ธอส. ช่วยเหลือลูกค้าประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ด้วยการจัดทำมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปี 2566 ทั้งสิ้น 7 มาตรการ
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ในการช่วยเหลือลูกค้าประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ด้วยการจัดทำมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปี 2566 ทั้งสิ้น 7 มาตรการ ประกอบด้วย 1.50%% 6 2.6 4.1 0% 61,0005.0.01%6.7.Fast Track) ลดเงินงวด จากเงินงวดปกติและลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 2.00 ต่อปี เป็นระยะเวลา เดือน ให้กู้เพิ่มหรือกู้ใหม่อัตราดอกเบี้ย 2.00% 1 3.1 6 0% ต่อปี นาน ปี ประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน ปี เดือน และคิดอัตราดอกเบี้ย ต่อปี นาน เดือนไม่ต้องชำระเงินงวด ประนอมหนี้ไม่เกิน ปี คิดอัตราดอกเบี้ย ต่อปี นาน เดือน ผ่อนเงินงวดเพียง บาท กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรให้ผ่อนชำระดอกเบี้ย ต่อปี ที่อยู่อาศัยเสียหายทั้งหลังซ่อมแซมไม่ได้ ให้ปลอดหนี้ในส่วนของอาคาร และ พิจารณาสินไหมเร่งด่วน (สำหรับลูกค้าที่เป็นผู้ประสบภัยทำกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยซึ่งคุ้มครองภัยธรรมชาติ สามารถแจ้งเคลมความเสียหาย รับค่าสินไหมเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” พร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในการช่วยเหลือลูกค้าประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างเต็มที่ ด้วยการจัดทำ “มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปี 2566” ทั้งสิ้น 7 มาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้ง กทม.ปริมณฑล และภาคใต้ ที่ส่งผลให้หลายพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก สร้างผลกระทบต่อที่อยู่อาศัย และการประกอบอาชีพของประชาชน โดยมาตรการดังกล่าว ประกอบด้วย
มาตรการที่ 1 สำหรับลูกค้าปัจจุบันของ ธอส. ที่อยู่ระหว่างการใช้อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (MRR -0.50%, MRR -1.00% หรือ MRR เป็นต้น) กรณีหลักประกัน (ที่อยู่อาศัยที่จดจำนองกับธนาคาร) ของตนเองหรือคู่สมรสได้รับความเสียหายจากการประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติสามารถขอลดเงินงวด 50% จากเงินงวดที่ชำระปกติ และลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 2.00% ต่อปี เป็นระยะเวลา 6 เดือน
มาตรการที่ 2 สำหรับลูกค้ากู้ใหม่ หรือลูกค้าปัจจุบันของ ธอส. ที่หลักประกันของตนเองหรือคู่สมรสได้รับความเสียหายจากการประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ สามารถขอกู้เพิ่ม หรือกู้ใหม่ เพื่อปลูกสร้างอาคารทดแทนหลังเดิม หรือกู้ซ่อมแซมอาคารที่ได้รับความเสียหาย วงเงินให้กู้ต่อรายไม่เกิน 1 ล้านบาท ต่อ 1 หลักประกัน% 1 คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ 2.00 ต่อปี นาน ปี ปีที่ 2 อัตราดอกเบี้ย MRR -3.30% ต่อปี (ปัจจุบันเท่ากับ3.60% ต่อปี) ปีที่ 3 อัตราดอกเบี้ย MRR -2.40% ต่อปี (ปัจจุบันเท่ากับ 4.50% ต่อปี) และปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญาเงินกู้กรณีลูกค้าสวัสดิการ ดอกเบี้ยเท่ากับ MRR -1.00% ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป ดอกเบี้ยเท่ากับ MRR -0.50% ต่อปี
มาตรการที่ 3 ลูกค้าสถานะ NPL ที่หลักประกันได้รับความเสียหาย ให้ประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี 6 เดือน โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0% 6 ต่อปี นาน เดือนแรก และไม่ต้องชำระเงินงวด จากนั้นเดือนที่ 7-18 อัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี โดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน และเมื่อครบระยะเวลาประนอมหนี้ให้กลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้
มาตรการที่ 4 ลูกค้าสถานะ NPL ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ ให้ประนอมหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0% 6 1,000 ต่อปี นาน เดือนแรก และผ่อนชำระเงินงวดเพียง บาท (ตัดเงินต้นทั้งหมด) จากนั้นเดือนที่ 7-12 อัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี โดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน บวกอีก 100 บาท และเมื่อผ่อนชำระครบระยะเวลาประนอมหนี้ ให้ลูกค้ากลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้
มาตรการที่ 5 ลูกค้าสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL ที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร ให้ผ่อนชำระโดยใช้ 0.01% อัตราดอกเบี้ย ต่อปี ตลอดระยะเวลาที่คงเหลือ (พิจารณาเป็นรายกรณี)
มาตรการที่ 6 ลูกค้าสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL หากที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลังและไม่สามารถซ่อมแซมได้ และให้ผ่อนชำระต่อเฉพาะในส่วนของที่ดินให้ปลอดหนี้ในส่วนของราคาอาคารที่คงเหลือเท่านั้น (พิจารณาเป็นรายกรณี)
มาตรการที่ 7 พิจารณาสินไหมเร่งด่วน (Fast Track) สำหรับลูกค้าที่ทำกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัยซึ่งคุ้มครองภัยธรรมชาติกับบริษัทประกันภัยที่ธนาคารจัดให้ พิจารณา โดยผู้เอาประกันสามารถแจ้งความเสียหายโดยใช้ภาพถ่าย จ่ายตามความเสียหายจริงไม่เกิน 20จ่ายค่าสินไหมให้กับลูกค้าที่ประสบภัยทุกรายอย่างเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ,000 บาท และสำหรับลูกค้าที่มีกรมธรรม์เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 เพิ่มความคุ้มครองภัยธรรมชาติตามความเสียหายจริงอีกไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี (รายละเอียดและเงื่อนไขเป็นไปตามกรมธรรม์)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL GEN และ http://www.ghbank.co.th