กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ แจ้งสิทธิและรับคำขอกรณีน้องปีใหม่ เด็กหญิงวัย 12 ปี ถูกผู้ต้องหาตีด้วยไม้เบสบอลจนเสียชีวิต ก่อนนำศพยัดถังน้ำแข็งโบกปูนอำพราง หนีความผิด

สืบเนื่องจาก จากกรณีข่าวพ่อเลี้ยงหนุ่มโหดฆ่าสยองลูกเลี้ยงเด็กหญิงวัย 12 ปี (น้องปีใหม่) โดยใช้ไม้เบสบอลฟาดก่อนนำศพยัดถังน้ำแข็งโบกปูนอำพราง แต่สำนึกผิดหลังก่อเหตุขับรถไปกับเมียสารภาพกับญาติ พลั้งมือฆ่าเพราะโมโหที่ลูกเลี้ยงแอบกินอาหารเสริมราคาแพงที่กำลังจะแพ็กส่งให้ลูกค้า จากนั้นได้หลบหนีและถูกจับได้ในเวลาต่อมา ตามที่เป็นข่าว นั้น

วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม 2566) ณ อาคารกระทรวงยุติธรรม นายธีรยุทธ แก้วสิงห์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ และในฐานะโฆษกกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องปีใหม่ด้วย และผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ได้มีข้อสั่งการให้ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เร่งให้การเยียวยาอย่างรวดเร็ว และเป็นกรณีสะเทือนขวัญด้วย ซึ่งทายาทของผู้เสียชีวิต ได้ติดต่อยื่นคำขอรับการเยียวยาแล้ว โดยการประสานงานจาก ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ณ ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข กระทรวงยุติธรรม โดยมี นายปริญญ์วัฒน์ เปี่ยมปิ่นวงศ์ หัวหน้าศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข และนายปฐมพร โรจน์เรืองแสง หัวหน้ากลุ่มงานช่วยเหลือและเยียวยา กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ร่วมรับเรื่อง

โฆษกกรมฯ กล่าวอีกว่า ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนแก่จำเลยในคดีอาญาพ.ศ.2544 (และแก้ไข เพิ่มเติม พ.ศ. 2559) ผู้เสียหายที่มีสิทธิได้รับการเยียวยา ต้องไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดนั้น เช่น ไม่เป็นผู้ท้าทายชวนทะเลาะวิวาทหรือร่วมก่อเหตุทำร้ายกัน ซึ่งการเยียวยามีทั้งกรณีผู้เสียหายที่เสียชีวิต กับผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บที่ต้องรับการรักษาพยาบาล สามารถยื่นเรื่องเพื่อขอรับการเยียวยาได้ โดยกรณีของน้องปีใหม่ที่ตกเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาที่เสียชีวิต ทายาทมีสิทธิได้รับการเยียวยา ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนฯ ได้แก่ (1) ค่าตอบแทนกรณีผู้เสียหายถึงแก่ความตาย 50,000 บาท (2) ค่าจัดการศพ 20,000 บาท (3) ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู ไม่เกิน 40,000 บาท รวมเป็นเงิน 110,000 บาท โดยขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ กรุงเทพมหานครเป็นสำคัญ

และขอเรียนว่า ทั้งกรณีที่เป็นข่าวและที่ไม่เป็นข่าวในสื่อต่างๆ กระทรวงยุติธรรม และกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มีความมุ่งมั่นในการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่และอย่างเสมอภาค โดยได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และจะเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เสียหาย หรือทายาทอย่างเร่งด่วนต่อไป และหากประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือ กรณีตกเป็นเหยื่อหรือผู้เสียหายในคดีอาญา เพื่ออำนวยความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม ให้เกิดขึ้นกับสังคมไทย สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ ส่วนกลาง (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) และ ส่วนภูมิภาค (สำนักงานยุติธรรมจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ) หรือติดต่อที่ สายด่วนยุติธรรม โทร. 1111 กด 77 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง

***ขอขอบคุณภาพประกอบข่าวจาก PPTVHD36 และ Kapook Hilight

///////////////////////////////////////////