญเช่นกัน
เงินเทาดำมหาศาลเหล่านี้ได้ถูกนำพาเข้ามาในไทยแล้วฟอกด้วยธุรกิจถูกกฎหมายอย่างน่าฉงนว่าทำไมเงินมากมายขนาดนั้นถึงไม่มีการตรวจสอบเส้นทางทางการเงินอย่างถี่ถ้วนว่าเงินนั้นมาจากไหน เมื่อปี 2565 ก็มีการทลายและจับกุมกลุ่ม 5 มังกรจีนเทาที่เป็นข่าวใหญ่โต แต่ทำไมมันไม่จบ ??
ดูเหมือนเส้นทางการเงินระหว่างธุรกิจจีนเทาดำนี้จะบรรจบกันทั้งจากนอกประเทศและในประเทศไทย และยิ่งนานวันมันยิ่งขยายตัวและดูจะไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองใครๆ ใดๆ ทั้งนั้น วันนี้ตกใจที่มีข่าวเห็นป้ายประกาศเป็นภาษาจีนใหญ่โตมโหฬารตรงรัชดากลางกรุงที่ถือเป็นใจกลางของคนจีนว่าสามารถซื้อพาสปอร์ตประเทศต่างๆ เพื่อมาขอสัญชาติไทยได้ ราคาก็แล้วแต่ประเทศไป
เป็นไปได้เหรอ ?? แต่ที่น่าตกใจคือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องออกมาให้ข่าวว่า “ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ประเทศอื่นๆ เค้าก็ทำกัน !!”
เชื่อผมครับ มันผิดกฎหมายครับ โฆษณาชวนเชื่อ แถมหลอกลวงคนอื่นให้เข้าใจว่าสามารถช่วยเหลือในการได้มาซึ่งสัญชาติไทยได้ ผิดครับ !!
นี่มันเหิมเกริมถึงขั้นเข้ามานิ่มๆ แล้วขายสัญชาติไทยให้คนจีน (เพราะเขียนเป็นภาษาจีน) กันอย่างเอิกเกริกในใจกลางหัวใจของ กทม. ที่มีสถานเอกอัคราชทูตจีนประจำประเทศไทยตั้งอยู่ มันมากเกินไปครับ อธิปไตยของไทยถูกย่ำยี แล้วเรายังมานั่งเฉยบอกว่าไม่ผิดกฎหมายไม่ได้
อีกไม่นานเราอาจจะกลายเป็นเมืองขึ้นทางเศรษฐกิจทั้งผิดและถูกกฎหมายด้วยการฟอกเงินโดยไม่รู้ตัว นี่ยังไม่รวมถึงเส้นทางสายไหม (One Belt One Road) ที่เป็นกับดับหลุมพรางหนี้ทางการทูต (Debt Trap Diplomacy) ที่จะเกิดขึ้นจากโครงการแลนด์บริดจ์ที่จะผ่านชุมพรและระนองด้วยเงิน 1.1 ล้านล้านบาทอีกนะครับ
แต่ครั้งนี้ขอพูดแต่เรื่องจีนเทาดำนี่ก่อน ทำไมทั้งๆ ที่จับตู้ห่าวและแก๊งค์ 5 มังกรจีนเทาได้หลายคนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เส้นทางการเงินมันจะสืบไม่ได้เลยเหรอว่าเงินมันเดินทางไหน ?? ไอ้บ่อนหรือของผิดกฎหมายในไทยนั่นผมไม่กังวล แต่กังวลที่มันเอามาฟอกขาวแล้วเอากลับไปทำเทาและดำใหม่ แล้วกลับมาฟอกอีกนี่แหละที่สำคัญครับ รวมทั้ง ธนาคารในไทยทั้ง 5 ที่มีข่าวและถูกเชิญจาก กมธ.ความมั่นคงของสภาผู้แทนฯ มาชี้แจงเรื่องการสนับสนุนกิจการทางทหารในเมียนมา ลองคิดให้ดีครับมันปะติดปะต่อกันได้หมด
จะตามให้ติดครับ เรื่องนี้ยอมไม่ได้ เพราะอธิปไตยไทยถูกละเมิดอย่างแนบเนียน หรือหากเป็นการยินยอมโดยสมัครใจยิ่งเลวร้ายกว่าเก่าและต้องมีผู้รับผิดชอบครับ
cr. facebook ‘กัณวีร์ สืบแสง Kannavee Suebsang’