<ผู้บริหารเหตุการณ์>
ปี พ.ศ. 2550 ผมเป็น ผกก.สภ.ด่านขุนทด จว. นครราชสีมา ช่วงเทศกาลสงกรานต์มีอุบัติเหตุรถบัสโดยสารพลิกคว่ำ ที่ทางโค้ง บ้านภูมิโคกรักษ์ เป็นถนนสายหลักที่ผ่าน อ.ด่านขุนทด ห่างจาก สภ.ด่านขุนทด ไปไม่กี่กิโลเมตร
ผมกำลังตรวจตราการจราจรอยู่พอดี จึงรีบไปที่เกิดเหตุและวิทยุแจ้งเจ้าหน้าที่จราจร เจ้าหน้าที่สายตรวจ ให้ไปยังสถานที่เกิดเหตุทันที
บริเวณที่เกิดเหตุมีรถบัสโดยสารพลิกคว่ำตะแคงข้าง อยู่ในร่องดินริมถนนขาเข้า อ.ด่านขุนทด
ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นดิน เป็นจำนวนมาก
บางส่วนอยู่บนถนนที่เป็นพื้นผิวการจราจร พากันร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
แต่ที่น่าตกใจคือ บริเวณส่วนหัวรถบัสที่คว่ำตะแคงข้างอยู่นั้นมันทับอยู่บนส่วนขาของผู้หญิง ผู้ชาย สองคน ตั้งแต่บริเวณหน้าขาลงไป
โชคยังดีที่ หญิงชายคู่นั้นอยู่ในลักษณะนอนหงายเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ กำลังให้ดมยายูคาลิปตัสเพื่อให้หายใจสะดวก
ผมบอกให้ชวนคุยเอาไว้เพื่อรักษาสติ ถ้าหลับ กลัวจะหลับไปเลย
ผมรีบสั่งการและประสานงานทันที
<ศูนย์วิทยุ> ให้ประสานโรงพยาบาลด่านขุนทด แจ้งมีอุบัติเหตุ คนบาดเจ็บเป็นจำนวนมากขอพยาบาลและรถช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ประสานขอรถยกของเทศบาลมาที่เกิดเหตุเดี๋ยวนี้
แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ทุกหน้าที่ ที่ไม่ติดภารกิจจำเป็นเร่งด่วนให้วางภารกิจที่กำลังทำอยู่ก่อนรีบมาที่เกิดเหตุ เพื่อรับคำสั่งปฏิบัติจาก ขุนทด 1
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ มาถึง ผมสั่งการทันที
<จราจร> ไปจัดการจราจร ให้รถวิ่งไปมาได้ แต่เว้นไว้หนึ่งช่องทางเพื่อให้รถเจ้าหน้าที่ เช่นรถพยาบาล รถมูลนิธิ รถตำรวจ จอดเรียงตามยาว
<สายตรวจ> กันผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจากบริเวณที่เกิดเหตุ เก็บสิ่งของ สัมภาระ ของผู้โดยสาร ไปกองรวมกัน แล้วเอาไปที่โรงพัก แจ้งให้ร้อยเวรสอบสวนทราบ
<สืบสวน> ตรวจสอบผู้ขับรถ และคนประจำรถ แล้วแจ้งร้อยเวรสอบสวนให้ทราบ เพื่อสอบสวนหาสาเหตุ
<ร้อยเวรสอบสวน> รีบสอบสวนผู้ขับรถ และคนประจำรถ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อำนวยการในการตรวจสอบสิ่งของ และส่งมอบเจ้าของคืน
<สารวัตรสอบสวน> ให้ระดมพนักงานสอบสวนมา ช่วยกันบันทึกปากคำผู้โดยสาร ผู้บาดเจ็บ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง
<ผู้บาดเจ็บ> ที่สามารถขยับตัว เดินได้ ให้ไปนั่งบนเนินดินด้านใน ผู้บาดเจ็บที่ไม่สามารถขยับตัวได้ ให้นอนอยู่เฉย ๆ จะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลเบื้องต้น
<เจ้าหน้าที่มูลนิธิ> ให้ดูแลเยียวยาคนบาดเจ็บที่สามารถขยับตัวได้ สำหรับผู้บาดเจ็บที่ขยับตัวไม่ได้ ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่รู้วิธีการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บอย่างถูกวิธี ห้ามเคลื่อนย้าย เพราะอาจจะบาดเจ็บมากกว่าเดิม รอเจ้าหน้าที่พยาบาล ที่กำลังมาก่อนได้ประสานกับ ผอ.โรงพยาบาลด่านขุนทด แล้ว
หากจุดใดมีปัญหาในการปฏิบัติ ให้แจ้งผมทันที
ทุกคนช่วยกันทำหน้าที่ มือเป็นระวิงด้วยเจตนาข่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ เมื่อรถโรงพยาบาลมาถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิช่วยกันเคลื่อนย้าย ขนย้าย ผู้บาดเจ็บที่ขยับตัวไม่ได้นำส่งโรงพยาบาล ที่อยู่เลยโรงพักไปเล็กน้อย
ส่วนผู้บาดเจ็บที่ขยับตัวได้ รถยนต์สายตรวจกับรถของมูลนิธิ ทยอยนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนแล้ว
รถยกของเทศบาลมาพอดี คนขับรถยกบอกผมว่า <ใช้รถยกคันเดียวยกไม่ขึ้นครับต้องใช้สองคันเกี่ยวรถที่ตะแคงอยู่ทั้งสองข้างครับ>
ผมรีบสั่งการทันที
<จราจร ติดต่อรถยกเอกชนที่ใกล้ที่สุดมาเดี๋ยวนี้ บอกด้วยว่า รถที่จะยกเป็นรถบัสโดยสารตะแคงคว่ำ ตอนนี้มีรถยกแล้วหนึ่งคันต้องการอีกหนึ่งคัน ให้รีบมาช่วยกันยกเรื่องราคา ว่ากันทีหลังผมรับผิดชอบเองให้มาช่วยกันก่อนเพราะรถทับคนอยู่>
ต้องทำงานแข่งกับเวลา ระหว่างรอรถยกคันที่สอง ผมสั่งการต่อทันที
<มูลนิธิ> ให้จัดคนดังนี้
<คนถือเปล> เปลละ 2 คน เอาไปอยู่ด้านข้างคนเจ็บที่ถูกหัวรถทับ ฝั่งละเปล
<คนดึงตัวคนเจ็บ> จัดชายฉกรรจ์แข็งแรง ไปอยู่บริเวณด้านหัวของคนเจ็บสองคนต่อคนเจ็บหนึ่งคน คอยดึงตัวคนเจ็บ เมื่อรถบัสถูกยกขึ้นพ้นตัวคนเจ็บไปแล้ว พอดึงได้ ก็ดึงเลย ไม่ต้องรอให้ยกไปจนสูง คุยกัน ส่งสัญญาณกันเอง
<คนดมยา> ให้พูดคุยกับคนเจ็บตลอดเวลา แบบหาเรื่องคุยอย่าให้หลับ รักษาสติเขาไว้
<รถมูลนิธิ รถพยาบาล> เปิดท้ายรถไว้สองคัน รอรับเตียงคนเจ็บเลย
<จราจร> ให้ปิดการจราจรชั่วคราว ตอนรถมูลนิธิ รถพยาบาล นำคนเจ็บไปโรงพยาบาล
<สายตรวจ> ช่วยกันคนมุงดูไว้ด้วยและประสานสื่อมวลชนอย่าเพิ่งเข้าไปในพื้นที่ปฏิบัติการ เพื่อความสะดวกในการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย
จากนั้น ผมไปคุยกับผู้บาดเจ็บที่ถูกรถทับอยู่ทั้งสองคน ให้กำลังใจ บอกให้คิดถึงคนที่เรารัก คิดถึงครอบครัวเอาไว้ รถยกกำลังมา
นายมุรธาธีร์ รักชาติเจริญ นายอำเภอด่านขุนทด มาที่เกิดเหตุเดินมาหาผม และสอบถามเหตุการณ์ ข้อมูล ผมบอกไปคร่าว ๆ และถามว่า <นายอำเภอจะเป็นคนบริหารเหตุการณ์ไหม ?>
นายอำเภอตอบว่า <พี่ทำไปแล้ว ทำต่อเลยครับ>
ผมจึงพูดแบบจริงจังว่า <ผมจะสั่งการคนเดียวทุกเรื่อง ทุกอย่าง ถ้านายอำเภอมีความคิดอะไรให้บอกผม เพราะผู้บริหารเหตุวิกฤต ต้องมีคนเดียว คนสั่งการต้องมีคนเดียว ไม่อย่างนั้นผู้ปฏิบัติจะสับสนครับ>
ไม่นานนัก รถยกเอกชนมาถึงที่เกิดเหตุผมให้คนขับรถยก ทั้งของเทศบาลและของเอกชน พูดคุยปรึกษากันว่าคันไหน จะเกี่ยวรถบัสตรงไหน จุดใดที่เหมาะสม เพื่อยกขึ้นให้เอาตัวคนเจ็บที่ถูกทับขา ออกมาก่อน
จากนั้นคนขับรถยกก็เอาอุปกรณ์รถยก ไปเกี่ยวกับรถบัส ส่วนที่ค่อนข้างไปทางหัวรถ ทั้งสองด้าน
ผมบอกว่า <เมื่อพร้อมยกแล้วให้รอฟังเสียงนับจากผม หนึ่ง สอง สาม ยก สิ้นคำว่ายก ให้ยกรถบัสพร้อม ๆ กัน ตามนี้นะ>
คนขับรถยกเข้าใจ และเข้าประจำที่ ผมตะโกนบอก ให้คนดมยา ถอยออกมาห่าง ๆ รอบ ๆ บริเวณ มีชาวบ้านมามุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก สื่อมวลชนทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และวิทยุ ที่กำลังถ่ายทอดสด เต็มไปหมด
ทุกคนเฝ้าลุ้นระทึก ด้วยความตื่นเต้น นาทีระทึกใจมาถึง
ผมตะโกนนับช้า ๆ เสียงดัง <หนึ่ง สอง สาม…ยก>
คนขับรถยกทั้งสองคนใช้เครื่องมือบังคับ ยกรถบัสส่วนหัวลอยขึ้น ด้วยความชำนาญ ชายฉกรรจ์ฝั่งละสองคนรีบดึงตัวผู้บาดเจ็บที่ถูกรถทับหน้าขาออกมาประคองยกร่างวางบนเปล พลเปลรีบยกเปลไปที่รถมูลนิธิ รถพยาบาล ที่เปิดท้ายรถรออยู่ พลดมยาตามประกบให้ดมยาและพูดปลอบใจด้วยความดีใจ คนเจ็บทั้งสองคน ยังมีสติน้ำตาไหลพราก รถมูลนิธิรีบนำคนเจ็บไปโรงพยาบาลด่านขุนทด
มีเสียงตำรวจ ชาวบ้านและสื่อมวลชน โห่ร้อง ปรบมือด้วยความยินดี มีหลายคน ซับน้ำตาด้วยความดีใจที่ช่วยคนถูกรถทับออกมาได้อย่างปลอดภัย รวดเร็ว
ผมทราบต่อมาว่า คนเจ็บที่ถูกรถทับหน้าขาทั้งสองคน ถูกตัดขา แต่รอดชีวิต
ผมขอขอบคุณ เจ้าหน้าที่มูลนิธิ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล คนขับรถยกของเทศบาลและเอกชน ทั้งสองคน เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายทุกหน้าที่ ที่มีส่วนร่วมในวันนั้น
ขอบคุณนายอำเภอที่ให้เกียรติและไม่ก้าวก่ายการบริหารเหตุวิกฤต
ขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวด่านขุนทด ที่ให้ความร่วมมืออย่างดี และ ขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกคน ที่อยู่ในขอบเขตของการเสนอข่าว ไม่ล่วงล้ำที่เกิดเหตุ ซึ่งกำลังชุลมุนอยู่
เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิด และได้ทำไป
นี่ไงครับ !
คือความหมายของตัวอักษร บนตราแผ่นดิน หน้าหมวกตำรวจ
<พิทักษ์สันติราษฏร์>
พล.ต.ต.ไอยศูรย์ สิงหนาท