คอลัมนิสต์

กุ๊ยกับด่านตำรวจ


31 มกราคม 2024, 15:31 น.

<กุ๊ยกับด่านตำรวจ>

 

กรณีมีบุคคลฉายเดี่ยวชอบไปปรากฏตัวตามจุดตั้งด่านตรวจของตำรวจใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเคลื่อนไหวของตำรวจ
ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่พร้อมกับสอบถามถึงคำสั่งตั้งด่าน ? หัวหน้าด่านเป็นใคร ? ตรวจอะไร ? ตรวจทำไม ? ทำการเผยแพร่ภาพออกไปสด ๆ พูดไปเรื่อย ๆ แบบไร้สาระ แต่ <กวนตีน> ตำรวจขณะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่มาก

 

คนพวกนี้ มีอยู่หลายคนแบ่งพื้นที่กันทำการก่อกวนยั่วยวนตำรวจให้โมโหเพื่อเรียกเรตติ้ง มีการเรียกคนพวกนี้ว่า <นักรบด่านเถื่อน> แต่สำหรับผม ผมไม่ให้ราคากับคนพวกนี้ ผมขอเรียกว่า <กุ๊ยกับด่านตำรวจ>

 

เคยมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับกุ๊ย ผู้ที่ก่อกวนด่านตำรวจ ศาลพิพากษาประมาณนี้ว่า ไม่ผิดฐาน ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน แต่ผิดฐานทำให้เดือดร้อนรำคาญปรับ 5,000 บาท

 

ผมอ่านเจอข้อแนะนำในการดำเนินการกับกุ๊ยก่อกวนด่านตำรวจจากเพื่อนตำรวจที่ส่งมาให้อ่านเห็นว่าเข้าท่าดีและมีหลักการ สามารถใช้เป็นแนวทางของตำรวจได้ ผมส่งเป็นภาพไว้ท้ายเรื่องนี้แล้ว

 

จะขอเล่าเรื่องย้อนไปในอดีตช่วงเป็น ผกก.สภ.เดชอุดม จว.อุบลราชธานี มีหญิงวัยกลางคนหนึ่งคนชายวัยกลางคนสองคนใส่เสื้อซาฟารีแขนสั้น ปักอักษรใต้เครื่องหมายอะไรสักอย่าง ว่าเป็น <หน่วยงานตรวจสอบการทำงานของภาครัฐ> ทั้งสามคนมาขอพบผม ผู้หญิงเป็นคนพูดและแสดงตัวว่า <เป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานตรวจสอบการทำงานภาครัฐขอตรวจสอบการทำงานของ ผู้กำกับ>

 

ผมนั่งฟัง มองหน้า สำรวจกิริยาท่าทีทั้งสามคน หญิงคนนั้นพูดต่ออีกว่า <โรงพักนี้ มีตำรวจหลายคน ที่ปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้องหลายเรื่องทางหน่วยได้รับเรื่องร้องเรียนเลยลงมาตรวจสอบเพื่อรายงานหน่วยเหนือ>

 

ผมยังนั่งเฉยชายคนหนึ่งลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำท่ายกกล้องถ่ายภาพที่นำติดตัวมา จะถ่ายภาพ ผมพูดเสียงเข้มทันที <ไม่อนุญาต นั่งลง> 

 

ชายคนนั้น ทำท่าตกใจ คงไม่คิดว่าจะเจอคำพูดแข็ง ๆ ของตำรวจที่น่าจะขอประนีประนอมเพราะกำลังถูกตรวจสอบ หญิงคนนั้น เห็นผมมีท่าทีแข็งกร้าวก็เริ่มมีอาการอึกอัก พูดต่ออีก <ถ้ารายงานขึ้นไปแล้วผู้กำกับเดือดร้อนแน่>

 

ผมเจอคนประเภทนี้มาบ่อย ๆ ผมรำคาญเต็มทีกับคำพูดและท่าทางของคนพวกนี้เต็มประดา จึงพูดว่า <ขอดูหนังสือจดทะเบียนสำนักงานหน่อยบัตรประจำตัวประชาชนของทุกคน เอามาแสดงด้วย> 

 

ทั้งสามคนมองหน้ากันไปมาแล้วยื่นบัตรประจำตัวประชาชนมาให้ผมดู หญิงคนนั้นพูดว่า <หนังสือจดทะเบียนอยู่ที่สำนักงานใหญ่ใน กทม. มีแต่สำเนา ติดอยู่ที่สำนักงาน>

 

ผมถามว่า <สำนักงานเป็นห้องแถวติดป้ายไว้ด้านหน้ามีสติ๊กเกอร์ที่ติดกระจกตรงประตูเข้าออกใช่มั้ย ?> ทั้งสามคนทำท่าทีเลิ่กลั่กผมจึงพูดต่อ <ไม่มีทางหากินอย่างอื่นหรือไง ? จึงมาคอยจับผิดการทำงานของตำรวจ สำนักงานของคุณ เป็นสำนักงานเถื่อนหน่วยงานของรัฐไม่มีแบบนี้หรอก>

 

หญิงคนนั้นปั้นหน้าเคร่งทำท่ายกโทรศัพท์มือถือกดเลขโทร.ออก ผมพูดอีก <เรียกมาให้หมดทั้งแก๊งเลยนะจะได้จับยกโขยงทีเดียว> ชายทั้งสองคนกระสับกระส่าย ผมพูดเสียงดังเลย <ภายใน 1 นาที ถ้าพวกคุณไม่ออกไปจากห้องผม ผมจะจับกุมให้หมดและภายในวันนี้ ถ้าไม่ปิดสำนักงานเถื่อนรับรองเจอข้อหาหนักแน่>

 

พอผมพูดจบ ชายสองคนลุกขึ้นก่อนพร้อม ๆ กัน หญิงลุกตามพากันออกจากห้องทำงานผมหายวับไปอย่างรวดเร็วไม่พูดไม่จา ไม่ร่ำไม่ลา

 

ผมไม่เคยเห็นสำนักงานพวกเหล่านี้หรอกแต่คาดการณ์ได้เพราะสมัยก่อน มันหากินกันแบบนี้ กลุ่มคนพวกนี้ ชอบหาจุดอ่อนและข้อบกพร่องของการทำงานของตำรวจ และหน่วยราชการอื่น ๆ แล้วทำท่าทีว่า ถูกส่งมาจากหน่วยงานตรวจสอบการทำงานภาครัฐ หวังได้เงินเป็นค่าปิดปาก

 

เหมือน ๆ กับนักร้องอาชีพ ที่เพิ่งโดนตลบหลังจับเร็ว ๆ นี้ แล้วก็คล้าย ๆ กับพวกกุ๊ยกวนด่านตำรวจนั่นแหละ เพียงแต่สมัยก่อนโน้น
มันมากวนที่โรงพัก แล้วดันมาโรงพักที่ผมอยู่ผมจะไปกลัวอะไร ? กับกุ๊ยนอกคอกเหล่านั้น

 

น้อง ๆ ตำรวจ ต้องพร้อมรับพร้อมรบกับไอ้พวกคนประดานี้ อย่าให้มันมาย่ำยีศักดิ์ศรีตำรวจได้ ป้องปากบอกมันไปเลยว่า <ปากหมาอย่างนี้ หากินแบบนี้ ถ้าไม่ตายในคุกถึงอยู่นอกคุกก็ไม่ตายดีหรอก>

 

ส่วนจะดำเนินคดีกับกุ๊ยพวกนี้หรือไม่ ? เป็นดุลยพินิจของท่านครับ

พล.ต.ต.ไอยศูรย์ สิงหนาท

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดคอลัมนิสต์

เรื่องล่าสุด