รักษาราชการ ผบช.ภ.6 ไม่นิ่ง ลงดาบสั่งตั้งการสอบแล้ว ทีม 10 ตร. เพิ่มยอดส่วย เมียววดี – แม่สอด
หลังจากกระแสข่าวสะพือความรุนแรงขึ้น กรณีตำรวจไทยในสังกัดตำรวจภูธรภาค 6 กว่า 10 นาย ลักลอบเข้าไปเจรจาขอเพิ่มยอดขบวนการสีเทา-ดำ ในพื้นที่จังหวัดเมียววดี และเกิดความไม่พอใจอย่างมากจากกองกำลังภายใต้สังกัดหม่องชิตู ถึงขั้นขู่ตอบโต้ฝ่ายไทยโดยการสั่งปิดด่านในเวลาไม่ช้านี้
ที่สุด พล.ต.ต.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ลงนามในคำสั่งที่ 305/2566 แต่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมี พล.ต.ต.อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เป็นประธานแล้ว
ด้วย ตำรวจภูธรภาค ๖ มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ ๐๐๒๑(สง.)/๒๑ ลงวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีปรากฎทางสื่อออนไลน์ว่า พันเอกหม่องชิตตู่ ผู้บัญชาการควบคุมพื้นที่ ๓ กองกำลังบีจีเอฟ พื้นที่บ้านส่วยโก๊กโก่ รัฐกระเหรี่ยง ด้านตรงข้าม บ้านวังแก้ว หมู่ที่ ๔ ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และบ้านวังผา หมู่ที่ ๔ ตำบลแม่จะเรา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ประกาศปิดชายแดนในเขตพื้นที่รับผิดชอบด้านทิศเหนือ จังหวัดเมียวดี รัฐกระเหรี่ยง ตลอดแนวชายแดนทั้งหมด เนื่องจากไม่พอใจ พันตำรวจเอก ไสว ครุธผาสุข รักษาราชการแทน ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค ๖ ที่ได้ส่ง พันตำรวจโท สนั่น เหล็กบุญเพชร สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรพระวอ จังหวัดตาก พร้อมลูกน้อง จำนวน ๑๐ นาย เข้าไปบริเวณช่องทาง ท่าข้ามธรรมชาติ ด้านตรงข้าม บ้านวังผา หมู่ที่ ๔ ตำบลแม่จะเรา อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก เพื่อขอเรียกเก็บผลประโยชน์ในอัตราที่สูงขึ้น และต่อรองราคาไม่ได้ โดยอ้างว่าเป็นนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๖ ทำให้ พันเอก หม่องชิตตู่ ไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง จึงตอบโต้ด้วยการประกาศจะปิดชายแดนเป็นเวลา ๓ เดือน นับตั้งแต่วันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ เป็นต้นไป
ดังนั้นเพื่อให้ได้รายละเอียดพฤติการณ์และหลักฐานในเบื้องต้นที่เพียงพอ ว่ากรณีมีมูลที่ควรกล่าวหา ข้าราชการตำรวจดังกล่าวกระทำผิดวินัยตามที่ถูกร้องเรียนหรือไม่ ประการใด อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๕ มาตรา ๖๖, มาตรา ๑๑๗ จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วยบุคคลดังต่อไปนี้
๑. พลตำรวจตรี อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ รักษาราชการแทน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๖ เป็นประธานกรรมการ
๒. พันตำรวจเอก พุฒินนท์ คงเสมอ ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานตรวจสอบสำนวนคดี กองบังคับการกฎหมายและคดี ตำรวจภูธรภาค ๖ เป็นกรรมการ
๓. พันตำรวจเอก รังสรรค์ พูลนุช ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานตรวจสอบสำนวนคดี กองบังคับการกฎหมายและคดี ตำรวจภูธรภ าค ๖ เป็นกรรมการและเลขานุการ
๔. พันตำรวจโท พิเชษฐ ปั่นกาวี รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลกเป็นผู้ช่วยเลขานุการ
อำนาจหน้าที่
๑. ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ทราบรายละเอียดและข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น
๒. ขอข้อมูลเอกสารจากบุคคล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำหรือขอข้อมูล เพื่อประกอบการตรวจสอบข้อเท็จจริง
๓. ดำเนินการตามที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๖ มอบหมาย
ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วสร็จภายใน ๗ วัน นับแต่วันที่ประธานกรรมการรับทราบคำสั่ง แล้วเสนอรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป