ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

เลขาธิการ ปปง. พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวรายคดีสำคัญ ประจำเดือน ธันวาคม 2566


13 ธันวาคม 2023, 9:41 น.

 

เลขาธิการ ปปง. พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวรายคดีสำคัญ ประจำเดือน ธันวาคม 2566

 

 

วันที่ 12 ธันวาคม 2566 เวลา 10.00 น. นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. พร้อมด้วย พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, นายสุริยน ประภาสะวัต อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด พลตำรวจตรี โสภณ สารพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ พันตำรวจตรี ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมแถลงข่าวรายคดีสำคัญ ประจำเดือน ธันวาคม 2566 โดยมีนายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมายและโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. และพันตำรวจโท จักร จุลกะรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านสืบสวนสอบสวนทางการเงิน รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองคดี 3 สำนักงาน ปปง. ร่วมแถลงข่าวฯ และมีสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง ณ บริเวณโถงหน้าห้องประชุม 101 ชั้น 1 สำนักงาน ปปง.

 

นายเทพสุฯ เลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า การแถลงข่าวในวันนี้ เป็นการแถลงผลการดำเนินงานในรายคดีสำคัญ ประจำเดือน ธันวาคม 2566 ซึ่งสำนักงาน ปปง. ได้บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนในการสืบสวนสอบสวนดำเนินการกับกลุ่มผู้กระทำความผิด ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อปราบปรามอาชญากรรมฟอกเงินทุกรูปแบบ รวมทั้งเร่งเยียวยากลุ่มผู้เสียหาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมและการกระทำความผิดที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และประชาชนจำนวนมาก โดยกำชับให้หน่วยงานทุกภาคส่วนร่วมกันทำหน้าที่เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา โดยการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

 

ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 12/2566 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติให้ดำเนินการกับทรัพย์สิน 996 รายการ 35 รายคดี มูลค่าทรัพย์สินกว่า 1,191 ล้านบาท และมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สิน 31 รายคดี โดยมีการดำเนินการรายคดีสำคัญ 3 คดี ซึ่งสำนักงาน ปปง. ได้บูรณาการร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินการกับกลุ่มผู้กระทำความผิด และสามารถดำเนินการกับทรัพย์สินของกลุ่มผู้กระทำความผิด รวมทั้งขยายผลกับผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ได้จำนวนมาก โดยสรุปในแต่ละรายคดีได้ดังนี้

 

1. รายคดี นางสาวเดือนนภาฯ กับพวก ซึ่งเป็นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงประชาชน โดยแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือพนักงานของบริษัทขนส่งเอกชนหรือบริษัทไปรษณีย์ไทย หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเพื่อตรวจสอบ โดยในกรณีนี้ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และสำนักงาน ปปง. ได้สืบสวนติดตามธุรกรรมทางการเงิน จนพบความเชื่อมโยงทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด และสามารถยึดอายัดทรัพย์สินได้กล่าว รวมมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท

 

2. รายคดี นายฉี ซู กับพวก กรณีกลุ่มจีนเทาร่วมกันหลอกลวงให้ผู้เสียหายจำนวนมากลงทุนและโอนเงินไปลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี ในการนี้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ดำเนินคดี และตรวจค้นหลายเป้าหมาย ได้ตรวจยึดทรัพย์สินของเครือข่ายขบวนการกระทำความผิดจำนวนมากรวมทั้งทรัพย์สินของนางสาวจักรีณาฯ หรือ กีกี้ แม็กซิม นอกจากนี้สำนักงาน ปปง. ได้สืบสวนสอบสวนขยายผลพบทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพิ่มเติม รวมมูลค่ากว่า 596 ล้านบาท

 

3. รายคดี กลุ่มขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสุกร (คดีหมูเถื่อน) กรณีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยกรมปศุสัตว์ กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงาน ปปง. ร่วมกันสืบสวนขยายผลขบวนการลักลอกนำเข้าซากสุกรจากต่างประเทศโดยไม่ผ่านพิธีศุลกากรหรือสำแดงเท็จ ทั้งนี้ สำนักงาน ปปง. ได้ยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ก่อนหน้านี้แล้ว รวมมูลค่าประมาณ 53 ล้านบาท โดยขณะนี้สำนักงาน ปปง. อยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนขยายผล และรวมรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับเส้นทางการเงินของกลุ่มขบวนการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในชั้นนี้พบทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพิ่มเติม รวมมูลค่ากว่า 37 ล้านบาท

 

นายเทพสุฯ เลขาธิการ ปปง. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน ปปง. อยู่ระหว่างการตรวจสอบอีกหลายคดี โดยมุ่งเน้นการสืบสวนขยายผลเพื่อนำไปสู่การยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด อันเป็นการตัดวงจรอาชญากรรมเกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานและตัดเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิด ในขณะเดียวกัน ถ้าปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน สำนักงาน ปปง. ก็จะพิจารณาดำเนินการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

เรื่องล่าสุด