กรมพัฒน์ฯ ลั่น…ไม่ปล่อยไว้แจ้งดำเนินคดีโจรไซเบอร์ทุกรายสวมรอยเจ้าหน้าที่หลอกธุรกิจต่างชาติอัพเดทข้อมูล
ศุกร์ที่ 27 มกราคม 2566 เวลา 11.40 น. โจรไซเบอร์สวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่หลอกธุรกิจต่างชาติอัพเดทข้อมูล ตั้งคณะทำงานจับตาความเคลื่อนไหว ลั่น…ไม่ปล่อยไว้แจ้งดำเนินคดีทุกราย
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ออกโรงเตือนประชาชนและธุรกิจระวังโจรไซเบอร์อีกครั้ง รอบนี้ขยายไปถึงนิติบุคคลต่างชาติก็โดนด้วยส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจในประเทศ ตั้งคณะทำงานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมกรมพัฒนาธุรกิจการค้าคอยจับตาโจรไซเบอร์ พร้อมหนุนผู้เสียหายดำเนินคดีร่วมกันที่เอาชื่อเสียงกรมฯ ไปหากินแบบผิด ๆ ยืนยันจะดำเนินคดีทุกรายไม่มีเว้น และส่งเรื่องให้ ปอท. ช่วยกำจัดโจรให้สิ้น ย้ำวิธีระวังตนเอง 4 คาถายังต้องทำต่อไป เช็ค URLให้ดี ไม่กดลิ้งค์ที่ไม่รู้จัก ไม่เชื่อคำเชิญชวน และไม่เปิดเผยข้อมูล
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “ที่ผ่านมากรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนและผู้เสียหายว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมฯ ขอให้อัพเดทข้อมูลนิติบุคคล โดยใช้กลอุบายให้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชันไลน์ที่เป็นบัญชีปลอมเพื่อกรอกข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ บัตรประชาชน อีเมล วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ และข้อมูลบัตรเครดิต เป็นต้น จากนั้นมิจฉาชีพจะเข้าระบบดูดเงินจากในบัญชีธนาคารของผู้เสียหายออกไป ซึ่งกรมฯ ได้ประกาศแจ้งเตือนอยู่เป็นระยะรวมถึงวิธีการป้องกันตัวเองเพื่อให้นิติบุคคลและประชาชนระมัดระวังตัว ไม่หลงเชื่อ และกรมฯ ไม่มีนโยบายที่จะติดต่อหรือทักหาประชาชนไปก่อน หรือให้อัพเดทข้อมูลผ่านระบบไลน์
อธิบดี กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีประชาชนผู้ประสบเหตุและผู้เสียหายได้ติดต่อมายังกรมฯ จำนวนเพิ่มขึ้นผ่านทางสายด่วน 1570 อีเมล และช่องทาง Social Media ของกรมฯ เพื่อแจ้งถึงกรณีดังกล่าว มากไปกว่านั้นยังขยายความเดือดร้อนไปถึงนิติบุคคลต่างประเทศที่จดทะเบียนในประเทศไทย ซึ่งใช้กลอุบายหลอกลวงแบบเดียวกันแต่เป็นรูปแบบภาษาอังกฤษ ซึ่งการกระทำนี้สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศเป็นอย่างมาก และอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนของนักธุรกิจต่างชาติได้
กรมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใดและได้ดำเนินการในเชิงรุก พร้อมแต่งตั้ง ‘คณะทำงานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมกรมพัฒนาธุรกิจการค้า’ ขึ้น เพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการหลอกลวงนี้ โดยได้รับแจ้งเรื่องประกอบกับให้ส่งหลักฐานที่มีสำหรับนำไปแจ้งตำรวจเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกับมิจฉาชีพทุกรายที่นำชื่อและตราสัญลักษณ์ของกรมฯ ที่เป็นหน่วยงานราชการไปหลอกประชาชน และขอแนะนำให้ผู้เสียหายควรไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจะได้สกัดกั้นการกระทำลักษณะนี้ไม่ให้ขยายวงกว้าง รวมไปถึงกรมฯ ยังได้ส่งต่อหลักฐานให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับในภาคประชาชนและธุรกิจกรมฯ ขอย้ำเตือนว่าการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลในยุคนี้ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง มิเช่นนั้นจะตกเป็นเหยื่อของโจรไซเบอร์โดยไม่รู้ตัว และการป้องกันตัวใน 4 รูปแบบยังคงมีความสำคัญ คือ) ก่อนเข้าเว็บไซต์ต้องเช็คตัวสะกดของ URL ให้ดี 2) ไม่กดลิ้งค์/SMS/โหลดแอปพลิชันที่ไม่รู้จักหรือได้รับแชร์ 3) ไม่หลงเชื่อคำเชิญชวน และ 4) ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หากมีข้อสงสัยและศึกษาข้อมูลอื่น ๆ ติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วน 1570 เว็บไซต์ http://www.dbd.go.th และ FB: DBD Public Relations” อธิบดี กล่าวทิ้งท้าย”
Cybercriminals Falsely Claimed To Be an Officer of the DBD and Requested a Victim To Update Corporate Information.
A Working Group of Anti-Fake News Was Established.
All Cases Will Be Reported Without Exception.
The Department of Business Development is warning the public and businesses, particularly foreign juristic persons, to be cautious of cyber criminals who are posing as officials to trick businesses into updating their information. A working group has been established to monitor these activities and any cases of prosecution will be pursued without exception. The DBD is also working with the Technology Crime Suppression Division (TCSD) to support victims. The department advises to be cautious by checking URLs carefully, not clicking on unknown link, not believing unsolicited invitations, and not disclosing personal information.
Thosapon Dansuputra, Director-General of the Department of Business Development, Ministry of Commerce revealed that “In the past, the Department of Business Development has received complaints from the public and victims that a group of criminals falsely claimed to be an officer of the Department. Cybercriminals request a victim to update corporate information by using a trick to download a fake online application to fill out personal information such as ID card, email address, date of birth, address, and credit card information. They then gain access to a victim’s personal account and steal money from their bank account. DBD has periodically announced warnings, including methods for self-protection, so that juristic persons and the public should be careful not to be misled, and the department does not have a policy to approach first or to update information through the online system.
Director-General continued, “Currently, those involved in the incident and the victims have reported their cases to the Department through various channels such as the hotline 1570, email, and social media. Furthermore, foreign companies registered in Thailand have also been affected by the similar deceitful tactics in English language, causing harm to the country’s reputation and potentially diminishing the confidence of foreign investors.”
“The Department of Business Development (DBD) is taking proactive measures to address the scam and has established the ‘Working Group of Anti-Fake News Center’ to assist those affected. It is important for individuals who have been affected to come forward with any information or evidence – such as the misuse of the DBD’s symbols, and report the incident to the police to prevent further occurrences. The DBD has also reported the case to the Technology Crime Suppression Division (TCSD) and will continue to take action in relevant areas.”
The Director-General concluded “The public and business sectors that sharing personal information must be done with extreme caution to avoid becoming a victim of cybercrime. Four keys of self-protection include
(1) checking the URL spelling before entering a website,
(2) not clicking on unknown links, SMSs, or downloading unknown applications,
(3) not believing unsolicited invitations,
(4) and not revealing personal information. If unsure, contact the hotline at 1570 or visit the website www.dbd.go.th and the DBD Public Relations Facebook page for more information.”
