“นายก ฯ” ห่วงใยชาวนา สั่งพีระพันธ์ฯ ดูแลใกล้ชิด !!
ตัวแทนกลุ่มชาวนา 470 ครอบครัวเข้าพบผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี ติดตามค่าจำนำข้าว ปี 2548-2549
วันศุกร์ที่ 10 ก.พ. 2566 เวลา 15:00 น. นายมุนินทร์ จันทรา พร้อมด้วย ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานการเข้าพบตามคำสั่ง นายพีระพันธ์ สารีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เข้าพบ นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ตำแหน่ง ผอ.สำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายยุทธนา สาโยชนกร รอง ผอ.สำนักงบประมาณ ที่กระทรวงการคลัง กรณีชาวนา 470 ครอบครัว ไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าวกว่า 58 ล้านบาท จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกเพื่อเกษตรกรปีการผลิต 2548/ 2549 ในสมัยรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร
จากกรณีที่ นายมุนินทร์ จันทรา ได้พาชาวนา 470 ครอบครัว ยื่นหลักฐานชาวนาที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกกับนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อครั้งไปลงพื้นที่ในจังหวัดพิจิตร เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา หลังจากตรวจสอบหลักฐานจึงสั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมุนินทร์ จันทรา ได้เข้าพบ นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผอ.สำนักงบประมาณ เพื่อหารือเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น
ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ กล่าวว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปตรวจเยี่ยม เกษตรกรชาวจังหวัดพิจิตร และนครสวรรค์ที่ผ่านมา ซึ่งมีชาวนาจังหวัดพิจิตรไม่ได้รับเงินตอบแทนกรณีจำนำข้าว ได้มีการนำเรื่องมาร้องเรียนนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2566 ระหว่างตรวจราชการในพื้นที่ หลังนายกรัฐมนตรีได้ทราบเรื่องจึงได้สั่งการให้นายพีระพันธ์ สารีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้รับเรื่องนี้ พบว่าชาวนาได้รับความเดือดร้อนจริง จึงประสานได้ประสานให้ตัวแทนกลุ่มชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนพบกับ นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผอ.สำนักงบประมาณ เพื่อหารือแนวทางดำเนินการแก้ไขในเรื่องนี้
นายเฉลิมพล ฯ กล่าวว่า ทางสำนักงบประมาณ เป็นหน่วยงานที่ต้องดูช่วยเหลือการจ่ายเงิน ได้ทำการหารือเพื่อหาข้อสรุปว่าเรื่องที่ผ่านมีที่มาเป็นอย่างไร มีหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ต้องมีการร่วมหารือกันทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อสรุป และหาทางออกให้กลุ่มชาวนาที่ได้รับผลกระทบให้ได้รับสิ่งที่ได้ดำเนินการไว้เป็นไปตามระเบียบโดยเร็ว
ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ กล่าวต่ออีกว่า ทางสำนักงบประมาณตามแนวทางที่ ผอ.สำนักงบประมาณได้วางแนวทางไว้ โดยนำเรื่องไปที่เลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรีได้รับทราบ เพื่อเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือแนวทางแก้ไข เพื่อให้ได้รับเงินต่อไป
///////////////////