ท้าความศักดิ์สิทธิกฎหมาย
คืนวันก่อน 18 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 03.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.จร. ได้ตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์บริเวณที่เกิดเหตุ ปากซอยรัชดาภิเษก 31 ถ.รัชดาภิเษก แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม.
ผู้ต้องหาทราบชื่อภายหลัง นายพานิช พร้อมพัฒน์ บุตรชายนายสันติ พร้อมพัฒน์ อายุ 46 ปี ได้ขับรถสปอร์ต บีเอ็มดับบลิว ชะลอเข้าจุดตรวจ ท่าทีมีพิรุธต้องสงสัย เมื่อถึงจุดตรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกให้หยุด แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมหยุดรถ ได้ขับรถฝ่าจุดตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้แผงเหล็กเลื่อนมากั้นเพื่อหยุดรถ ผู้ต้องหาไม่ยินยอมหยุด และขับชนแผงเหล็ก
ต่อมาเมื่อรถเคลื่อนที่ไม่ได้ เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาลงมาจากรถ เพื่อทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งผู้ต้องหาไม่ยินยอมให้ตรวจวัด ด.ต.พัชรพลฯ หนึ่งในตำรวจด่าน จึงใช้เครื่องตรวจวัดเบื้องต้น แบบไม่สัมผัส จ่อใกล้ปากและจมูกของผู้ต้องหา วัดปริมาณแอลกอฮอล์ได้ 183 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจรที่สั่งให้มีการทดสอบว่าผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุรา หรือเมาอย่างอื่น”
นำตัวส่ง พ.ต.ต.ณัฐพล รัตน์สุภาพงศ์ พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินคดี รับไว้เป็นคดีอาญาที่ 522/2567
ในชั้นสอบสวน เบื้องต้นนายพานิชฯ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ และแสดงอาการเมา เอะอะโวยวาย ไม่ยอมรับทราบข้อกล่าวหา และกล่าวหากลับว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจในการจับกุม รวมถึงได้แจ้งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจลักเอาทรัพย์สินของตนไป เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องใช้กำลังบังคับ ควบคุมตัวเข้าห้องควบคุมของ สน.ประชาชื่น เพื่อดำเนินการสอบสวนต่อไป
เรื่องนี้กำลังเป็นที่สนใจสังคม ที่รอติดตามการดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นลูกนักการเมืองระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการผู้รักษากฎหมายจะรักษาความศักดิ์สิทธิของบทบัญญัติได้ขนาดไหน ??
อย่าให้คำกล่าวลอยๆที่ว่า “คุกมีไว้ขังคนจน” เป็นเรื่องจริง !! ที่บั่นทอนจิตใจสุจริตชน เฉกเช่น ….หลายต่อหลายคดีที่ผ่านมา ช่วยกันสอดส่อง ทำความยุติธรรมให้ปรากฏ แบบสุดทาง.
อิทธิเดช ลุย.