เดือน<กรกฎาคม>นี้ มีความหลังกับผมอยู่ ผมจะเล่าให้ฟังครับ
ผู้ที่รับราชการ ล้วนอยากได้<สองขั้น>กันทั้งนั้น แต่เดิมพิจารณาปีละครั้ง
คนโชคดี คนเก่ง คนที่นายรัก มักได้<สองขั้น>แถมได้บ่อยๆ แบบสูตรคูณนอกตำราเรียน สองสองหนึ่ง สองสองหนึ่ง
คนโชคไม่ดี คนไม่เก่ง คนที่นายไม่ค่อยรัก ก็ได้<ขั้นเดียว>และได้เช่นนั้นทุกปี
ต่อมา มีการเปลี่ยนแปลงการพิจารณาขั้นเป็นปีละสองครั้ง ครั้งละหนึ่งขั้น
ใครโชคดี ใครเก่ง ใครที่นายรัก ครึ่งปีแรกได้หนึ่งขั้น ครึ่งปีหลังลอยลำ อีกหนึ่งขั้นค่อนข้างแน่นอนรวมแล้วได้<สองขั้น>
ใครโชคไม่ดี หรือเก่งไม่เข้าตานาย แถมนายไม่ชอบขี้หน้าเสียอีก ครึ่งปีแรกได้ครึ่งขั้น แต่ครึ่งปีหลัง ยังได้หนึ่งขั้น นัยว่ามีขั้นเหลืออยู่เยอะ จึงได้ตามน้ำไป รวมแล้วจะได้<ขั้นครึ่ง>
อย่างไรก็ตาม คนโชคไม่ดี คนไม่เก่ง คนที่นายเมิน ได้ขั้นครึ่งสองปี รวมแล้วก็เป็นสามขั้น เปรียบเทียบกับแต่ก่อน ก็ยังพอปลอบประโลมใจได้บ้างว่า ได้สองขั้น ปีเว้นปี
ผมได้รับคำสั่งด่วนที่สุด ให้ไปเป็น ผกก.รร.ภ.9 จว.ยะลา เมื่อ<วันที่ 10 ก.ค. 2544>
เหตุผลพิเศษคือ
1. สมานฉันท์คนในหน่วย
2. ให้ไปต่อเติมอาคารเรียนรวมหกชั้น
วันแรกที่เดินทางไป รับตำแหน่ง ทำงานทันที เหตุผลข้อที่หนึ่งผ่านไปได้ด้วยดี
แต่เรื่องที่สองเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะอาคารเรียนรวมหกชั้นนั้น ผู้รับเหมาได้ทิ้งงานไปนานประมาณหนึ่งปีเศษ ยังเหลืองบประมาณอยู่อีก 17,500,000 บาท
ถ้าต่อเติมไม่เสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2544 <10 ก.ค. – 30 ก.ย. รวม 82 วัน> ก็จะต้องคืนงบประมาณกลับไปนับว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายใหญ่หลวงมาก
ไม่เคยทำมาก่อน แต่พยายามเรียนรู้ จนสามารถทำให้แล้วเสร็จได้ก่อนกำหนดเวลาสองวัน
นอกจากนี้ยังมีการ<ปรับภูมิทัศน์>รอบ ๆ อาคารหกชั้นอย่างสวยงาม
บนยอดอาคารด้านหน้ามี<ตราแผ่นดิน>ทำด้วยสแตนเลส ฉลุลาย ขนาด 2.30 เมตร ติดอยู่
บนยอดอาคารด้านหลังมี<ดาวเงินแปดแฉก>ทำด้วยสแตนเลส ขนาด 2.30 เมตร ติดอยู่
ทั้งการปรับภูมิทัศน์ ตราแผ่นดินและดาวเงิน คิดเป็นเงินหลายแสนบาทไม่ได้ใช้งบประมาณของทางราชการแต่อย่างใด
ภาคภูมิใจ ที่อาคารหกชั้น ได้กลายเป็น ศปก.ตร.สน.
ต้นปีงบประมาณ 2545 ได้จัดทำโครงการ<กองร้อยสีขาว>คือการอบรมให้ความรู้เยาวชนหญิงชายมุสลิม เกี่ยวกับเรื่องโรคเอดส์และยาเสพติด
บันทึกภาพและทำรายละเอียดของโครงการรวมเล่มนำเสนอไปยัง ผบช.ศ.
ผบช.ศ. ได้นำผมพร้อมด้วยสมุดบันทึกโครงการกองร้อยสีขาวไปพบ ผบ.ตร
ผบ.ตร. ชื่นชมมาก และได้เขียนด้วยลายมือตนเอง ชมเชยโครงการนี้อยู่บนปกสมุดหนังสือพร้อมทั้งลงลายมือชื่อและตำแหน่ง ผบ.ตร. กำกับไว้ด้านล่าง
ผมได้<หนึ่งขั้น>ในครึ่งปีแรก ภูมิใจมาก ปลื้มใจมาก คิดในใจว่า ปีนี้ต้องได้รวม <สองขั้น>แน่นอน ดังที่กล่าวแต่ต้น ขั้นในครึ่งปีหลังมีเยอะ
แต่ก็ยังคิดและทำงานเชิงรุกอยู่ตลอดเวลา
ในครึ่งปีหลัง ผมได้ทำโครงการ<ค่ายภาษาอังกฤษ>English Camp ที่ รร.ภ.9 และออกภาคสนามที่ จว.ภูเก็ต ทำรายงานพร้อมโครงการถึง ผบช.ศ.
ผบช.ศ. ได้สั่งการให้ รร.น. รร.ภ.1-8 ทำโครงการค่ายภาษาอังกฤษ English Camp เช่นเดียวกันกับ รร.ภ.9 โดยใช้โครงการของ รร.ภ.9 เป็นต้นแบบ
ในครึ่งปีหลังนี้ ผมได้ <ครึ่งขั้น> อ่านไม่ผิดหรอกครับ เจ็บนิด ๆ แต่เป็นสิทธิ์ของผู้บังคับบัญชา
ผู้บังคับบัญชาบางท่านโดยเฉพาะเพื่อนร่วมงานที่ รร.ภ.9 ให้กำลังใจผมแบบ<เต็มขั้น>แม้จะเเป็นเพียงคำพูดก็ตาม
วันหนึ่ง ระหว่างที่ผมเข้ารับการอบรมหลักสูตรบริหารงานตำรวจชั้นสูง <บตส.> อดีตผู้บังคับบัญชาไปบรรยายพิเศษ ผมนั่งอยู่หลังห้อง ท่านคงดูรายชื่อมาก่อนแล้ว ท่านมองมาที่ผม และทักทายเป็นภาษาอังกฤษว่า <Aiyasoon, how do you do ?>
ผมลุกขึ้นยืน ตอบกลับไปเสียงดังฟังชัดว่า <I’m fine, thank you sir.>
ท่านยิ้ม หัวเราะชอบใจ ผมก็ยิ้ม ผมไม่เคยโกรธท่านเลย เพราะแม้ท่านไม่ได้ให้ <สองขั้น> แต่ท่านก็ให้โอกาสในการทำงาน ขอบคุณครับ
ชะตาชีวิตผมเป็นเช่นนี้เอง ขนาดเคยได้<สองขั้นยศ> ตอนเป็น รอง สว. <ขั้นถึง ยศถึง> จาก ร.ต.ต. เป็น ร.ต.ท. ติดยศ ร.ต.ท. มาตั้งหลายเดือนผมยังถูก<ถอนขั้น>ให้ไปกินอัตราเงินเดือน ร.ต.ต. เหมือนเดิม
<เกียรติศักดิ์ รักษ์วินัย วิจัยกรณี ขันตีอุตสาหะ> ยังอยู่ในหัวใจเสมอ
<ดูแลลูกน้อง ปกป้องนาย ไม่ทำลายเพื่อน> ย้ำเตือนถึงความรักความสามัคคี ที่พึงมีต่อกัน
ขอฝากถึงน้อง ๆ ตำรวจบางคนที่กำลังสับสนกับชีวิต สงบจิตสงบใจ ให้อภัย และปล่อยวางเสียบ้าง ทุกอย่าง เส้นทางกรรม ได้กำหนดไว้แล้ว
พล.ต.ต.ไอยศูรย์ สิงหนาท