ไฮไลท์

“ชาดา” ร่วมกับตำรวจ ปส. แถลงข่าวจับกุมเครือข่ายยาเสพติดภาคเหนือ พบซุกยาบ้า 10 ล้านเม็ด ยึดหลัก “แยกปลาแยกน้ำ” ระหว่างผู้เสพ ผู้ค้า


7 ธันวาคม 2023, 10:27 น.

 

รัฐมนตรีชาดา แถลงร่วมตำรวจ ปส. จับกุมเครือข่ายยาเสพติดภาคเหนือ พบซุกยาบ้า 10 ล้านเม็ด โดยใช้กล้วยน้ำว้าวางอำพรางท้ายกระบะ เน้นย้ำแนวทางการทำงาน มท. ต้อง “แยกปลาแยกน้ำ” ระหว่างผู้เสพ ผู้ค้า พร้อมดำเนินการปราบปรามผู้ค้าและผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างจริงจัง”

 

 

วันนี้ (6 ธันวาคม 2566) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วย พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศอ.ปส.ตร.) พล.ต.ท.สำราญ นาลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส., พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) ผู้แทนจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) และ พันเอก สุพจน์ สวาคฆพรรณ ผู้บังคับการหน่วยข่าวกรองทางทหารศูนย์ปฏิบัติการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ผบ.ขกท.ศปก.นสศ.) พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ร่วมกันแถลงผลการปราบปรามเครือข่ายค้ายาเสพติด โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 ราย และยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ได้จำนวน 10 ล้านเม็ด ณ กองบัญชาการตํารวจปราบปรามยาเสพติด ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ

 

 

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เน้นการใช้ทุกมาตรการทางกฎหมายเพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติด และยึดทรัพย์ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ประกอบกับนโยบายของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล มุ่งมั่นในการกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายที่ก่อให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมืองตามพันธกิจของกระทรวงมหาดไทยในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชนได้ “มีความสมบูรณ์พูนสุข” สังคมไทยเป็นสังคมที่น่าอยู่ พี่น้องประชาชนไม่ต้องหวาดระแวงกับภยันอันตราย และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุข

 

 

“สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 66 หน่วยงานความมั่นคงได้ร่วมกันสืบสวนติดตามพฤติกรรมเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ พบว่าจะใช้รถกระบะลักษณะตีคอก ก 13XX (ป้ายแดง) กำแพงเพชร และรถกระบะอีซูซุ ยX 81XX เชียงใหม่ ลำเลียงยาเสพติดจากจังหวัดเชียงใหม่ ลงไปยังพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยอำพรางด้วยพืชผลทางการเกษตร ต่อมาได้พบความเคลื่อนไหวของเครือข่ายขับรถกระบะ ก 13XX (ป้ายแดง) กำแพงเพชร เข้าไปรับยาเสพติดบริเวณ ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จว.เชียงใหม่ จากนั้นได้มุ่งหน้าสู่พื้นที่ภาคกลาง โดยมีรถยนต์อีซูซุ ยX 81XX เชียงใหม่ ขับนำทางและนำมาจอดทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท.วังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากนั้นมี รถเก๋งฮอนด้า ญX 28XX กรุงเทพ ขับรถมาจอดที่หน้ารถกระบะ ก 13XX (ป้ายแดง) กำแพงเพชร แล้วมีคนลงจากรถเก๋งแล้วขึ้นไปขับรถกระบะลักษณะตีคอกฯ ออกไป โดยมีรถเก๋งขับนำทางไป ต่อมาพบรถกระบะ ก 13XX (ป้ายแดง) กำแพงเพชร ขับมาจอดภายในซอยหมู่บ้านฉัตรนคร แขวง/เขตประเวศ กรุงเทพฯ ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตัวขอตรวจค้น จากการตรวจค้นรถกระบะลักษณะตีคอก พบมีการใช้กล้วยน้ำว้าจำนวนมากมาวางปิดทับซุกซ่อนกระสอบบรรจุยาบ้า จำนวนประมาณ 10 ล้านเม็ด จึงจับกุมผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่ขับรถบรรทุกยาเสพติด และนำรถทั้งหมด จำนวน 5 คน พร้อมรถยนต์ 3 คัน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี” นายชาดาฯ กล่าว

 

 

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยมีนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลในทุกพื้นที่ โดยพบว่าผู้มีอิทธิพลส่วนมากมีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่ต้องดำเนินการปราบปรามโดยเร่งด่วน ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และใช้กลไกในระดับพื้นที่ร่วมบูรณาการทำงาน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้เปิดปฏิบัติการ (Kick off) ปราบปรามผู้มีอิทธิพล เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมานี้ ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องทำงานร่วมกัน “แยกปลาแยกน้ำ” ระหว่างผู้เสพผู้ค้า ดำเนินการปราบปรามผู้ค้า ผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างจริงจัง เพื่อเป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง โดยทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็จะเนินการขยายผลเพื่อสืบหาเครือข่ายของผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่มีอิทธิพลต่อไป

 

 

“ขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนและทุกคนในสังคมไทย หากพบเห็นเบาะแสการกระทำผิด เช่น ลักลอบจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมาย หรือการกระทำความผิดทุกรูปแบบ สามารถแจ้งข้อมูล และร้องเรียนร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ สายด่วน 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง” นายชาดาฯ กล่าว

 

 

กองสารนิเทศ สป.มท.
วันที่ 6 ธ.ค. 2566

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดไฮไลท์

เรื่องล่าสุด