คอลัมนิสต์

ไปรู้จักจีน


31 ตุลาคม 2023, 22:35 น.

 

ไปรู้จักจีน

คนจีนนั้นฉลาดชาตินิยม
ได้สั่งสมวิชาการหลายด้านยิ่ง
จีนผลิตจีนขายมากมายจริง
ไม่หยุดนิ่งความก้าวหน้าสารพัน

มีเทคโนโลยีที่เป็นหนึ่ง
ไม่ต้องพึ่งต่างชาติด้วยมาดมั่น
คิดได้เองทำได้เองทุกสิ่งอัน
เขาขยันและฉลาดชาตินิยม
๒๕/๑๐/๖๖

 

ผมเคยไปประเทศจีนหลายครั้ง ไปเพราะได้รับเชิญในฐานะนักเขียนบ้างนักหนังสือพิมพ์บ้างและไปเที่ยวเป็นการส่วนตัวหลายครั้งแต่ไม่เคยไปโดยบริษัททัวร์แม้แต่ครั้งเดียว
เพื่อเป็นการบันทึกความทรงจำตอนไปจีนยุคเปิดประเทศใหม่ๆ ยุคนั้นประเทศจีนมีแต่รถจักรยานเต็มไปหมด (ผมยืนถ่ายภาพกับรถจักรยานที่จอดเป็นตับไว้เป็นที่ระลึกตามในภาพนี้) มีรถยนต์ยี่ห้อหงฉี(ธงแดง)สีดำๆผลิตเองได้ในจีนวิ่งอยู่ประปราย ไปตามชนบทบางแห่งมีกลิ่นเหม็นจากการใช้อุจจาระของคนมาทำปุ๋ยเพื่อใช้รดพืชผัก คนจีนสมัยนั้นเก็บอุจจาระเป็นของมีค่า ตามบ้านเรือนบางแห่งเขาจะถ่ายใส่ถัง รูปร่างของถังคล้ายๆถังไม้สักที่ใช้ตวงข้าวของคนไทยสมัยโบราณ ที่เมืองหังโจว-ซูโจว เช้าๆจะมีถังไม้สีแดงๆวางไว้หน้าบ้านในตอนเช้าๆ มีรถมาคอยเก็บอุจจาระในตอนสายๆ

 

ตามส้วมสาธารณะต่างๆมีการทำเป็นรางเปิดเป็นห้องโล่ง ผูชายนั่งอึกันไปสูบบุหรี่คุยกันไป อึนั้นเขาก็มาเก็บไปใช้ประโยชน์ ครั้งหนึ่งผมเคยไปจีนกับคุณวัชรินทร์ วาณิชชา หัวหน้าข่าวสตรีหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ(เสียชีวิตแล้ว)และคุณนงนุช นามวงศ์ ทั้งสองคนมาเล่าอย่างละล่ำละลักให้ฟังว่าผู้หญิงก็ถลกกระโปรงมาผูกไว้ที่เอว นั่งฉี่กันไปคุยกันไปเช่นกัน ยุคนั้นผู้หญิงเริ่มนุ่งกระโปรงกันมากแล้วแต่การนั่งตามสถานที่ต่างๆไม่ค่อยระมัดระวัง ทั้งสองคนสะกิดให้ดูเสมอ เพราะเธอเห็นเป็นเรื่องแปลก

วัฒนธรรมการถ่ายใส่ในถังนี้ในกรุงเทพฯของเราก็เคยนำมาใช้สมัยที่ไทยเรายังไม่มีการใช้ส้วมซึม มีหลักฐานเอกสารที่มีผู้เคยค้นคว้าไว้ มีคนจีนคอยเก็บเช่นกัน เรียกกันว่า“ออนเหวง” ในหนังสือเรื่อง“ทรัพย์ในดิน”(The Good Earth)ของเพิร์ล เอส. บั๊ค นักเขียนผู้เกิดในจีนและอยู่ที่จีนนานก็บันทึกไว้ แม้แต่ผู้หญิงจีนจะคลอดก็คลอดใส่ถัง(หนังสือเรื่องนี้ได้รับรางวัลโนเบลไพรซ์ เป็นหนังสือดีเล่มหนึ่งเกี่ยวกับจีนที่เคยอ่าน)แปลเป็นไทยโดยสันตสิริผู้ล่วงลับ

 

 

ประเทศจีนในยุค 30-40 ปีก่อน ไม่มีรถไฟความเร็วสูง รถไฟก็เหมือนในไทยทุกอย่าง แต่รางเขากว้างกว่า ชั้นตู้นอนก็เหมือนกัน ปัจจุบันนี้รถไฟจีนมีความเจริญก้วหน้ามาก เป็นเทคโนโลยีที่จีนได้มาจากญี่ปุ่นอีกทีหนึ่ง ยุคปฏิวัติวัฒนธรรมจีนเอาวัตถุทุกชนิดที่เป็นเหล็กเก่าๆมาหลอมทำอาวุธและของใช้ ปัจจุบันจีนเป็นประเทศที่ผลิตเหล็กเป็นรายใหญ่ของโลก จีนผลิตอาวุธได้มากมาย จนกองทัพไทยหลงลมสั่งซื้อเรือดำน้ำจ่ายเงินแล้วแต่เอาเรือมาไม่ได้เพราะเยอรมันไม่ยอมผลิตเครื่องยนต์ให้
ภาพต่างๆที่เล่ามานี้คนที่ไปเที่ยวจีนยุคปัจจุบันจะไม่ได้เห็นแล้ว มีคนที่ไปเที่ยวมาเมื่อไม่นานมานี้บอกให้ฟังว่าไม่มีแล้ว ระยะหลังเคยไปเที่ยวเป็นการส่วนตัวกับภรรยาและ ดร.ขวัญดี อัตตวาวุฒิชัย(เสียชีวิตแล้ว) อาจารย์ขวัญดีเป็นอาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นเพื่อนนักวิชาการกับ ท่านเตช บุนนาค เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐประชาชนจีนสมัยนั้น ท่านเตชได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี เลี้ยงอาหารด้วย(ในภาพถ่ายเป็นสถานทูตไทยในกรุงปักกิ่ง ผู้ชายใส่สูทเป็นทูตพานิชย์)แต่พอไปเที่ยวตามมณฑลต่างๆก็ไปเจอส้วมอย่างที่เล่า แต่มีส้วมซึมใช้กันมากแล้ว แต่ยังมีคนไปถ่ายนอกโถส้วมอยู่อีก ที่เล่าสนุกๆนี้เพื่อจะตอบคำถามว่า ทำไมคนจีนมาเที่ยวไทยจึงการถ่ายเรี่ยราดบางแห่ง เช่นไปถ่ายใใส่คูเมืองเชียงใหม่เป็นต้น

 

ตอนผมไปจีนได้ 4 ครั้ง หนังสือสารานุกรมนักเขียนต่างประเทศที่เคยไปจีนและทำประโยชน์ให้จีน(เป็นหนังสือปกแข็งหนามาก)ได้บันทึกประวัติผมไว้ด้วย ตามสำเนาสีแดงในภาพ
ตอนจีนปฏิวัติโค่นล้มราชวงศ์ชิงที่ทำให้ประเทศชาติล่มจมเสียเปรียบแก่ฝรั่ง ดร.ซุน ยัดเซ็น ผู้นำการปฏิวัติได้ตั้งลัทธิไตรราษฎร์ขึ้น 3 ประการ ประการแรกที่สำคัญคือ”ชาตินิยม” นอกจากความฉลาดของคนจีนแล้ว สังเกตเห็นได้ว่าความเป็นชาตินิยมนั้นเองทำให้จีนเป็นประเทศมหาอำนาจดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
เป็นคนชอบถ่ายภาพ เพื่อนชาวจีนชวนให้ถ่ายในชุดฮ่องเต้สมัยหนุ่มๆตลกๆครับ

ป้ายกำกับ: ,

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดคอลัมนิสต์

เรื่องล่าสุด