พ่อเมืองลำพูน ให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พร้อมหารือแนวทางความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อนำไปสู่การเป็นหุ้นส่วนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวลำพูนอย่างยั่งยืน ตามเป้าหมาย SDG ข้อที่ 17: Partnerships for the Goals
วันนี้ (29 ส.ค. 66) นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ให้การต้อนรับนายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค (H.E. Mr. Robert F. Godec) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พร้อมด้วยนางลิสา บูเจนนาส (Consul General Lisa A. Buzenas) กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะ ในโอกาสร่วมหารือแนวทางความร่วมมือระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและจังหวัดลำพูน โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมให้การต้อนรับ ณ บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด สาขาลำพูน
นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า จังหวัดลำพูนมุ่งมั่นขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนตามเจตนารมณ์ “76 จังหวัด 76 คำมั่นสัญญา เพื่อการพัฒนา เพื่อความเท่าเทียม เพื่อความยั่งยืน “โลกนี้เพื่อเรา” โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ที่ได้ประกาศร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและสหประชาชาติประจำประเทศไทยในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) โดยให้ความสำคัญกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนข้อที่ 17 (Partnership) อันถอดบทเรียนมาจากหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งการเดินทางมาเยือนจังหวัดลำพูนของนายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค (H.E. Mr. Robert F. Godec) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และคณะ ในวันนี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งถึงการมี Passion ที่จะมาเป็นภาคีเครือข่ายกับจังหวัดลำพูนและกระทรวงมหาดไทย ในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยและโลกใบเดียวนี้
“จังหวัดลำพูนน้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมุ่งมั่นในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชดำริทั้งปวงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้วยการมุ่งมั่นทุ่มเทในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับประชาชน สะท้อนผ่านการทรงงานและพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ และนับเป็นพระกรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่พระองค์ท่านทรงมุ่งมั่นตั้งเป้าในการมุ่งพัฒนาที่ยั่งยืน โดยพระราชทานพระดำรัสว่า Sustainable Village เป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยที่ต้องช่วยกันสร้างให้เกิดขึ้น ซึ่ง “หมู่บ้านยั่งยืน” (Sustainable Village) เป็นองค์รวมที่ครอบคลุมทั้งความมั่นคงทางอาหาร มีอาหารการกิน มีน้ำดื่ม มียารักษาโรค คนด้อยโอกาสไม่ถูกทอดทิ้ง คนใช้ภูมิปัญญาในการทำมาหากินแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การถ่ายทอดภูมิปัญญาและการให้การศึกษา การให้คนเข้าถึงบริการภาครัฐ การเสริมสร้างความรักความสามัคคี ทำให้เกิดความเข้าใจกันในสังคม ไม่มีการกดขี่ทางเพศ ไม่มีการค้ามนุษย์ ซึ่งทั้งหมดเป็นหน้าที่ของคนมหาดไทยในการเป็นหัวขบวน เป็นผู้นำ เป็นแม่เหล็ก ดึงทุกภาคส่วนมาขับเคลื่อน บนพื้นฐานของกฎเกณฑ์สากล มีความเสมอภาค ยุติธรรม เปิดกว้าง และเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย” ผวจ.ลำพูน กล่าว
นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวต่ออีกว่า จังหวัดลำพูนได้ร่วมกันหารือความสัมพันธ์ร่วมกันเพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดลำพูนในหลายประเด็น ได้แก่
1) ด้านเศรษฐกิจไทย – สหรัฐอเมริกา : การหารือด้านการส่งเสริมการลงทุนของบริษัทสัญชาติอเมริกันในจังหวัดลำพูน เพื่อเชื่อมโยงกับระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (Northern Economic Corridor: NEC) โครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดลำพูน เฟส 2 และการสร้างท่าอากาศยานเชียงใหม่ แห่งที่ 2 ในอนาคต ทั้งนี้ สถานทูตสหรัฐอเมริกาจะสนับสนุนการเชื่อมโยงและการลงทุนของหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (American Chamber of Commerce in Thailand: AMCHAM) ในพื้นที่จังหวัดลำพูนต่อไป
2) ด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในจังหวัดลำพูน : จังหวัดลำพูน มีวิสัยทัศน์การพัฒนาจังหวัด ที่ว่า “เศรษฐกิจสร้างสรรค์ บนความพอเพียง” จึงได้มีการหารือในประเด็นของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของจังหวัดลำพูน โดยเฉพาะการยกระดับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ สาขาภาพยนตร์และวีดิทัศน์
3) ด้านความร่วมมือในการจัดการปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) : เป็นที่ทราบกันดีว่า จังหวัดลำพูนและจังหวัดในภาคเหนือประสบปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายได้หารือถึงการรณรงค์การลดการเผาในภาคการเกษตร โดยเฉพาะการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร โดยในปี 2565 จังหวัดลำพูน นับว่าเป็นจังหวัดที่มีจำนวนจุดความร้อน (Hotspot) ในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบนน้อยที่สุด แต่ก็ได้รับผลกระทบอย่างมาก อนึ่ง บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด สาขาลำพูน เป็นหนึ่งในบริษัทที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตเกษตรกร และมีโครงการความร่วมมืออย่างรอบด้าน รวมถึงการลดการเผาในพื้นที่เกษตร ส่งผลให้ลดปัญหา PM2.5 ซึ่งสามารถนำโครงการเหล่านี้ ไปขยายผลโครงการเพื่อสังคมเหล่านี้ไปพื้นที่อื่น ๆ ในจังหวัดลำพูนได้
นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ในวันนี้ได้มีการรับฟังการบรรยายสรุปจากการเข้าเยี่ยมชมภายในโรงงานบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด จังหวัดลำพูน ที่ได้นำกลยุทธ์ PepsiCo Positive (pep +) มาปรับใช้เป็นแนวปฏิบัติในการทำงาน ประกอบไปด้วย 3 เสาหลัก ได้แก่
(1) การเกษตรเชิงบวก (positive agriculture)
(2) ห่วงโซ่คุณค่าเชิงบวก (positive value chain) และ
(3) ทางเลือกเชิงบวก (positive choices)
ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้นับว่าเป็นแนวคิดสำคัญในการผลักดันการดำเนินการเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของเกษตรกร โดยเฉพาะการส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรในจังหวัดลำพูนในการปลูกมันฝรั่งในพื้นที่อำเภอทุ่งหัวช้าง และอำเภอลี้ รวมถึงการบริหารจัดการขยะในชุมชนบ้านไร่ ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน ภายใต้โครงการ “Journey to Zero Waste” ซึ่งโครงการเหล่านี้เป็นหัวใจสำคัญในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าให้กับสังคมไปพร้อมกัน
“จังหวัดลำพูนจะได้เสริมสร้างพลังความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ภาคีเครือข่ายและทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ทางการทูตมาอย่างยาวนานถึง 190 ปี และจะได้ขยายความร่วมมือระหว่างกันให้มากขึ้นบนผลประโยชน์ร่วมกันให้เป็นรูปธรรมในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีระหว่างกัน และความร่วมมือระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน” ผวจ.ลำพูน กล่าวทิ้งท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
วันที่ 29 ส.ค. 2566