<เสพกระท่อมเสรี> <ฟรีกัญชาสันทนาการ> <ครู อาจารย์ เสียใจ>
นับตั้งแต่ผู้มีอำนาจ ได้ประกาศนโยบายผู้มียาเสพติดไว้ในครอบครองไม่เกินปริมาณที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงให้ถือว่าเป็น <ผู้เสพ> ผู้เสพถือว่าเป็น<ผู้ป่วย>
ผู้เสพที่ยังไม่ถูกตรวจสอบพบ ผู้เสพที่ยังไม่ถูกจับได้ก็ยังเป็น <ผู้เสพ> แต่ถ้าถูกตรวจสอบพบ ถูกจับได้และสมัครใจเข้ารับการบำบัดก็จะกลายเป็น <ผู้ป่วย>
เพราะไม่อยากขึ้นศาลต้องเอาตัวรอดตามช่องกฎหมาย ผู้มีอำนาจที่ประกาศกฎกระทรวงและผู้ที่เกี่ยวข้องจึงมีคุณูปการยิ่งใหญ่แก่ผู้เสพยาเสพติด มีเมตตาทำ ค้ำจุนผู้เสพ ที่หาไม่ได้อีกแล้วในโลกนี้
ผลเป็นอย่างไรบ้างล่ะ ?
สื่อทุกสื่อ ออกข่าวไม่เว้นแต่ละวัน อาทิเช่น เสพยา ฉลองติดต่อกัน 3 วัน 3 คืน จนสติแตก, เสพยา ประสาทหลอน เผาบ้านตัวเอง, เสพยา อาละวาดทำร้ายพ่อแม่, เสพยา ถืออาวุธไล่ข่มขู่ผู้คนกลางถนน ฯลฯ
แปลกไปจากเมื่อกาลก่อน ที่เสพยาแล้วชอบปีนเสาไฟฟ้าขึ้นหลังคาตึก
เมื่อวันก่อน ผมไปร่วมงานฌาปนกิจบุคลากรทางการศึกษาคนหนึ่ง มีผู้บริหารสถานศึกษา ครู อาจารย์ ไปกันมากมาย ผู้บริหารสถานศึกษามีชื่อแห่งหนึ่ง นั่งข้างผม ได้พูดคุยเชิงปรารภกับผม <นักเรียนหลายคนทีเดียวดื่มน้ำกระท่อมทุกวันดื่มแทนน้ำ ดื่มจนประสาทหลอนไม่เป็นอันเรียน>
หยุดทำท่าถอนหายใจ แล้วพูดต่อ <ตำรวจก็ไม่ทำอะไร ? ปล่อยให้วางขายอยู่ทั่วบ้านทั่วเมือง สงสารเด็ก ๆ อาจจะเสียอนาคต หมดโอกาส ไม่เฉพาะโรงเรียนผมโรงเรียนอื่น ๆ ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน>
ผมฟังจบ แสดงท่าทีเห็นใจผู้บริหารฯ คนนั้น และพูดว่า <ผมเป็นข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุราชการแล้ว สมาคมตำรวจ ได้แต่งตั้งให้ผมเป็น หัวหน้าสมาคมตำรวจ สาขา จว.นครราชสีมา ผมจะประสานการปฏิบัติกับ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ให้>
ผู้บริหารสถานศึกษาพูดขอบคุณผม ผมพูดต่อไปว่า <กระทรวงสาธารณสุขได้มีกฎกระทรวงออกมา กำหนดปริมาณยาเสพติดที่มีไว้ในครอบครอง เช่น ยาบ้า ยาเค ยาอี ยาไอซ์ฯ ถ้าไม่เกินที่กำหนดไว้ ถือว่า มีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ ผู้เสพถือว่าเป็นผู้ป่วย>
ผู้บริหารสถานศึกษา รับฟังด้วยความสนใจ ผมจึงพูดต่อ <แต่ที่ผ่าน ๆ มา ผู้มีอำนาจ ได้ถอน กัญชาและกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด ตำรวจที่เคยตามล่าตามจับตามกฎหมายก็ได้แต่มองดูด้วยความสะท้อนใจ ดูผู้มีอำนาจเสพกัญชาโชว์สื่อมวลชน เผยแพร่ภาพและเสียงไปทั่วประเทศ แล้วกลับลำภายหลังว่ากัญชามีไว้เพื่อสันทนาการ ส่วนกระท่อมที่เอาใบต้มในน้ำแล้ววางขายเป็นน้ำใบกระท่อมนั้น บางสถานที่ ทำเป็นแบบบาร์ เป็นแหล่งมั่วสุมเสพใบกระท่อมอย่างเปิดเผย ท่านไม่ต้องกังวลผมจะรีบประสานผู้การฯตำรวจโดยเร็วครับ>
ผู้บริหารสถานศึกษา พูดขอบคุณอีกครั้ง ยิ้มน้อย ๆ ด้วยความหวัง
ผมเป็นคนประเภทที่เรียกว่า <เสือปืนไว> คิดปุ๊บ ทำปั๊บ <ไม่เงื้อง่า ราคาแพง>
ภายหลังจากเสร็จสิ้นงานฌาปนกิจ ผมรีบประสานงานกับ พล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา เรื่องการวางขายน้ำใบกระท่อมว่ามีมาตรการดำเนินการอย่างไร ? เพราะมันเป็น <กึ๋น> ของหัวหน้าหน่วย จริง ๆ
พล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ไม่ได้ทำให้ผมผิดหวัง ไม่ได้ทำให้ประชาชนผิดหวัง ไม่ได้ทำให้ครู ผู้ปกครอง ผิดหวัง เพราะ พล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ มีกึ๋น และกึ๋นใหญ่มาก
พล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ บอกว่า มาดำรงตำแหน่งเป็น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เมื่อเดือน พ.ย. 2566 ต่อมาวันหนึ่ง ในเดือน ธ.ค. 2566
ได้ไปพบกับ นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครราชสีมา ปรึกษาเรื่องราชการ
มีเรื่องหนึ่งที่เสนอไป คือการจำหน่ายน้ำใบกระท่อมซึ่งมอมเมาเด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษาที่กำลังจะมีอนาคต รวมทั้งมอมเมาประชาชนทั่วไปไม่เป็นอันทำงานทำการ
ตำรวจไม่มีอำนาจจัดการตามกฎหมายได้โดยตรง เพราะน้ำใบกระท่อมที่วางขายน่าจะต้องเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาต เหมือนเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ จึงขอให้ ผวจ. เชิญผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง คือ สาธารณสุข จว. มาปรึกษาหาแนวทางปฏิบัติร่วมกัน
นายสยาม ผวจ. เห็นด้วยจึงเชิญ นพ.สุผล ตติยนันทพร สธ.จว. มาพูดคุยด้วย
สรุปเบื้องต้นได้ว่า น้ำใบกระท่อมที่วางขายทั่วไปนั้นจะต้องได้รับใบอนุญาต จาก อย. <อาหารและยา> กระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับผิดชอบ ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. ก็เป็นความผิดตามกฎหมาย
สามทหารเสือ ประกอบด้วย ตำรวจ ปกครอง และสาธารณสุข เรื่มออกปฏิบัติการทันที ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2566 หลังจากวันปรึกษาหารือกัน จนถึงกลางเดือน ก.พ. 2567 นี้ ร่วมกันจับกุมผู้จำหน่ายน้ำใบกระท่อม ได้กว่า 80 ราย จับได้มากที่สุดกว่าทุกแห่งในประเทศไทย
โดย <ตั้งข้อหา> ว่า จำหน่ายอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้าหรือประกาศโดยกฎกระทรวง <น้ำใบกระท่อม> โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
ศาลพิพากษาปรับ รายละ 7,000 บาท ร้านขายน้ำใบกระท่อมเริ่มหดหายไปทีละร้านสองร้าน เพราะความเกรงกลัวต่อการจับจริง ฟ้องจริง ปรับจริง
ผมผู้เขียนเล่าเรื่องนี้ ในนามของสมาคมตำรวจ สาขา จว.นครราชสีมา ขอชมเชยและขอบคุณฝ่ายปกครอง โดยนายสยาม ผวจ.เป็นแม่งาน สธ.จว.นครราชสีมา โดย นพ.สุผล ที่งัดกฎหมายออกมาใช้คุ้มครองประชาชน และตามแบบฉบับของภาพยนต์ไทย ตำรวจต้องมาตอนจบพร้อมกับเสียงโห่ฮาของคนดู แต่ครั้งนี้ กลับกันเพราะตำรวจมาพร้อมกับเสียงปรบมือ ขอขอบคุณ พล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ผบก. ภ.จว.นครราชสีมา พร้อมทีมงาน ทั้งผู้สืบสวน ผู้จับกุม ผู้สอบสวน
พวกท่านได้สร้างบุญสร้างกุศลแก่ เด็ก เยาวชน คนทั่วไป โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา เป็นคุณูปการที่แท้จริงแก่พ่อ แม่ ครู อาจารย์ ตลอดจนผู้ปกครองของนักเรียน เด็กและเยาวชน
แต่ ปัญหายาเสพติดคงไม่ใช่มีเพียงแค่ น้ำกระท่อมหรือกัญชาเสรีที่ครู อาจารย์ พ่อ แม่ ผู้ปกครองคิดว่าทำร้ายนักเรียน เด็กและเยาวชน อยู่ในขณะนี้ จริงๆ แล้วยาเสพติดอย่างอื่นยังมีอีกมากมาย มันพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจากฝิ่น เป็นโคเคน เป็นเฮโรอีน เป็นอี เป็นไอซ์ เป็นเค เป็นยาบ้า อนาคตไม่รู้ว่ามันจะพัฒนาออกมาในรูปแบบไหนอีกเพื่อมอมเมา ลูกหลาน พี่น้องประชาชนของเรา
ตำรวจเป็นเพียงผู้ทำหน้าที่ปลายทางบังคับใช้กฎหมาย ให้มีประสิทธิภาพโดยการจับกุมลูก หลาน ของเรา ที่กำลังเจริญเติบโต เป็นอนาคตของชาติ อาจถูกจับกุม ต้องเข้าไปรับโทษในเรือนจำไปได้วิชาโจรจากนักโทษคนอื่น ๆ มาอีก
และมีจำนวนไม่น้อยที่หลังจากพ้นโทษมาแล้วไม่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเลิกเสพยาเสพติดแต่กลับถูกจับอีกเข้าออกเรือนจำเหมือนเข้าออกบ้านตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนมีผู้ต้องโทษคดียาเสพติด มากกว่าครึ่งของผู้ต้องโทษทั้งหมดในเรือนจำ
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาคราชการ ภาครัฐวิสาหกิจ ภาคประชาชนต้องมาร่วมด้วยช่วยกันแก้ปัญหาโดยการหาสาเหตุที่แท้จริงของการเสพยาเสพติด การติดยาเสพติดของนักเรียน เด็กและเยาวชน
ตำรวจ จับกุมและปราบปรามยาเสพติด มาต่อเนื่องยาวนานหลายสิบปี ได้ทั้งผู้ต้องหาจำนวนมากยาเสพติดของกลาง จำนวนมหาศาล ศาลพิพากษาประหารชีวิตก็มี จำคุกตลอดชีวิตก็มี แต่ก็ไม่สามารถทำให้ยาเสพติดหมดไปได้ตราบใดถ้าเรายังไม่เข้าใจปัญหาที่แท้จริง
ผมคิดว่า ทุกฝ่ายต้อง <ทำหน้าที่> ของตนเองให้เต็มสติกำลังความรู้ความสามารถเช่น <ตำรวจ> ก็จับกุมไป <สาธารณสุข> ก็บัดไป อีกหน่วยงานหนึ่งที่ต้องทำเต็มที่ คือ <พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์> ชื่อหน่วยงานก็บอกอยู่แล้วว่าต้องทำอะไร ?
ลองสำรวจตรวจสอบ ค้นหาความจริงซิว่า เหตุที่นักเรียน เด็ก หรือเยาวชนพากันมาเสพน้ำกระท่อมเพราะอะไร ? เช่น ครอบครัวแตกแยก เป็นกำพร้า ขาดความอบอุ่น ขาดโอกาส ต้องทำงานหนัก เป็นต้น แล้วหาวิธีการเสริมสร้างเกราะคุ้มกันโดยเฉพาะด้านจิตใจ เพื่อป้องกันไม่ให้นักเรียน เด็กหรือเยาวชนไปมั่วสุมกับยาเสพติด
ยังมีอีกหลายหน่วยงานที่ช่วยกันทำเพื่อเด็กและเยาวชนให้หลีกพ้นยาเสพติด ถึงแม้ผมจะไม่ได้กล่าวถึงผมก็ขอขอบคุณท่าน มา ณ ที่นี้
ผมจะส่งบทความนี้ไปให้ผู้บริหารสถานศึกษาที่บอกปัญหากับผมเพื่อให้ท่านเผยแพร่ต่อ และขอให้รวบรวมข้อมูลทุกสถานศึกษาในเขตพื้นที่ที่มีนักเรียนเสพน้ำใบกระท่อมว่ามีผลต่อสุขภาพและการเรียนของเด็กอย่างไร ? เสนอไปยังผู้บังคับบัญชาตามสายงาน และหน่วยงานต่าง ๆ จนถึงผู้มีอำนาจเผื่อว่าผู้มีอำนาจจะหูตาสว่างขึ้นบ้าง
ผมขอให้ทุกท่านที่อ่านบทความนี้ ช่วยกันเผยแพร่ออกไปเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่นตำรวจ ปกครอง และสาธารณสุข ช่วยกันครับ คนละไม้คนละมือเพื่อลูกหลานของเราเพื่ออนาคตประเทศชาติของเรา
ถ้าปล่อยให้นโยบาย <เสพกระท่อมเสรี ฟรีกัญชาสันทนาการ> มันเบ่งบานกันต่อไป อนาคตประเทศชาติ จะเป็นอย่างไร ? เราจะอยู่กันอย่างไร ? พี่น้องไทยเอ๋ย !
พล.ต.ต.ไอยศูรย์ สิงหนาท