<ม็อบแช่น้ำเขื่อนสิรินธร>
นายวิทยากับนายวันชัย สองพี่น้อง เป็นแกนนำเรียกร้องเงินค่าตอบแทนชดเชย ให้กับชาวบ้าน กรณีการสร้างเขื่อนสิรินธรซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.สิรินธร
บางครั้ง ก็พาชาวบ้านลงไปในคลองส่งน้ำเพื่อใช้มวลชนคนเป็น ๆ ขวางทางการส่งน้ำ เป็นการต่อรองด้วยชีวิต
ทำให้เขื่อนไม่สามารถปล่อยน้ำตามเวลาได้เพราะกลัวว่า น้ำจะท่วมชาวบ้านตายเดือดร้อนกันไปทั่ว
ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี และ ผวจ.อุบลราชธานี สั่งให้ผม รองผบก.ภ.จว.ฯ ไปเจรจาต่อรอง กับนายวิทยาและนายวันชัย
ผมไม่เคยรู้จักแกนนำทั้งสองคนมาก่อน ผมแนะนำตัวเองกับแกนนำและกลุ่มมวลชน จากนั้นวิเคราะห์เหตุการณ์ สถานการณ์เฉพาะหน้า
ผมพูดกับนายวิทยาและนายวันชัย โดยให้เหตุผลว่า <ทำดีแล้ว ที่เป็นตัวแทน เป็นแกนนำชาวบ้านเพื่อเรียกร้องเงินชดเชย แต่การให้ชาวบ้านลงไปแช่น้ำ ขวางทางน้ำ มันไม่น่าจะถูกต้องนัก เพราะถ้าสื่อสารกับทางเจ้าหน้าที่เขื่อนแล้วเข้าใจไม่ตรงกันจะเกิดความผิดพลาดขึ้น เมื่อมีการปล่อยน้ำลงมารู้ไหม อะไรจะเกิดขึ้น ?>
ผมหยุดพูด เพื่อให้พี่น้องแกนนำคิด แล้วพูดต่อ <กระแสน้ำที่ปล่อยลงมามันไหลแรงและเชี่ยวกรากจะทำให้คนที่ไปยืนแช่ลำน้ำ เสียหลักและอาจถูกพัดพาไปตามกระแสน้ำจนถึงแก่ความตายได้มันคุ้มกันหรือ กับค่าของชีวิต ?>
ผมเว้นช่วง ดูกิริยาอาการอีกนิด แล้วพูดต่อว่า <ใช้วิธีนี้ดีมั้ย ? แช่น้ำ ชูป้าย ที่มีข้อความเรียกร้อง แล้วรีบถ่ายภาพทำประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่าง ๆ ที่นี่ก็มีสื่อมาเฝ้าทำข่าวอยู่แล้วหลายคนยังไงก็เป็นข่าว อย่าทำอะไรที่อาจให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต หรือร่างกายของผู้ชุมนุม อย่าสร้างความไม่พอใจ แก่ผู้ต้องใช้ประโยชน์จากน้ำในเขื่อน เช่นเกษตรกร ชาวสวนชาวไร่ ชาวนา จะทำให้เราขาดแนวร่วมแถมยังจะเกิดแนวต้านขึ้นมาอีกด้วย>
สองพี่น้อง สองแกนนำ ฟังผมพูดจบพากันยกมือไหว้ผมและพูดขอบคุณที่ผมได้ให้คำแนะนำ จากนั้น รีบไปบอกผู้ชุมนุมให้ทำตามที่ผมได้แนะนำทันที
เมื่อทำกิจกรรมเสร็จ ก็พากันไปนั่งอยู่บนฝั่งของคลองส่งน้ำ
เจ้าหน้าที่เขื่อนสิรินธร ประสานงานกับผมตลอดเวลา เมื่อเหตุการณ์คลี่คลาย และเมื่อถึงเวลาปล่อยน้ำ กระแสน้ำก็ถูกปล่อยออกไป เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ ตามปกติ
ผมรายงาน ผบก.ฯ รายงาน ผวจ.ฯ นับจากวันนั้น ก็ไม่มีการประท้วง เรียกร้อง โดยการแช่น้ำอีกเลย
เขื่อนสิรินธร ให้เกียรติผมเป็น V.I.P. ของเขื่อน
พล.ต.ต.ไอยศูรย์ สิงหนาท