“อุ๊งอิ๊ง” ประกาศ ‘ส่งการบ้าน’ ประชาชน เปิด 5 วิธี ‘ปลดหนี้-มีเงินเหลือ’ ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี “พรรคเพื่อไทย”
“เราจะเปลี่ยนประเทศไทยจากสภาพที่เต็มไปด้วยหนี้ มีแต่ความทุกข์ เป็นประเทศที่หาเงินได้ง่าย มีแต่ความหวังที่เป็นจริงได้ หากพรรคเพื่อไทย ได้มีโอกาสบริหารประเทศ ถึง 8 ปีเช่นนี้ เราจะไม่เห็นปรากฎการณ์ คนอยากย้ายประเทศ คนไทยในต่างประเทศ จะอยากกลับมาร่วมสร้างความเจริญในประเทศไทย ต้องเกิดปรากฎการณ์สมองไหลกลับประเทศไทยในเร็ววัน ด้วยฝีมือของพรรคเพื่อไทย (Reverse brain drain) เป้าหมายต่อไป พรรคเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์ ถ้าเราได้อำนาจรัฐ สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น”
แพทองธาร ชินวัตร (Ing Shinawatra) ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย กล่าวในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อไทย 2565 ‘แลนด์สไลด์ เพื่อไทย เพื่อคนไทยทุกคน’ ประกาศ ‘ส่งการบ้าน’ ประชาชน เปิด 5 วิธี ‘ปลดหนี้-มีเงินเหลือ’
เพื่อไทยพร้อมทำได้ทันทีหลังยุบสภา แลนด์สไลด์ ต้องเพื่อไทยเท่านั้น
หลังจากที่ได้เริ่มเข้ามาทำงานการเมืองอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา จากการทำงานในช่วงที่ผ่านมา ผู้ใหญ่ในพรรคและคนรุ่นใหม่ได้ร่วมมือกันทำงานเป็นอย่างดี เพื่อหาแนวทางพัฒนา แก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนให้หลุดพ้นจากความยากจน
เรายืนยันว่า ‘เราจะไม่ทิ้งคนรากหญ้า’ ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ และยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย จะใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหาประเทศ และชีวิตคนไทย เพื่อให้คนที่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้เรา มั่นใจว่าชีวิตจะดีขึ้น โดยไม่หวั่นไหว ต่ออุปสรรคใด ๆ ที่เข้ามาโดยเฉพาะ การกอบโกยหาผลประโยชน์ที่กำลังดำเนินการกันอยู่อย่างมากมายเพื่อพวกพ้องของตัวเอง โดยไม่คำนึงความต้องการและชีวิตของประชาชน
วันนี้คนไทยส่วนใหญ่ยากจนลง จากที่เคยลืมตาอ้าปากได้ เพราะนโยบายที่กินได้ของไทยรักไทย พลังประชาชนและเพื่อไทย ตอนนี้มีหนี้สินสะสมกันมาร่วม 8 ปี คนไทยส่วนใหญ่ ยังต้องการพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง อนาคตของลูกหลานที่ไม่มีหนี้ และมีเงินเหลือเฟือ จากนโยบายและการบริหารของผู้มีประสบการณ์จากพรรคเพื่อไทย เพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น จึงขอส่งการบ้านครั้งนี้ 5 ข้อ ได้แก่
1. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการกระจายอำนาจสู่ระดับประชาชน พรรคไทยรักไทยเคยทำมาแล้ว โดยการจัดงบประมาณภาคประชาชน ลงไปในระดับหมู่บ้านให้ประชาชนตัดสินใจร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาส่วนรวมของหมู่บ้าน รวมทั้งกระจายอำนาจทางการศึกษา การสาธารณสุข การเกษตร และการปกครองท้องถิ่น ให้ตัดสินใจในระดับจังหวัด ไม่ต้องขึ้นกับส่วนกลาง โดยจะทำให้กระทรวงต่าง ๆ เล็กลง ไม่อุ้ยอ้ายเหมือนในปัจจุบัน รวมทั้งจัดให้มีการรายงานปัญหาของประชาชน และรับฟังข้อเสนอแนะ ผ่านแอปพลิเคชั่น แบบ real-time เพื่อจะได้วิเคราะห์และแก้ปัญหาให้ถูกทาง และใช้งบประมาณให้คุ้มค่าที่สุด
2. ดึงศักยภาพคนไทยด้วยการใช้ soft power 1 คน ต่อ 1 ครอบครัว พรรคเพื่อไทยเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย ซึ่งถูกกดให้ไม่มีโอกาสและพัฒนาศักยภาพมานาน จึงไม่มีโอกาสทำรายได้ให้สูงขึ้น จัดให้มีระบบค้นหาศักยภาพของคนไทยให้ได้อย่างน้อย 1 คน ต่อ 1 ครอบครัว ประมาณ 16 ล้านครอบครัว เพื่อนำมาพัฒนาศักยภาพ มีส่วนร่วมและหาโอกาสทั้งระดับท้องถิ่น หัวเมืองใหญ่ในกรุงเทพฯ และในต่างประเทศ ตามศักยภาพหลังการฝึกฝนและพัฒนา เมื่อได้รับการฝึกฝนมีงานทำที่มีระดับค่าแรงงานที่สูงขึ้น คนเหล่านี้จะเป็นหลักในการหาเงินเลี้ยงครอบครัวให้หายจน มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะเทรนด์โลกสมัยใหม่ คือการต่อสู้กันด้วยอำนาจของวัฒนธรรม soft power คือพลังหรืออำนาจ ที่ทำให้คนทั่วโลกโอบรับวัฒนธรรมอื่น ๆ หากเกิดพลังนี้ขึ้นกับวัฒนธรรมใด จะนำมาซึ่งมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล
3. ใช้เทคโนโลยี Ai เพื่อการเกษตร เพื่อเกิดการวิเคราะห์แม่นยำ และผลผลิตสูง โดยการศึกษาดิน น้ำ ลมฟ้าอากาศ ด้วยเทคโนโลยี Ai ปลูกพืชตามฤดูกาลที่เหมาะสม ลดการใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง ระบบวิเคราะห์ข้อมูลและวิทยาศาสตร์การเกษตร ตลอดจนการถนอมผลิตภัณฑ์ และการกระจายการจัดจำหน่ายที่รวดเร็ว จะเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรไทยได้ พรรคเพื่อไทยจะไม่ยอมให้ ‘การเกษตรแบบวิถีชีวิต’ เกิดขึ้นอีกต่อไป
4. ปรับเปลี่ยนภาครัฐและภาคเอกชนด้วยระบบ Digital Transformation ครั้งใหญ่ ด้วยการสร้างรัฐบาลดิจิทัล (Platform digital Government) ที่ใช้ได้จริง เพื่อแก้ปัญหาระบบราชการใหญ่โตและคอรัปชั่นมากมาย และขาดประสิทธิภาพ ระบบราชการไทยต้องเป็นใช้กระดาษลดลง (paperless) ให้บริการประชาชนผ่านระบบแอปพลิเคชั่น เช่น การขอใช้บริการสาธารณสุขในโครงการ 30 บาท ประชาชนสามารถขอเวลานัดหมายทางออนไลน์ได้โดยไม่ต้องรอคิว จะใช้เทคโนโลยีการออกแบบและการทำโมลผลิตจากระบบเครื่องพิมพ์สามมิติ และการตลาดแบบ E-Commerce มาฟื้นคืนชีวิตให้กับสินค้า OTOP กลับมามีคุณภาพที่เป็นสากลมากกว่าเดิม ขายดีกว่าเดิมยิ่งกว่าสมัยไทยรักไทย
5. เตรียมคนไทยเข้าสู่ยุค Metaverse โลกเสมือนจริงจะนำโลกที่เป็นจริง ซึ่งจะประกอบด้วย NFT (Non-Fungible Token) หรือสกุลเงินดิจิทัลที่แสดงความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ รวมถึง Games และ E-Sports เพื่อพัฒนาทักษะให้กับเด็กและเยาวชน ตลอดจนเทคโนโลยี AR (Augmented reality) หรือเทคโนโลยีผสานระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงและความเสมือนจริงเข้าด้วยกัน รวมถึง VR (Virtual reality) หรือ การจำลองสภาพแวดล้อมจริงให้เสมือนจริง โดยผ่านการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัส
ทั้งหมดจะทำให้พรรคเพื่อไทยเริ่มต้นการประกาศให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่เป็นมิตรกับคริปโต ‘อะไรที่มีข้อห้าม คือทำไม่ได้ อะไรที่ไม่มีข้อห้าม ย่อมทำได้’ เช่น การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) หลายคนที่สร้างรายได้ผ่าน Soft Power เราจะส่งเสริมให้คนกลุ่มนี้มีสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อขายใน NFT เชื่อว่าในอนาคตประเทศไทยอาจสร้างให้เด็กไทยและจิตรกรไทยรวมกัน จนมีสร้างมูลค่าทางสินทรัพย์ดิจิทัลได้นับแสนล้านบาท
แพทองธาร กล่าวอีกว่า ในอนาคตประเทศไทยจะต้องปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อนวัตกรรม เพื่อให้ประเทศหลุดพ้นจากความล้าหลังทางเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายเรื่องรถไฟฟ้าทุกประเภทที่เรามีขีดความสามารถในการผลิต หรือกฎหมายที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล และอื่น ๆ จัดให้มี wifi ฟรี เข้าถึงระดับหมู่บ้าน โรงเรียน และสถานที่ราชการที่มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต (Bandwidth) มากพอ และด้วยเทคโนโลยี Metaverse กำลังจะมา พรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะเริ่มสอนเด็กและเยาวชน ด้วยการทำโปรแกรมการเขียนชุดคำสั่งคอมพิวเตอร์ (Program Coding) เพื่อให้เด็กและเยาวชนกลายเป็นเศรษฐีใหม่ในวันข้างหน้า ก้าวข้ามจากความยากจนไปเป็นเศรษฐี และในที่สุดจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวอีกเท่าตัว มาอยู่ที่ 80 ล้านคนภายใน 4 ปี จะไม่ยอมเป็นเมืองขึ้นทางเทคโนโลยีกับต่างประเทศอีกแล้ว โดยเราจะสนับสนุนทุกรูปแบบให้ ‘คนไทยทำ คนไทยใช้ คนไทยฉลาด คนไทยเจริญ’
#แลนด์สไลด์เพื่อไทยทุกคน
********************
ข้อมูล : เพจ พรรคเพื่อไทย