สืบสวนนครบาลรวบหนุ่มศรีมหาโพธิ หลอกขายหน้ากากอนามัย สกิลโกงไร้เทียมทาน
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี PCT ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริต
โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้ออกลาดตระเวนออนไลน์จนเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ถูกคนร้ายในนามนายหนุ่มศรีมหาโพธิตัวการใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชีต่างๆ อาทิชื่อบัญชี “Joyamity Zaza”, ชื่อบัญชี “Freedom”, ชื่อบัญชี “Freedom Hut”, ชื่อบัญชี “Farmhot Freedom”, ชื่อบัญชี “สวีทเอเดนท์ เฮ้าท์”, ชื่อบัญชี “วรานนท์ ซัพพลาย” เข้าไปโพสต์หลอกขายสินค้าหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น หน้ากากอนามัย, หนังสือพระ, เหรียญพระเครื่อง, ตู้สแตนเลสใส่น้ำแข็ง, เก้าอี้บาร์, สเตชั่นวางเครื่องดื่ม, ถาดคอนโด, ตู้อุ่นร้อน, ถังน้ำแข็งสแตนเลสมือสอง, ชุดโต๊ะ, สเก็ตบอร์ด ในกลุ่มสินค้ามือสองต่าง ๆ ซึ่งจากการตรวจสอบในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่าปัจจุบันนายหนุ่มศรีมหาโพธิมีหมายจับอยู่ 4 หมาย อีกทั้งยังคงก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง มีผู้เสียหายหลงเชื่อเดือนละกว่า 40 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 8 ล้านบาท สืบนครบาลเร่งสืบสวนจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพื่อตัดวงจรการกระทำความผิด
ต่อมาวันที่ 27 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 18.50 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. หัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง, พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น., พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์, พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว
นายธวัชชัย สุวรรณพิทักษ์ หรือหนุ่ม อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 35 หมู่ 1 ตำบลศรีมหาโพธิ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดน่าน (สาขาปัว) ที่ จ 17/2566 ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งฯ”
โดยสามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 199 ภายในหมู่บ้านเพิ่มทรัพย์กรีนวิล หมู่ 13 ตำบล หนองโพรง อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี หลังผู้ต้องหาได้หลบหนีการประกันตัวไปกบดานและก่อเหตุอย่างต่อเนื่องอยู่ที่บ้านเพื่อนสนิท
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าตนเรียนจนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เดิมทีประกอบอาชีพเป็นลูกจ้างเฉพาะกิจของ อบต. แห่งหนึ่งในพื้นที่ เงินเดือนไม่พอใช้เนื่องจากติดเล่นพนันออนไลน์ เมื่อช่วงประมาณปี 2563 ได้เริ่มก่อเหตุครั้งแรกด้วยการร่วมกับเพื่อนสนิทซึ่งปัจจุบันเพื่อนคนดังกล่าวถูกดำเนินคดีอยู่ในเรือนจำ ร่วมกันสร้างเฟซบุ๊กชื่อบัญชี “Joyamity Zaza”, ชื่อบัญชี “Freedom”, ชื่อบัญชี “Freedom Hut”, ชื่อบัญชี “Farmhot Freedom” เข้าไปโพสต์หลอกขายหน้ากากอนามัย ในกลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ ต่อมาเมื่อเพื่อนถูกจับกุมจึงหันมาก่อเหตุเองโดยโพสต์หลอกขายสินค้าที่หลอกหลายกว่าเดิมไม่ว่าจะเป็น หนังสือพระ, เหรียญพระเครื่อง, ตู้สแตนเลสใส่น้ำแข็ง, เก้าอี้บาร์, สเตชั่นวางเครื่องดื่ม, ถาดคอนโด, ตู้อุ่นร้อน, ถังน้ำแข็งสแตนเลสมือสอง, ชุดโต๊ะฯลฯ ในกลุ่มเฟซบุ๊กต่าง ๆ เช่น กลุ่ม “ซื้อขายเครื่องกาแฟ เซ้งเครื่องกาแฟ”, กลุ่ม “ซื้อ-ขาย เครื่องชงกาแฟ อุปกรณ์ร้านกาแฟโปรโมทร้านกาแฟ ฯลฯ”, กลุ่ม “เซ้งร้าน เชียงใหม่”, กลุ่ม “จานชาม ของใช้ ญี่ปุ่น มือ 1-2”, กลุ่ม “อุปกรณ์เครื่องครัว สแตนเลส (ซิ้งค์ เตา ฮูด โต๊ะ ชั้นวางของ รถเข็น)”, กลุ่ม “หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก วัดตะโก จ.อยุธยา”, กลุ่ม “หลวงปู่หมุน วัดป่าหนองหล่ม สระแก้ว”, กลุ่ม “ร้านเฟอร์นิเจอร์ loft เหล็กและไม้” ฯลฯ และกลุ่มอื่น ๆ อีกกว่า 400 กลุ่ม
ล่าสุด เมื่อต้นเดือนมกราคม 2566 ถูกจับกุม ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” ท้องที่ สน.บางนา ก่อนได้รับการประกันตัว แล้วหลบหนีระหว่างประกันตัว และยังคงก่อเหตุอย่างต่อเนื่องโดยให้เหตุผลว่าไม่รู้จะไปประกอบอาชีพสุจริตใด ปัจจุบันใช้เฟซบุ๊กในการก่อเหตุชื่อบัญชี “สวีทเอเดนท์ เฮ้าท์” และ ชื่อบัญชี “วรานนท์ ซัพพลาย” โดยใช้คิวอาร์โค้ทซึ่งผูกกับบัญชีเป๋าตังเปย์ชื่อบัญชี ธวัชชัย สุวรรณพิทักษ์ ในการรองรับเงินที่หลอกได้จากผู้เสียหาย
ที่ผ่านมาก่อเหตุมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 มีผู้เสียหายหลงเชื่อเดือนละกว่า 40 ราย ความเสียหายต่อผู้เสียหาย 1 ราย ประมาณ 1,300 บาท ถึง 15,000 บาท มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 8,000,000 บาท เงินที่ได้มาจากการก่อเหตุส่วนใหญ่หมดไปกับการนำไปเล่นพนันออนไลน์ ใช้จ่ายในครอบครัว
จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบข้อมูลประวัติคดี จำนวน 10 คดี ประกอบด้วย
(1) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 183/2563 ลงวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน” ท้องที่ สภ.ป่าตอง ภ.จ.ภูเก็ต/สถานะหลบหนี
(2) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ. 663/2564 ลงวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ.2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนอันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท” ท้องที่ สภ.สันทราย ภ.จ.เชียงใหม่ /สถานะหลบหนี
(3) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสงคราม ที่ จ 87/2565 ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ท้องที่ สภ.เมืองสมุทรสงคราม /สถานะหลบหนี
(4) ปี 2563 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ท้องที่ สน.บางนา สถานะควบคุมตัว/ถอนประกาศสืบจับ
(5) ปี 2563 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นผู้อื่น นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” ท้องที่ สภ.เมืองขอนแก่น สถานะควบคุมตัว/ถอนประกาศสืบจับ
(6) ปี 2565 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการในข้อหาฉ้อโกง ตัวการในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมฯ” ท้องที่ สน.โคกคราม/สถานะอยู่ระหว่างดำเนินคดี
(7) ปี 2565 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการในข้อหาฉ้อโกงประชาชน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” ท้องที่ สน.ท่าข้าม/สถานะอยู่ระหว่างรอออกหมายจับ
(8) ปี 2565 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ ตัวการในข้อหาฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นผู้อื่นฯ” ท้องที่ สภ.หนองเรือ/สถานะอยู่ระหว่างรอออกหมายจับ
(9) ปี 2565 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” ท้องที่ สภ.ช้างเผือก/สถานะอยู่ระหว่างรอออกหมายจับ
(10) ปี 2566 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการในข้อหาฉ้อโกง, ตัวการในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์” ท้องที่ สภ.ปัว/สถานะหลบหนี
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปัว ภ.จ.น่าน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและประสานให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบในส่วนของหมายจับที่ยังต้องการตัวเพื่อดำเนินคดีให้รีบอายัดตัวผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวไปดำเนินคดีตามกฎหมายให้ครบถ้วนต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. หัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT 5 กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกง สามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน