วันที่ 30 มกราคม 2567 พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอก ปิยะ รักสกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยพันตำรวจตรี สิริวิชญ์ ชาญเตชะสิทธิ์กุล ผู้อำนวยการกองคดีการค้ามนุษย์, นางสาวอรุณศรี วิชชาวุธ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ และนางสาวอทิตยา ทองบุญ ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับคณะผู้แทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางไปยังกรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อร่วม การประชุมกับ Pol.Lt.Gen.Chiv Phally รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกัมพูชา และ Pol.Maj.Gen.Sim Phanom ผู้บัญชาการต่อต้านการค้ามนุษย์และการพิทักษ์เยาวชน (Department of Anti-Human Trafficking and Juvenile Protection) พร้อมคณะผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชา (Cambodian National Police) รวมจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 40 คน โดยถือเป็นการประชุมทวิภาคีด้านความร่วมมือระหว่างประเทศในการสืบสวนสอบสวนคดีค้ามนุษย์ระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชา ประจำปี พ.ศ.2566 (Bilateral meeting on Counter Trafficking in Persons between Department of Special Investigation and Cambodian National Police 2023) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโครงการอาเซียน-ออสเตรเลียเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ หรือ ASEAN-ACT
การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชา เป็นประจำทุกปี มานับแต่ปี พ.ศ.2557 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ มุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและส่งเสริมศักยภาพระหว่างหน่วยงานให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องดังที่ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เคยให้นโยบายไว้แก่กรมสอบสวนคดีพิเศษว่า การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ต้องดำเนินโดยหลัก 5P คือ Policy Prevention Protection Prosecution และ Partnership ซึ่งการประชุมดังกล่าวนี้ เป็นการส่งเสริมหลักการ Partnership ให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้นโดยทั้งสองหน่วยงานได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การค้ามนุษย์ การข่าวกรองและแนวทางในการดำเนินคดี ตลอดจนที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ การร่วมกันร่างบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ราชอาณาจักรกัมพูชา และกรมสอบสวนคดีพิเศษ เรื่อง ความตกลงทวิภาคีว่าด้วยความร่วมมือด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ข้ามพรมแดน เพื่อประโยชน์ของการดำเนินการของทั้งสองหน่วยงานในอนาคตต่อไป