ใครจะโดนเชือด…เดี๋ยวก็รู้??

อะไรก็เกิดขึ้นได้…กับการแย่งชิง “กองทุนผลประโยชน์” ใน “ขุมทรัพย์แผ่นดิน” ที่ฝ่าย การเมือง กับฝ่าย ขุนศึก

ยังไม่อาจจะตกลงกัน ในบริบทที่สมประโยชน์ร่วม ของทั้ง 2 ฝ่าย

บอกไว้ก่อนหน้านี้แล้ว…สังคมการเมือง – ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร…

เปรียบเสมือน “โจร” ที่ร่วมกันวางแผนปล้นทรัพย์ แรกเริ่มอุดมการณ์เป็นหนึ่งเดียว ร่วมเป็นร่วมตายด้วยกัน

หลังจากปล้นได้ทรัพย์สินมากมาย…ต่างคนต่างอยากได้สมบัติชิ้นสำคัญมาครอบครองเป็นเจ้าของแต่ผู้เดียว

มันก็แตกกันเพราะ…ผลประโยชน์ไม่ลงตัว จึงเกิดวาทกรรมไปตรงกับการเมือง

คือ…ขบวนการต่อสู้ “แย่งชิงอำนาจ” เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ จึงเกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ใช้คำว่า

“ไม่มีสัจจะในหมู่โจร” ก็ได้ หรือจะใช้คำให้ทันสมัยกับเหตุการณ์ปัจจุบันที่ท่าน ส.ส. ในพรรคดัง

เขานำมาปลุกใจตัวเอง ด้วยความรู้สึกฮึกเหิมที่ว่า “ด้านไว้ก่อนพ่อสอนไว้” หรือ “ด้านได้อายอด”

ในทุกบริบทของการเมือง ที่กำลังต่อสู้ชิงอำนาจ…หาจุดลงตัวได้ไม่สวยงามนัก!!

หลังจากบ้านแตกแยกกันเดิน…ระหว่างเพื่อไทย – ก้าวไกล

นายกฯ คนที่พรรคเพื่อไทย วางตัวให้ “เศรษฐา” เป็นนายกฯ คนที่ 30 ทำท่าว่าจะล้มเหลว

มี “ก้างขวางคอ” เต็มไปหมด!!

ทุกฝ่ายกำลังมองเห็นภาพกว้างออกไป…จุดเป็นจุดตายทางการเมือง ต่อจากนี้ไป ฝ่ายไหนจะได้อำนาจจัดตั้งรัฐบาล ที่มีตัวตนชัดเจนแท้จริง

ไม่ชัดเจน..เพราะเหตุใดใครจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ได้กระทรวงไหนมาครอง

วิ่งชนกันว่อน…

ถึงขั้น…ผู้มีอำนาจแฝง กำลังมีตัวเลือกสุดท้ายให้, ต้อนเข้าคอกไปรวมกัน อย่าแตกแถวไปไหน??

รวมตัวกันไว้หนุนให้เป็นหนึ่งเดียว…กับฝ่ายอำนาจเก่า

เอาหรือไม่เอา…ก็ต้องเอา!! ชอบหรือไม่ชอบ…ก็ต้องชอบ

คงไม่ต้องเสียเวลารอนายนั่งเครื่องบินส่วนตัวมาติดคุก วันที่ 10 เนื่องจากแผนรั่ว กลัวจะกลับมา “เป็นตัวประกัน”

เป็นหุ่นเชิดฝ่ายอำนาจ!! ได้ไม่คุ้มเสีย…ชัวร์

ส่วนนักการเมือง…ที่ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร, ไม่มีสัจจะในหมู่โจร แตกกระเจิงกันไปหมดแล้ว

รอแต่ว่า…มีพรรคไหน – ใครจะโดนล้มกระดาน เดี๋ยวก็รู้??

สุคนธ์  ชัยอารีย์