หยิบหนังสือออกมาจากตู้ เรื่องโจโฉ นายกตลอดกาล เขียนโดยหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช พ.ศ.2507
แต่ใจผมพลอยนึกถึงเรื่อง “สามก๊ก” ตอนโจโฉกับเล่าฮก เรื่องนี้มีความสำคัญเป็นเรื่องเตือนใจในการแสดงความคิดเห็นงานศิลปะ ทุกประเภทอย่างตรงไปตรงมานั้นเป็นเรื่องบาดหัวใจถึงชีวิต ระหว่างผู้สร้างสรรค์กับผู้ชม
ตอนหนึ่งในเรื่องสามก๊ก โจโฉ ออกไปทำศึกจนศัตรูหนีพ่ายแพ้ยับเยิน โจโฉดีใจมากในชัยชนะครั้งนี้ จึงจัดให้มีการเลี้ยงฉลองกับแม่ทัพนายกองอย่างมีความสุขสำราญพร้อมด้วยสุรา
โจโฉ นำสุราอาหารอย่างดี มีการร้องรำทำเพลง ด้วยความเบิกบานใจ โจโฉด้นกลอนสดร้องเพลงอย่างสนุกเฮฮาเต็มที่
โจโฉ เหลือบไปเห็นเล่าฮกเป็นครูศิลปะในเชิงกวีกลอน เป็นคนโปรดของโจโฉนั่งอยู่เคียงข้าง โจโฉถามว่าเมื่อกี้ที่ข้าร้องกลอนออกมาเป็นอย่างไรบ้าง ? เล่าฮกตอบว่าดีแล้วท่านใช้ได้เลยท่าน !
โจโฉ กล่าวอย่างใจดีว่า เล่าฺฮกเอย ทำไมมัวแต่มายอข้า ! ข้าขอร้องให้เจ้าพูดตรงออกมา ไม่ต้องเกรงใจข้า ถ้าพูดความจริงข้าจะดีใจมาก
เมื่อเล่าฮกได้ยินดังนั้นก็กล่าวว่า โปรดประทานอภัย ข้าน้อยขอวิจารณ์เพียงเล็กน้อย
การด้นกลอนร้องเมื่อสักครู่มีบางตอนที่ไม่สัมผัส และความหมายไม่เป็นมงคลเลย ข้าน้อยเกรงว่าจะเป็นลางร้ายครับท่าน โจโฉได้ยินดังนั้นก็โกรธระงับอารมณ์ไม่อยู่คว้าทวนที่อยู่ขัางกายออกมาแทงเล่าฮกไม่ยั้งมือ สิ้นใจตายคาที่
หลังจากนั้นโจโฉเศร้าสลดใจในการกระทำของตน จึงได้สร้างอนุสาวรีย์ให้แก่ “เล่าฮก” ดังปรากฎอยู่ในประเทศจีนจวบจนทุกวันนี้
นอกจากเป็นกรรมการตัดสินประกวดร้องเพลง ผมบันทึกความคิดเห็นลงใบให้คะแนนเท่านั้น
ผมไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์ใคร เห็นใครร้องเพลงก็ยินดีด้วยครับ
ยงยุทธ พงศ์เสาวภาคย์
อดีตกรรมการสมาคมนักร้องแห่งประเทศไทย ฯ
1 กันยายน 60