คอลัมนิสต์

ผู้สั่งการกับผู้ปฏิบัติ ปกิณกะม็อบทหารอาวุโส


11 เมษายน 2024, 16:19 น.

 

<ผู้สั่งการกับผู้ปฏิบัติ> <ปกิณกะม็อบทหารอาวุโส>

 

น่าจะประมาณ ปี พ.ศ. 2555 นายทหารอาวุโสคณะหนึ่งส่วนมากเป็น จปร.7 นำโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และเพื่อน ๆ พามวลชนไปชุมนุมเรียกร้อง ที่สนามม้านางเลิ้ง ชื่อเป็นทางการว่า ราชตฤณมัยสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์

 

ผมเป็น รอง ผบก.ภ.จว. ชัยภูมิ นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผวจ. ชัยภูมิ ได้พูดคุยกับผมเรื่องนี้ <ท่านรองฯ คิดว่า จะมีมวลชนไปชุมนุมเยอะมั้ย ?>

 

ผมตอบ ผวจ. ไปว่า <จากประสบการณ์ในการทำหน้าที่ คฝ. ใน กทม. ที่ผ่านมานั้น ทั้ง พธม. และ นปช. ผมกับรอง ผบก.ภ.จว. ต่าง ๆ ทุกภาค ที่เคยมาร่วมทำหน้าที่กัน ยังได้ติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันตลอดมา ข้อมูลครั้งนี้ รวม ๆ แล้วมวลชนน่าจะประมาณ 20,000 คนเศษครับ>

 

ผวจ. อุทานเสียงดัง <เฮ้ย ! น้อยไปมั้ง มีแกนนำ พธม. ขึ้นเวทีพูดด้วยหลายคนคนเยอะแน่>

 

ผมตอบ ผวจ.ไปว่า <มีแกนนำ พธม. ขึ้นเวทีด้วยก็จริงแต่แกนนำพูดบนเวทีว่า <มวลชนคนเสื้อเหลืองใครอยากจะมาร่วมชุมนุมก็มา> แกนนำไม่ได้นัดหมาย ไม่ได้บอกว่าจะนำมาครับ และประการสำคัญที่สุด ผมคิดว่า แกนนำ พธม. สร้างชื่อเสียงมาจากการชุมนุม จู่ ๆ จะสนับสนุนให้ผู้ชุมนุมอีกคณะหนึ่งมาสร้างชื่อเสียงเหมือนตนคงไม่ใช่หรอกครับ>

 

ผวจ. บอกว่า <คอยดูกันนะ>

 

ผมได้รับคำสั่ง ให้นำกำลัง คฝ. 1 กองร้อย ไปร่วมปฏิบัติหน้าที่ ใน กทม. การบังคับบัญชา ขึ้นกับ ผบก.น.1 แต่จะมี ผบก.1 นาย ที่คัดจาก ภ.จว.ต่าง ๆ เรียกว่า <ผู้การเข้มแข็ง> ไปเป็น ผบ.เหตุการณ์

 

ผู้การเข้มแข็งที่ผมเห็นว่า มีฝีไม้ลายมือในการประกวดการฝึกภาคสนามที่ ศฝร.ภ.3 <ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธร ภาค 3> คือ พล.ต.ต.สุรพล แก้วขาว ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี

 

มีการประชุม รอง ผบก.ฯ ที่นำกำลัง คฝ. เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ ในห้องประชุมใหญ่ของ บช.น. รอง ผบช.น. นายหนึ่ง ได้พูดชี้แจงว่า <ผมส่งสายติดตามข้อมูลกลุ่มมวลชนไปทุกแห่ง ทุกภาค งานนี้ จะมีมวลชนมาเป็นแสนคนและจะมีสมทบเข้ามาเรื่อย ๆ ทุกวัน ศึกใหญ่แน่ ๆ>

 

รอง ผบก.ฯ รุ่นน้องผมคนหนึ่ง ซึ่งได้พูดคุยกับผมก่อนเข้าประชุม มองหน้าผมและพูดว่า <ไหนพี่พูดว่า ประมาณ 20,000 คน ไง ? ทำไมต่างกันมากจัง>

 

ผมบอกไปว่า <ข่าวจริงหรือข่าวลวง ? ข่าวใครก็ข่าวใคร ! คอยดูวันจริงก็แล้วกัน !>

 

รอง ผบก. รุ่นน้อง ถามอีกว่า <วันจริงคือวันไหนครับ ?>

 

ผมตอบสั้น ๆ ว่า <วันปะทะกันไง !>

 

ที่ห้องประชุม บก.น.1

 

ผมได้ถาม พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 นายตำรวจผู้คลุกคลีกับพื้นที่และมวลชน ตัวจริง <ผู้การฯ ที่จะไปเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์นั้น ผมรู้จักหลายคนบางคน ไม่เคยผ่านการฝึก คฝ.ภาคสนาม ไม่เคยสั่งการ ไม่เคยเผชิญเหตุการณ์แล้วจะมาบริหารเหตุการณ์ได้อย่างไรครับ ?>

 

พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ ไม่ทันจะตอบ ผบก.ฯ หน่วยงานหลักนายหนึ่ง ของ บช.น. เป็นเด็กโตเร็วมากได้มองมาที่ผม และพูดจาแบบฉุนเฉียวไม่สบอารมณ์ว่า <ที่นี่ มีแต่ผู้การฯ ทั้งนั้น จะเลือกใคร ก็เลือกเอา>

 

ผมตอบสวนไปว่า <ผมไม่เลือกแต่เอาคนมีประสบการณ์มาก็แล้วกัน เพราะเป็นสถานการณ์จริงไม่ใช่การฝึกหรือการซ้อมครับ>

 

ลงท้ายด้วยคำว่า <ครับ> ผมพยายามข่มอารมณ์พูดด้วยความมีวินัย

 

พล.ต.ต.ฉลอง ภาคย์ภิญโญ ผบก.ภ.จว.ยโสธร ซึ่งนั่งอยู่ในที่ประชุม ได้พูดว่า <ผมอาสาเองครับพี่>

 

ผมตอบขอบคุณครับทันที เพราะผู้การฯ คนนี้ ใช้ได้เลยละแถมยังสมัครใจเสียด้วย

 

พล.ต.ต.ฉลอง กับผมและรอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ – ยโสธร รวม 3 หน่วย ได้รับมอบหมายให้ไปอยู่จุด เชิงสะพานราชวิถี ฝั่งเขาดินวนา ด้านหน้าคือถนนพระราม 5 ถัดไปคือพระราชวังสวนจิตลดา

 

<รูปแบบการวางกำลัง>

 

ครั้งละ 1 กองร้อย อีก 2 กองร้อย พักคอยเหตุ นายตำรวจ คฝ. ของ บช.น. กำหนดให้ตั้งแถวเรียงหน้ากระดาน ขวางบนถนน ซ้อน ๆ กัน แต่ถนนมีความกว้างมากเมื่อวางกำลังแล้ว ได้ไม่กี่แถว ซึ่งดูแล้ว บางมาก สะพานนั้น แคบกว่าถนน ถ้ามวลชนบุกขึ้นสะพานมาสามารถทะลุทะลวงแถว คฝ. ได้ทันที

 

พล.ต.ต.ฉลอง กับผม และ รอง ผบก.ฯ อีกสองคน ได้ปรึกษาหารือกัน ผมเสนอให้วางกำลังใหม่ โดยให้ คฝ. ถือโล่ กระบอง ยืนเรียงแถวหน้ากระดาน แถวหลังห่างกันหนึ่งช่วงแขน ซ้อน ๆ กันไปจนเต็มพื้นที่สะพาน

 

กำลังที่เหลือ วางกำลังหน้ากระดานต่อมาจากสะพานสามารถช่วยผลักดันกำลังพลบนสะพานให้ยืนหยัดได้และยังมีราวสะพานทั้งสองข้าง ช่วยกระชับพื้นที่อีกด้วยดูแล้ว มีพลังมวลชนบุกเข้ามาได้ยาก

 

<ทุกคนเห็นชอบด้วย>

 

เย็นวันนั้น มี ผู้การเข้มแข็ง 1 นาย กับ รอง ผบก.น. ผู้เสนอรูปแบบการวางกำลังมาตรวจการวางกำลัง เห็นการวางกำลัง คฝ. ที่ผมวางไว้ไม่ได้วางบนถนนจึงสอบถามสาเหตุ ซึ่งผมก็ได้อธิบายด้วยเหตุผล ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ผู้การเข้มแข็ง รอง ผบก.น. เข้าใจ และเห็นด้วย ในการปรับรูปแบบ แผนงาน ตามลักษณะภูมิประเทศ และตามสถานการณ์

 

วันรุ่งขึ้น ที่ห้องประชุม บช.น.

 

ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ บช.น. ได้พูดกันคนละเรื่องสองเรื่อง พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. ได้พูดว่า <เมื่อคืนนี้ ช่วงกลางดึกได้ไปตรวจการวางกำลัง คฝ. ตามจุดต่าง ๆ ขอชมเชย คฝ. จุดสะพานราชวิถีวางกำลังได้ดี เข้มแข็ง ไม่แตกแถว ไม่ยืนเกะกะดูแล้วเป็นระเบียบ คฝ. ที่คอยเหตุ มีความพร้อม ขอขอบคุณผู้บังคับบัญชาที่ควบคุมดูแล>

 

พล.ต.ต.ฉลอง ยิ้มดีใจ ผม กับรอง ผบก.ฯ ที่อยู่จุดเดียวกัน ก็ยิ้ม สบายใจ

 

หลังจากเลิกประชุมที่ บช.น. ผมกลับไปที่ตั้ง คฝ. แจ้งข่าวที่ผู้บังคับบัญชาชมเชยเพื่อให้ทุกคนดีใจจะได้มีขวัญ กำลังใจ คฝ. พากันยิ้ม หัวเราะ และพูดว่า <มีตำรวจเพื่อนกันใน บช.น. โทร.มาบอกแล้วครับ ขอบคุณนายครับ>

 

ผมฟังแล้ว หัวเราะเหมือนกันกับ คฝ. ทุกคน

 

ต่อมามีการปรับเปลี่ยนกำลังพล คฝ.ชัยภูมิ ต้องไปอยู่ที่แยกมัฆวานรังสรรค์ ขึ้นการบังคับบัญชากับ รอง ผบช.น. นายหนึ่ง มี ผบก.น. อีก 2-3 นาย เป็นผู้ช่วย ในการประชุมวางแผนผมได้สอบถามถึงแนวทางการปฏิบัติ <มีรั้วลวดหนามหีบเพลงกั้นอยู่ด้านหน้า ถัดมาเป็นแท่งหินแบริเออร์ เป็นด่านที่ 1 จากนั้นเป็นลานกว้างและมีแนวลวดหนามหีบเพลง กับแท่งแบริเออร์ เป็นด่านที่ 2 คำสั่งให้ คฝ. แต่ละหน่วย หมุนเวียนการปฏิบัติโดยอยู่หลังแนวด่านที่ 2

 

ผมขอถามว่า ตั้งแต่มวลชนเข้าประชิดด่านแรก และทำลายสิ่งกีดขวาง คฝ. อยู่หลังแนวด่านที่ 2 จะปฏิบัติอย่างไร ? ถ้ามวลชนเข้ามาถึงด่านที่ 2 โดยทำลายสิ่งกีดขวางได้จะให้ คฝ.ปฏิบัติอย่างไร ?

 

เพื่อที่ คฝ. จะได้ใช้เป็นแนวทางเดียวกันเพราะไม่อย่างนั้น ก็ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างทำ จะมีความสับสนและเกิดความเสียหายได้ครับ>

 

ไม่มีผู้บังคับบัญชาคนไหน ตอบคำถามผม กลับไปพูดเรื่องอื่น เช่นสถานที่พัก อาหารกล่อง ผมก็ไม่อยากพูดอีกเฉพาะ คฝ. ของผม
ผมมีแผนการปฏิบัติไว้แล้ว

 

กำลังจะจบอยู่แล้วเชียว ผบก.น. ฝั่งธนบุรี ได้พูดขึ้นแบบเจาะจงมาว่า <มีอะไรสงสัยอีกมั้ย ? คุณไอยศูรย์>

 

ผมสูดลมหายใจลึก ๆ กดไมโครโฟนพูดว่า <อดทน อดกลั้น ยึดมั่นคำสั่ง ทำงานทุกครั้ง ตั้งอกตั้งใจ ตายในสนาม คือความยิ่งใหญ่ ศักดิ์ศรีตำรวจไทย สลักไว้ในแผ่นดิน> สิ้นเสียงผมพูดก็มีเสียงปรบมือจากนายตำรวจผู้เข้าร่วมประชุมดังสนั่นลั่นห้อง

 

ผบก.น. อีกนายหนึ่ง พูดว่า <ไอยศูรย์เขียนที่พูดเมื่อครู่นี้ให้พี่ด้วยนะจะเอาไปเป็นคำขวัญ คฝ.>

 

ผมยิ้ม ตอบพี่เขาไปว่า <ได้ครับ>

 

เมื่อถึงวันดีเดย์ มีมวลชนของคณะนายทหารอาวุโสประมาณ 20,000 คนเศษเข้ามาประชิด ปะทะ กับ คฝ. หลายสิบกองร้อย ที่ตั้งแนวรอรับอยู่ มี <ผู้การกล้าหาญ> เกิดขึ้น 2 คน คือ พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ พล.ต.ต.ชอบ คิสาลัง

 

สำหรับ <คำขวัญ คฝ.> ที่เขียนขึ้นมานั้น คฝ.ชัยภูมิ ได้มีโอกาสพูดดัง ๆ จากใจ ให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ฟังที่ แยกพล ๑ เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2556 เวลาประมาณ 22.00 น. เศษ

 

เรื่องที่เขียนนี้เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการทำหน้าที่ คฝ. ในวาระต่าง ๆ ของผม <ผมมิได้มีเจตนา> ฝ่าฝืนคำสั่งของผู้บังคับบัญชา หรืออวดโอ่โชว์ออฟ แต่อย่างใด <เจตนาจริง ๆ ของผม> คือการสร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ปฏิบัติ

 

ลูกน้องผม เพื่อนร่วมงานของผม ทุกหน่วย ทุกคนต้องสามารถปฏิบัติภารกิจได้ จนลุล่วงสำเร็จและอยู่รอดปลอดภัย ประการสำคัญที่สุดก็คือ <เพื่อรักษาเกียรติภูมิ และศักดิ์ศรีขององค์กร>

 

คฝ. ทุกคนคงจำเสียงคำพูดนี้ได้ <กำลังพลลลลลลล >

 

พล.ต.ต.ไอยศูรย์ สิงหนาท

 

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดคอลัมนิสต์

เรื่องล่าสุด