วันที่ 1 มิถุนายน 2567 เวลา 14.00 น. ณ สภ.เมืองนนทบุรี ภ.จ.นนทบุรี : พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ รอง ผบช.ภ.1 รรท.ผบก.ภ.จ.นนทบุรี, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี, พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี, พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สส.ภ.จ.นนทบุรี, พ.ต.อ.จิรายุส วานิชกุล ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.1 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมตัวผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์หมกศพ สภ.เมืองนนทบุรี ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. สั่งการให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนและเป็นภัยต่อความมั่นคง และเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ตำรวจภูธรภาค 1 จึงได้ทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่มีพฤติการณ์ก่อเหตุไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย
ตำรวจภูธรภาค 1 โดย พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ รอง ผบช.ภ.1 รรท.ผบก.ภ.จ.นนทบุรี/กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 นำโดย พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล, พ.ต.อ.วิทิต จันทร์เอี่ยม, พ.ต.อ.วิศิษฏ์ มะอักษร รอง ผบก.สส.ภ.1 รอง ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.จิรายุส วานิชกุล ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.1, พ.ต.ท.พูนสุข เตชะประเสริฐพร รอง ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.1, พ.ต.ท.กฤษฎา นาคประสิทธิ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.1 พ.ต.ท.ดนัยพร หาญกร รอง ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน บก.สส.ภ.1/ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี นำโดย พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี, พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สส.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ศุภชัย ศรีศักดิ์ รอง ผกก.สส.ภ.จ.นนทบุรี พร้อมกำลังชุด กก.สส.ภ.จ.นนทบุรี/สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี, พ.ต.ท.พงศ์สิน สุริยะอรุณศิริ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนนทบุรี, พ.ต.ท.วีระชนษ์ วงษ์นคร สว.สส.สภ.เมืองนนทบุรี, พ.ต.ต.ธราธิป เพ็งขำ สว.สส.สภ.เมืองนนทบุรี พร้อมกำลังชุดปฏิบัติ
คดีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 26 พ.ค.2567 เวลาประมาณ 19.34 น. ตรวจพบนายไพศาล ทองอ่อน อายุ 54 ปี ผู้เสียชีวิต ถูกคนร้ายฆ่าตายในห้องพักภายในซอยงามวงศ์วาน 6 แยก 21 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี จากการสืบสวนทราบว่ามีคนร้ายจำนวน 1 คน ลักษณะปิดบังใบหน้าและรูปลักษณ์ อยู่กับผู้ตายในคืนวันที่ 20 พ.ค.2567 จากนั้นได้เข้าไปรื้อค้นรถยนต์ของผู้ตายและนำทรัพย์สินของผู้ตายไป จากการสืบสวนทราบภายหลังว่าคนร้ายได้นำโทรศัพท์ของผู้ตายไปขายที่ร้านโทรศัพท์มือสอง นำเงินในบัญชีของผู้ตายและบัตรเครดิตการ์ดของผู้ตายไปซื้อทองคำเป็นจำนวนมาก จากนั้นคนร้ายได้เดินทางหลบหนีการจับกุมมาโดยตลอด โดยมีการเปลี่ยนชุด เปลี่ยนวิธีการเดินทาง เปลี่ยนแปลงลักษณะบุคคล บุคลิกท่าเดิน สำเนียงการพูด ลายมือ เป็นต้น เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ รวมถึงเดินทางไปหลายเส้นทางเพื่อปะปนกับผู้คนตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คนจำนวนมาก จากการสืบสวนโดยละเอียดทำให้ทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้คือ นายภูริณัฐ กาญจนบรรยงค์ ที่อยู่ 5/9 ซ.เพิ่มสิน 62 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดนนทบุรีออกหมายจับเลขที่ จ.490/2567 ลงวันที่ 31 พ.ค.2567 ในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร”
จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่านายภูริณัฐ กาญจนบรรยงค์ หลบหนีมาพักอาศัยอยู่่บ้านเลขที่ 52/2 ม.4 ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร ชุดสืบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดชุมพรเพื่อขอหมายค้นบ้านเลขที่ดังกล่าว เมื่อทำการตรวจค้นพบผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีพักอาศัยอยู่ภายในห้องพักภายในบ้านเลขที่ 52/2 พบของกลางรายการที่ได้ใช้และได้มาจากการกระทำความผิดจำนวน 31 รายการ เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้แสดงหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.490/2567 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้นายภูริณัฐฯ ดู อ่านให้ฟัง และอ่านเอง ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน สอบถามให้การภาคเสธ แต่รับว่ารู้จักกับผู้ตายมาก่อน โดยเป็นผู้ลงมือฆ่าผู้ตายเองแต่กระทำเพราะป้องกันตัวจากการทะเลาะกันภายในห้องพัก เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิ์ให้นายภูริณัฐฯ ทราบ จากนั้นควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี
พร้อมด้วยของกลาง อาทิเช่น ทองคำแท่งน้ำหนักรวม 28 บาท, พระเครื่องจำนวนหลายรายการซึ่งคาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต, บัตรเครดิตของผู้เสียชีวิตที่นำไปใช้ซื้อทองคำแท่ง, บัตรประจำตัวประชาชนของผู้เสียชีวิตและบุคคลอื่น ซึ่งใช้ในการปลอมแปลงตัวตนหลบเลี่ยงการติดตามพิสูจน์ทราบตัวบุคคลของเจ้าหน้าที่, รวมไปถึงซิมม้าและบัตรกดเงินสดอิเลคทรอนิคส์ของบัญชีม้าที่ผู้ต้องหาได้เตรียมการซื้อและเตรียมการไว้ก่อนก่อเหตุ เมื่อตรวจสอบสวนหลังบ้านและบริเวณโดยรอบ พบเศษผ้าที่ผู้ต้องหาได้เผาทำลายเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุและวันที่หลบหนี รวมถึงโครงเหล็กของกระเป๋าเดินทางใบที่ใช้เดินทางหลบหนีตามที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิดในสถานที่ต่างๆ โดยสามารถจับกุมที่ บ้านเลขที่ 52/2 ม.4 ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร
ทั้งนี้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ กรณีผู้ที่มีพฤติกรรมการก่อเหตุเกี่ยวกับชีวิตร่างกายหรือก่อเหตุคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่มีพฤติการณ์ในการก่อเหตุไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ไม่ว่าจะมีพฤติกรรมอำพรางให้ยากต่อการสืบสวนเพียงใด ตำรวจภูธรภาค 1 จะทำการสืบสวนติดตามจับกุมการกระทำความผิดลักษณะดังกล่าวอย่างจริงจังเพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างในการกระทำความผิดต่อไป และขอขอบคุณสื่อมวลชนและประชาชนทุกท่านที่เกี่ยวข้อง ที่มีความสนใจในคดีดังกล่าว ซึ่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ชุดจับกุม จนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายในคดีนี้ และนำตัวคนร้ายไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
