คอลัมนิสต์

“ประชาธิปไตย” กับ “เงิน” อะไรใหญ่กว่ากัน??


12 พฤษภาคม 2023, 21:40 น.

 

“ประชาธิปไตย” กับ “เงิน” อะไรใหญ่กว่ากัน??

 

ภาพจาก : ประชาชาติธุรกิจ

 

ศึกสงครามเลือกตั้งวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 ครั้งนี้จะมีความร้อนแรงยิ่งกว่าคลื่นความร้อนที่แผ่มาแผดเผาทั่วประเทศไทย

 

เพราะวันเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งฝ่าความบ้าคลั่งของความร้อนออกไปใช้สิทธิกันแน่นขนัด

 

ส่งผลให้ “ประชาธิปไตย” ยิ้มแย้มได้หน้าไปด้วย!!

 

เนื่องจากมีผู้ที่ลงทะเบียนไว้แล้วแห่ไปใช้สิทธิมากถึง 91.37 %!!

 

มีการคาดหวังกันว่าวันเลือกตั้งจะมีผู้มาใช้สิทธิทะลุ 80 % ขึ้นไปให้ประวัติศาสตร์การเลือกตั้งต้องบันทึกไว้!!

 

จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่วันที่ 14 นี้รู้แน่!!

 

ที่รู้แน่ ๆ ก็คือ พรรคขั้วค้านเดิมจะแลนด์สไลด์จริงหรือโม้!!

 

หรือพรรคซีกรัฐบาลเดิมจะแซงโค้งฉีกหน้าทุกโพลหรือไม่??

 

ไม่ว่าขั้วไหนรวมกันแล้วได้ ส.ส. เกินครึ่งจากจำนวน 500 คน ย่อมมีสิทธิเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลตามกฎกติกามารยาทประชาธิปไตย

 

แต่ถ้าทั้ง 2 ขั้วกวาด ส.ส. ไม่ถึงครึ่งของจำนวน ส.ส. ทั้งหมด มี ส.ส. กำกึ่งกัน ก็ต้องมีการใช้วิชาสารพัด ทั้งวิชามาร วิชางู วิชากล้วยเปิดดีลเจรจาลับ ๆ ล่อ ๆ จับมือร่วมกันเป็นรัฐบาลให้สมความปรารถนา!!

 

ช่วงระยะเวลานี้แหละ ที่นักการเมือง พรรคการเมืองแย่งกันเป็นใหญ่กว่าประชาชนตาดำ ๆ

 

เพราะต้องการความใหญ่เข้ามาบริหารชาติบ้านเมืองให้โดนใจตัวเอง??

 

ไม่ว่าขั้วไหนแย่งชิงเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากได้สำเร็จ หน้าตาคณะรัฐบาลต้องดูแล้วดี สร้างความรู้สึกดี ๆ ให้แก่ประชาชน

 

เมื่อหน้าตาดี หล่อ สวย เท่ ซะอย่าง ภาพลักษณ์ของรัฐบาลก็มีชัยไปกว่าครึ่ง

 

แต่ถ้ามีหน้าตาอัปลักษณ์เข้าผสมปนเปด้วย ทำให้ปราชัยไปกว่าครึ่งอย่างช่วยไม่ได้!!

 

เลือกตั้งครั้งใหญ่ปี 66 นี้ เรา ๆ ท่าน ๆ ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองแน่นอน ไม่ว่าขั้วข้างใดมีโอกาสได้เป็นรัฐบาล

 

ภาพจาก : เดลินิวส์

ประชาชนก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงมาถึงตัวเอง โดยเฉพาะ “เงิน” ที่จะได้รับเพิ่มเต็มกระเป๋าตามนโยบายหาเสียงของทุกพรรคการเมือง

 

เพราะตั้งแต่แรกเกิดจนถึงผู้สูงวัยทุกช่วงอายุจนถึงวายชีวาวาตม์จะได้ “เงิน” มากกว่าเดิม!!

 

นอกจากนี้ “เงิน” แทรกเข้ามาใหญ่ระหว่างช่วงโค้งสุดท้ายการหาเสียงเลือกตั้งอย่างลับ ๆ ล่อ ๆ

 

การร้องเรียนใช้ “เงิน” ซื้อสิทธิขายเสียงของแต่ละพรรคการเมือง และผู้สมัคร ส.ส. ทุกขั้วที่ร้องไปถึง กกต. จึงอีรุงตุงนังมั่วกันสนุก!!

 

ด้วยเหตุฉะนี้ “เงิน” จึงใหญ่กว่า “ประชาธิปไตย” ด้วยความเป็นจริงทางการเมืองที่มิอาจปฏิเสธได้!?!

 

ภาพจาก : Matichon

 

ดังนั้นทุกรัฐบาลที่เข้ามาบริหารชาติบ้านเมืองตามกติกาประชาธิปไตยต้องทำใจ “ใหญ่” คิดค้นหานโยบายแจก “เงิน” ให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมสุด ๆ เกทับบลัฟแหลกกันไปเลย!!

 

ถูกต้องที่สุดที่กูรู้ด้านการปกครองของโลกที่ได้กล่าวเป็นอมตะเอาไว้ว่า “ประชาธิปไตย” คือการปกครองที่เลวน้อยที่สุด!!

 

“เงิน” กับ “ประชาธิปไตย” จึงตัดกันไม่ขาดต้องไปด้วยกัน??

 

เอวัง ด้วยประการฉะนี้แล สาธุชนทั้งหลาย!!

 

นายจักรยาน

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดคอลัมนิสต์

เรื่องล่าสุด