<ของขวัญวันเกิด>
ผมเป็นตำรวจโรงพัก ทั้งนครบาลและภูธร เคยอยู่ ด่าน ตม., บช.ศ., จบที่ ตชด.
ตอนเป็น รอง ผกก.อยู่ ด่าน ตม. แห่งหนึ่ง มีการจับกุมพวกแรงงานต่างด้าว จำได้ว่า 25 คน เข้าไปอัดอยู่ในห้องกักขังเล็ก ๆ ใน กก.ด่าน ตม. เพื่อรอส่งกลับ
เวลากลางวัน ผมออกไปหากินอาหารกลางวันข้างนอกที่ทำงาน ตำรวจ ตม. บางส่วน เอากับข้าวมากินกันในที่ทำการ เมื่อกลับเข้ามา ผมได้เห็นความอิดโรยของคนต่างด้าวที่ถูกขัง จึงสอบถามลูกน้องว่า
<คนต่างด้าวที่ขังอยู่ ได้กินอะไรหรือยัง ?>
คำตอบทำให้ผมตกใจ
<ไม่มีอาหารเลี้ยง จนกว่าจะส่งไปห้องกัก เพื่อส่งต่อที่ห้องกัก สามารถจัดการประกอบเลี้ยงได้ เป็นไปตามระเบียบครับ>
ผมถามต่อ
<แล้วระหว่างรอ เขาจะกินอะไร ? ทำไมไม่รีบส่งไปห้องกักล่ะ รออะไร ?>
คำตอบ ทำให้ผมเซ็งเป็ด
<ตอนนี้ เขาก็กินน้ำก๊อกในห้องน้ำ การส่งไปห้องกัก ต้องรอให้มีผู้ถูกจับมามากกว่านี้จึงจะคุ้มค่าพาหนะครับ>
ผมควักเงินส่วนตัวให้ลูกน้องไปซื้อข้าวผัดกระเพรา ใส่ไข่ดาว 30 กล่อง เอามาให้คนต่างด้าวที่ถูกจับกุมกินเกินไป 5 กล่อง ก็เผื่อคนกินไม่อิ่ม ลูกน้อง ตม. หลายคนพากันอมยิ้ม มองผมด้วยสายตาอ่อนโยน เป็นมิตร แต่มีบางคนพูดเตือนว่า
<ระวังถูกร้องเรียนว่าสนับสนุนคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองนะครับ>
ผมตอบสั้น ๆ ว่า
<เพื่อมนุษยธรรม เป็นคนเหมือนกันใครอยากร้องก็ช่างมันผมไม่สน>
ตอนที่ผมเป็น ผกก.รร.ภ.9 จว.ยะลา มีกำลังพลประมาณ 200 กว่านาย ทั้งไทยพุทธ และมุสลิม
ผมบริหารงบประมาณ สั่งประกอบเลี้ยงอาหารกำลังพลทุกวันราชการ วันละ 2 มื้อ มื้อเช้า เป็นข้าวต้ม ปลา ไก่ มื้อกลางวัน เป็นอาหารปกติ มีข้าว กับข้าว 2 อย่าง ของหวานหรือผลไม้ ผมกินพร้อมกับลูกน้อง
บางวันผมซื้อโรตีเจ้าอร่อย เอาไปฝากสิบเวร ที่เข้าเวรกลางคืน ตามกองร้อย บางกองร้อย ไม่เจอสิบเวรผมเอาโรตีวางไว้และวิทยุแจ้งศูนย์วิทยุของ รร.ภ.9 ว่า
<มีวัตถุแปลกปลอมอยู่ที่โต๊ะสิบเวร กองร้อย…ตรวจสอบด่วน>
สักครู่เดียวจริง ๆ มีเสียงสิบเวร กองร้อย…วิทยุตอบผ่านศูนย์มาว่า
<เจอแล้ว ตรวจสอบแล้ว เป็นโรตี>
สิบเวรกองร้อยอื่น ๆ พูดวิทยุสอดเข้ามา
<กองร้อย…ก็ได้รับ เป็นโรตีเหมือนกัน ผู้กำกับเอามาให้ขอบคุณครับ>
สวัสดิการ ขวัญ กำลังใจ ผมจัดให้ลูกน้องเต็มที่
ช่วงอยู่โรงพัก วันเกิดของผมของขวัญผมไม่เหมือนใคร คือผมจะเลี้ยงอาหารกลางวัน ผู้ต้องหาในห้องขังโรงพัก
ทำไมต้องเลี้ยงอาหารผู้ต้องหาล่ะ ? ผมคิดว่า ตำรวจโรงพักชีวิตพัวพันกับคนเหล่านี้เป็นเวรเป็นกรรมต่อกัน อะไรที่ทำให้เขาได้บ้าง
ผมก็ทำตามประสาของผม
ในวันเกิดของผม ผกก.สภ.ละหานทราย จว.บุรีรัมย์ นอกจากเลี้ยงอาหารผู้ต้องหาแล้ว ผมซื้อผ้าห่มทอมือ จำนวน 100 ผืน ฝีมือทอของชาวบ้านในพื้นที่ละหานทราย เอาไปมอบให้กับ รพ.ละหานทราย เพื่อให้คนป่วยใช้ห่มนอน
เพราะผมเคยไปธุระที่ รพ. เห็นผ้าห่มคนป่วย เก่ามาก ขาดวิ่นก็มี
งานนี้ได้ทั้งบุญ และได้ช่วยเหลือสนับสนุนสินค้าท้องถิ่นของชาวบ้านด้วย
นอกจากนี้ ผมซื้อวัวตัวเมียมา 2 ตัว บอกลูกน้องไปว่า
<ให้หาชาวบ้านยากจน ที่เป็นเกษตรกร ทำไร่ ทำนามา 2 คน จะมอบวัวให้ไปเลี้ยงคนละตัว>
สองสามวันต่อมา ด.ต.ชาญ กับ ด.ต.ยาว พลขับของผม ได้มาบอกว่า
<มีหญิงขาพิการ ข้อเท้าพับไปด้านหลังทั้งสองข้างมีลูกสาว เรียนหนังสือ อาชีพรับจ้างทำสวน ทำไร่ ฐานะยากจนมาก น่าจะให้วัวหญิงพิการไปคนเดียว ทั้ง 2 ตัวเลย ดีไหมครับ ?>
ผมฟังคำพูด คำแนะนำของพลขับ ลูกน้องผม ใช้ได้ เข้าท่าดี มีเหตุผล
ผมให้ตำรวจไปเชิญตัวหญิงพิการกับลูกสาว มาพบและซักถาม ได้เห็นสภาพตามความเป็นจริงจึงบอกว่า
<ตำรวจละหานทราย จะมอบวัวตัวเมียให้ไปเลี้ยงไว้ใช้งาน 2 ตัว ห้ามขาย ห้ามฆ่า เอาไว้เป็นแม่พันธุ์ เพื่อแบ่งลูกวัวกับคนที่เอาวัวตัวผู้มาผสมพันธุ์ ถ้ามันตายตามธรรมชาติ เช่นหมดอายุขัยก็แล้วแต่จะทำ สาบานว่าจะทำตามนี้นะ>
หญิงพิการดีใจมากยกมือไหว้ ยิ้มมีความสุข ลูกสาวก็ยกมือไหว้ ยิ้มแป้นด้วยความดีใจ และสาบานว่าจะทำตามที่ผมบอกไป
ที่ ภ.จว.อุบลราชธานี ของขวัญวันเกิดผม คือ ผมมอบวัวตัวเมีย 2 ตัว ให้กับนักการของ สภ. แห่งหนึ่งไปเลี้ยงและใช้ประโยชน์ โดยใช้กติกาเดียวกันกับหญิงพิการที่ สภ.ละหานทราย ตามข้อมูลและคำเสนอแนะของตำรวจลูกน้อง ผู้ไปหาข้อมูล
การทำงาน การทำภารกิจใด ๆ ถ้าไม่ใช่เรื่องจำเป็น เร่งด่วน กระทันหัน ผมจะรับฟังคำพูด ข้อเสนอแนะ จากเพื่อนร่วมงาน และลูกน้องที่พูดหรือนำเสนอ เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมแต่ผมเป็นคนตัดสินใจ
ผมทำทุกอย่าง ทุกเรื่องราวที่เล่ามา ด้วยความตั้งใจ เต็มใจ บางเหตุการณ์ ก็เป็นของขวัญวันเกิดที่ล้ำค่าที่สุด ในความรู้สึกของผมในปีนั้น ๆ
<ความสวยงามที่สลักลงบนก้อนน้ำแข็งมีแต่จะละลายหายไป ความสวยงามที่สลักในใจจะคงไว้ตลอดกาล>
พล.ต.ต.ไอยศูรย์ สิงหนาท