วันที่ 5 เมษายน 2555 ผมย้ายจาก รอง ผบก.ภ.จว. อุบลราชธานี เป็น รอง ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ มีนายตำรวจย้ายมาคำสั่งเดียวกันหลายนาย พล.ต.ต.พินิต มณีรัตน์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ จัดประชุมข้าราชการตำรวจประจำเดือน สว.งานทะเบียนพล เป็นเลขาฯ การประชุม
ได้มีการแนะนำตัว ผู้ที่ย้ายมาใหม่ ผมได้รับการแนะนำเป็นอันดับที่ 3 พอ สว.งานทะเบียนพล แนะนำเสร็จ ผมถามว่า
<การแนะนำตัว ใช้หลักเกณฑ์วิธีการใด จะว่าเรียงตามอาวุโสก็ไม่ใช่เพราะผมเป็นรอง ผบก.ฯ ที่มีอาวุโสสูงสุด จะว่าเรียงตามตัวอักษรก็ไม่ใช่เพราะตัวอักษรคนที่ถูกแนะนำตัวเป็นอันดับ 2 อยู่ก่อนคนที่ถูกแนะนำตัวเป็นอันดับ 1 สรุปว่าใช้หลักการยังไงในการแนะนำตัวครั้งนี้ ?>
สว.งานทะเบียนพล มีทีท่าอึกอัก กล่าวขออภัย และจะนำไปใช้เป็นแนวทางต่อไป
ในที่ประชุมประกอบด้วย ผกก.หน.สภ. ลงไปถึงระดับ สว.หน.สภ. และฝ่ายอำนวยการ ต่างพากันเงียบกริบคงพากันคิดว่า <คุณระเบียบมาแล้ว>
เกือบทุกวัน ผมจะเดินไปทักทายเพื่อนตำรวจ ทุกห้องทำงาน ทุกแผนกงาน ของ ภ.จว. สอบถามปัญหา ทุกข์สุขในการทำงาน รวมทั้งปัญหาส่วนตัว ด้วยความเป็นกันเองพูดกระเซ้าเย้าแหย่กันบ้างจนตำรวจทุกนายกล้าพูดกล้าคุยกับผม มีสาระบ้าง ไร้สาระบ้าง ไม่ว่ากัน
ผบก. จะมอบหมายให้ผมไปประชุม หน.ส่วนราชการ ที่ ศาลากลาง จว.ชัยภูมิ เป็นประจำ นายพรศักดิ์ เจียรณัย เป็น ผวจ.
งานแรกที่เจอกันกับ ผวจ. ผมเป็นคนเสนอตั้งชื่อใหม่ให้งาน <เทศกาลดอกกระเจียวบานที่ชัยภูมิ> ว่า <ดอกกระเจียวดีใจที่ชัยภูมิ> ใช้ชื่อนี้ต่อเนื่องกันมาหลายปี
ผมทำงานประสานกับส่วนราชการต่าง ๆ ทุกหน่วย บางครั้งก็ออกลุยไปด้วยกันกับทีมงาน ทสจ.ของ นายอิสระ พรหมเดชบุญ ผอ.ทสจ. จว.ชัยภูมิ ทั้งเดินป่า ขึ้นเขา คลานศอก คลานเข่า เพื่อจับกุมพวกบุกรุก ตัดไม้ทำลายป่า
ได้ที่ดินกลับคืนมากว่า 600 ไร่ จนกระทั่งนายอิสระ จะทำหนังสือถึง ปลัดกระทรวงฯ เพื่อมอบโล่ให้ผม แต่ผมปฏิเสธไปเพราะผลงานที่ออกมานั้น คือรางวัลที่ยิ่งใหญ่แล้ว
ผมออกตรวจพื้นที่ร่วมกัน กับคณะของ ผวจ. เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่น บ้านผีที่เป็นข่าวโด่งดัง <บ้านผี> คือสภาพบ้านห้องเดียว ที่พวกนายทุนสร้างหวังเรียกร้องเงินชดเชยจากรัฐบาลในการเวนคืนพื้นที่เพื่อสร้างเขื่อน ที่ อ.บ้านเขว้า และ อ.เทพสถิต โครงสร้าง ทำด้วยอิฐบล็อค หลังคาสังกะสีที่มีรูพรุน พื้นเทปูนซีเมนต์บาง ๆ มีส้วมนั่งยอง มีหน้าต่างหนึ่งบาน ไม่มีคนอยู่อาศัย เพราะร้อนตับแลบกันฝนก็ไม่ได้ รอบ ๆ บริเวณ มีหญ้าขึ้นรกไปหมดแต่มีทะเบียนบ้านทุกหลัง
ผวจ. ให้ผมเป็นคนนำลุยจับไม้เถื่อนที่วัดชื่อดัง ได้ไม้ของกลางจำนวนมาก นายอิสระ ประเมินราคา ได้นับร้อยล้านบาท งานนี้ ผวจ. ถึงกับกอดผมต่อหน้าเพื่อนร่วมงานเลย
ผวจ. พาผมไปดูสถานที่และภูมิประเทศของชัยภูมิ หลายแห่งโดยเฉพาะที่ป่าหินงาม อ.เทพสถิต จะมีหินในรูปลักษณ์แปลก ๆ ให้จินตนาการมากมาย เช่น มอหำตั้ง ถ้วยฟีฟ่า แม่ไก่ยักษ์ ฯลฯ รวมทั้งจุดหวาดเสียว คือผาหำหด ที่ อ.หนองบัวระเหว
ในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการครั้งหนึ่ง ผวจ. ได้พูดถึงหินรูปร่างต่าง ๆ แต่เน้นไปที่ มอหำตั้ง กับผาหำหด ว่า <ของดีอย่างนี้ น่าจะต้องมีตำนาน ที่มาที่ไป> แล้วหันหน้ามาทางผม พูดเปรยกลางที่ประชุมว่า <ท่านรองฯ ว่าไง ?> ผมเป็นคนคิดไว ตอบไปทันที <ตำนานก็สอบถามจากชาวบ้านว่า ทำไมจึงเรียกชื่อเช่นนี้ แล้วก็ตรวจสอบจากยูทูป กูเกิล ครับ>
ผวจ. เห็นชอบ มอบหมายงานให้ผู้เกี่ยวข้องทันที รายงานผลในการประชุมครั้งต่อไป
การประชุมหัวหน้าส่วนราชการครั้งต่อมาไม่มีข้อมูลจากชาวบ้านบอกเพียงแต่ว่า เรียกตาม ๆ กันมา ยูทูป กูเกิล ก็ไม่มีข้อมูล ผวจ. หันหน้ามองมาทางผม พูดว่า <เอาไงดี ท่านรองฯ ?> ผมก็คิดเร็วตอบเร็วเหมือนเดิม <ถ้าไม่มีตำนาน ก็ต้องเขียนตำนานซีครับ นาน ๆ เข้า มันก็กลายเป็นตำนานเอง>
ผวจ.พยักหน้า เห็นด้วย แล้วพูดว่า <แล้วจะให้ใครเขียนดีล่ะ ?> ผมก็ตอบไปว่า <ให้อาจารย์ ม.ราชภัฏชัยภูมิ ที่เป็นนักโบราณคดี นักประวัติศาสตร์ ค้นคว้าเขียนครับ>
ผวจ. พยักหน้าอีกครั้งหนึ่ง ผมก็ดันปากอยู่ไม่สุข พูดไปว่า <ผมจะเล่าตำนานตัวอย่างให้ฟังนะครับ> ผมคิดแล้วพูดเลยตามความฝันของผม <ณ ดินแดนอันสวยงามไกลโพ้น เรียกว่าจุฑาเทพสถิต มีสาวสวยนางหนึ่งชื่อว่า น.ส.ดอกกระเจียว…………>
ระหว่างที่ผมเล่าตำนานไป ก็มีเสียงหัวเราะชอบใจไป โดยเฉพาะที่มาของ มอหำตั้ง กับผาหำหด ประกอบกับความรักอันรันทดของ น.ส.ดอกกระเจียว ผวจ. หัวเราะชอบใจใหญ่
ครั้งหนึ่งในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ในวาระอื่น ๆ ดร.เมตต์ เมตต์การุณ์จิต อดีตนายอำเภอ ปัจจุบันเป็นอาจารย์ ม.ราชภัฏชัยภูมิ พูดขึ้นมาว่า <ขออนุญาตท่านผู้ว่าฯ ครับ ในการประชุมทุกครั้งผมสังเกตมานานแล้ว เวลามีงานใหญ่ งานพิเศษ หรือตอนมีม็อบ ไม่ว่าจะเรื่องความคิดหรือการปฏิบัติ ท่านผู้ว่าฯ จะใช้งานท่านรองฯ ไอยศูรย์ เป็นประจำ แล้วงานก็สำเร็จ เป็นเชิงประจักษ์คน……อย่างนี้ ทำไมท่านผู้ว่าฯ ไม่หาทางสนับสนุนให้เป็นผู้การฯ ครับ>
มีเสียงพูดแซมขึ้นมาหลายเสียง <เห็นด้วยครับ/ค่ะ>
ผวจ. ฟังไป ยิ้มไป หันมองมาทางผม ซึ่งนั่งตัวชาอยู่ ผวจ. พูดว่า <ผมเห็นด้วยนะและจะทำหนังสือถึงผู้ใหญ่ เพื่อให้การสนับสนุนรองฯ ไอยศูรย์ ให้เป็นผู้การ> ผมยกมือไหว้ขอบคุณท่าน ผวจ. และ ดร.เมตต์ โดยอัตโนมัติ
ผมเห็นผู้คนปรบมือในที่ประชุม แต่ผมแทบไม่ได้ยินเสียงเลยเพราะปลื้มจนหูอื้อตาลายไปหมดแล้วแต่ก็ยังเห็นบรรดาตำรวจระดับ หน.สภ. พากันยิ้มและยกนิ้วหัวแม่มือมาทางผม
หลังจากเลิกประชุม คุณต่าย หน.สง.จว.ชัยภูมิ ได้มาพบผมและพูดว่า <ท่านครับ ผมอาสาเขียนสนับสนุนให้ท่านเองครับ ผมเคยเขียนให้มาแล้วหลายคนได้ดีทุกคนครับ ผมนับถือท่านเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง และเคารพท่านเหมือนอาจารย์ด้วย ผมดูการแก้ปัญหาของท่านแต่ละเรื่องแบบครูพักลักจำครับ> ผมขอบคุณคุณต่าย หัวใจเปี่ยมด้วยความสุข
ผวจ. ได้ลงลายมือชื่อในหนังสือสนับสนุนผมให้เป็น ผบก. ไปถึง อธิบดีกรมการปกครอง เพื่อต่อไปยัง ท่าน ผบ.ตร. อีกฉบับหนึ่ง ผวจ. ส่งถึง ท่านผบ.ตร. โดยตรง
มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับ ตร. ที่ผมรู้จักและเคารพนับถือเป็นการส่วนตัว พูดคุยกับผมว่า <ดีใจกับไอยศูรย์นะที่ส่วนราชการอื่น โดยเฉพาะฝ่ายปกครองให้การยอมรับ สนับสนุน ตำรวจในพื้นที่เพื่อให้มีความเจริญก้าวหน้าหายากมาก>
ผมขอบพระคุณท่าน ที่เข้าใจและมองลึกลงไปถึงการทำงานร่วมกัน
ขอบพระคุณท่าน ผวจ. ที่ทำหนังสือให้การสนับสนุน
ขอบคุณ ดร.เมตต์ คนต้นคิด
ขอบคุณคุณต่าย ผู้ร่างหนังสือ
ขอบคุณทุกภาคส่วนราชการ และพี่ เพื่อน น้อง ที่ให้กำลังใจ
ยศนายพล ตำแหน่งผู้บังคับการไม่ได้เป็นกันง่าย ๆ วงการตำรวจรู้กันดี
วันเวลาผ่านไปผมก็ยังเป็นผมคนเดิม เป็นรอง ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ เป็นชัยภูมิ 2 ต่อไป ด้วยความสบายใจและด้วยความภาคภูมิใจที่ได้รับการยอมรับนับถือจากส่วนราชการอื่น และเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกัน และน่าจะเป็นคนเดียวมั้งที่ผู้ว่าฯ ขอให้เป็นผู้การฯ
<เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน ผินหน้าไม่อายใคร> ก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับชีวิตคนรับราชการ
พล.ต.ต.ไอยศูรย์ สิงหนาท