“สมศักดิ์” ล่องใต้ชาวเมืองคอนกว่า 2,100 คน ต้อนรับอบอุ่น แห่ขอเซลฟี่ตลอดงาน ยันประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่ยึดทรัพย์ได้จริง พร้อมลุยเดินหน้ากวาดล้างยานรกต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2566 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เปิดโครงการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด รองรับประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยมี นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. นายอารยัน พรหมแก้ว ประธานเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน จ.นครศรีธรรมราช หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ สมาชิกกองทุนแม่ และชาวบ้าน 2,100 คน ร่วมงาน
นายอภินันท์ กล่าวรายงานว่า จ.นครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดใหญ่ที่มีประชากร 1.5 ล้านกว่าคน และมีปัญหายาเสพติดอยู่พอสมควร แต่ที่ผ่านมาหลังตนมารับตำแหน่ง เมื่อเดือน ต.ค. 2565 เราได้เอาจริงเอาจังกับการปราบปรามยาเสพติด โดยจับกุมผู้ค้า 3,500 ราย พร้อมยึดยาเสพติดได้จำนวนมาก ถือว่ามีสถิติการปราบปรามจับกุมมากที่สุดในภาคใต้ นำไปสู่การขยายผลยึดทรัพย์ และยังมีการฟื้นฟูผู้เสพยา โดยปีนี้ดำเนินการไปแล้ว 231 คน และได้ตรวจหาสารเสพติดเจ้าหน้าที่รัฐในจังหวัดแล้ว 17,000 คน รวมถึงมีการอบรมอาสมสมัครหมู่บ้านละ 15 คน ฝึกหลักสูตร เพื่อสร้างความเข้มแข็งหมู่บ้าน ซึ่งในอนาคตจะสร้างความยั่งยืนได้
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนต้องขอชื่นชมความเอาจริงเอาจังของ จ.นครศรีธรรมราช ตรงนี้จะเป็นข้อมูลพื้นฐานในการขยายผล โดยตนเป็นคน จ.สุโขทัย ได้รู้จัก จ.นครศรีธรรมราช จากหลักศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหง ซึ่งได้ชื่นชมคนจากนครศรีธรรมราช ที่มาเป็นอาจารย์อยู่ที่สุโขทัยว่ามีความฉลาดมาก วันนี้ตนได้เดินทางมาที่นี่เพื่อตอบแทนแทนบรรพบุรุษในอดีต ซึ่งนครศรีธรรมราชเป็นเมืองพุทธศาสนา เราต้องคิดว่าทำยังไงให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเพื่อเพิ่มรายได้ โดยเราต้องทำกฎหมายที่บูรณาการหลายหน่วยงานทำงานร่วมกัน ตามกฎหมายปฏิรูปประเทศ อย่างเช่น พืชกระท่อม ที่ผ่านมาไม่มีใครกล้าแก้ไขกฎหมาย แต่ตนปลดล็อกทำให้ถูกกฎหมายแล้ว โดยกระท่อมปลูก 1 ไร่ ได้ใบ 4,000 กิโลกรัม ซึ่งตอนนี้กิโลกรัมละ 100 บาท ก็จะขายได้ 400,000 บาท ซึ่งขณะนี้มีต่างชาติเริ่มเข้ามาประสานขอส่งออก แต่ค่ามาตรฐานกลางกระท่อม เป็นหน้าที่ของ อย. โดย ป.ป.ส. กำลังทดลองวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยหลายแห่ง คาดว่าภายใน 6 เดือนจะเสร็จ
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องยาเสพติด ประมวลกฎหมายใหม่เพิ่มการยึดทรัพย์ตัดวงจรเครือข่ายยาเสพติด ซึ่งจะทำให้ยาเสพติดหมดไปจากประเทศไทยได้ เพราะให้รางวัลนำจับกับผู้แจ้งเบาะแส 5% ส่วนเจ้าหน้าที่ทั้งกระบวนการทำคดีจะได้ 25% ของทรัพย์ที่ยึดได้แต่เรื่องนี้ยังทำกันไม่ค่อยเป็นจึงต้องเร่งอบรมให้ความรู้ ซึ่งในกฎหมายสามารถยึดทรัพย์ย้อนหลังได้ 10 ปี ตามเวลาและมูลค่าที่ค้ายามา ซึ่งในอดีตคนแจ้งเบาะแสกลัวอันตราย ถูกทำร้าย ซึ่งจากสถิติการแจ้งทางสายด่วน 1386 มี 16,000 สายเท่านั้น ซึ่งประเทศไทยมีถึง 80,000 กว่าหมู่บ้าน เราจึงทำระบบ Blockchain ซึ่งเราทดลองใช้ไปแล้ว เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2566 จะสร้างความปลอดภัยและช่วยให้คนกล้าแจ้งเบาะแสมากขึ้น และตนไม่กลัวว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะทุจริต เพราะเรามีเงินรางวัลมหาศาล หากทุกคนเข้าใจกฎหมายอย่างถ่องแท้ รวมถึงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพ ไม่ให้คนที่พ้นโทษ กลับไปค้ายาอีก ถือเป็นอีกการแก้ปัญหาของอีกต้นเหตุหนึ่ง โดยจะสร้าง 5 แห่ง 5 ภาค รองรับแรงงานถึง 100,000 คน และประหยัดงบประมาณรัฐได้ 40,000 ล้านบาท
จากนั้นนายสมศักดิ์ ได้มอบต้นพันธุ์กระท่อมให้กับตัวแทนชาวบ้าน และเดินทักทายประชาชนภายในงาน โดยมีคนขอถ่ายรูปเซลฟี่ด้วยจำนวนมาก ตั้งแต่หน้าเวทีจนถึงทางออก โดยนายสมศักดิ์ได้ถ่ายรูปและพูดคุยกับชาวบ้านอย่างเป็นกันเองตลอดทาง ซึ่งชาวบ้านต่างชื่นชมการทำงานและนโยบายต่างๆที่ได้ทำมา
/////////