ที่ดินทหาร ในเมืองหลวง
กรุงเทพมหานครวันนี้ ใหญ่โตเกินตัว จนไม่มีที่ว่าง ให้พัฒนาขยายเมือง อีกต่อไป แถมเป็นเมืองแห่งการจราจรติดขัด เมืองแห่งมลภาวะ เป็นศูนย์รวมของกิจกรรมทุกประเภท ฯลฯ
ที่สำคัญกรุงเทพฯ ไม่เหมาะสำหรับการเป็นเมืองทหาร อีกต่อไป
โดยลึก ๆ แล้ว ที่ดินในพื้นที่กรุงเทพฯ ล้วนเป็นที่ตั้งของหน่วยงานงานราชการ โดยเฉพาะ “ที่ดินทหาร” ที่มีเกือบทุกซอกซอยเมืองหลวง !
เมื่อประชากรมากขึ้น กลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจ การแก้ปัญหาแออัด ของชาวกรุงเทพฯ ถูกหยิบยกมาพูดนับครั้งไม่ถ้วน ปัจจัยที่ตอกยํ้าคือ “ต้องย้ายหน่วยทหารออกนอกเมือง” !
นักวิชาการหลายคนระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่ทำให้กรุงเทพฯ เป็นเขตปลอดทหาร ยุบกองกำลังรักษาพระนคร ย้ายอาวุธ ย้ายคลังแสง ที่ยังหลงเหลืออยู่ และหน่วยรบ ออกไปอยู่นอกเมือง
โดยกรุงเทพฯ ควรมีหน่วยรักษาความปลอดภัยของรัฐบาล ไม่ขึ้นกับกองทัพ !
ตำนานย้ายหน่วยทหาร ออกนอกเมือง ถูกจุดประกายขึ้น ในยุค พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นผู้บัญชาการทหารบก เมื่อปี 2529-2532
กระแสผลักดันให้เอกชนเช่าที่ดิน จัดผลประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ถูกส่งผ่าน เป็นทอด ๆ แนวคิดย้ายทหารออกนอกเมือง ปรากฏขึ้นมานานแล้ว !
แต่เมื่อหมดยุค “บิ๊กจิ๋ว” แนวคิดดังกล่าว ได้หายไป !!
พล.อ.ชวลิต เคยพูดหลายปีก่อนว่า ที่ดินทหาร ในเมืองหลวง สามารถ นำมาใช้ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจ ได้อย่างมาก เพราะที่ดิน เป็นปัจจัย การลงทุนที่สำคัญ
ที่ดินทหาร ยังมีอีกมากมายมหาศาล หากกองทัพบก ย้ายไปอยู่แห่งใหม่ จะส่งผลให้สภาพแวดล้อม ในการดำรงชีพ ค่าครองชีพ ปัญหาการจราจร และปัญหาอื่น ๆ ลดลงได้มาก
จากการสำรวจที่ดิน ที่ตั้งหน่วยทหาร ในกรุงเทพฯ มีพื้นที่กว่า 14,362.53 ไร่ทั่วกรุง ทั้งกองบัญชาการทหารสูงสุด, การทหารสื่อสาร, กรมสรรพาวุธ, กองทัพภาคที่ 1 กองพลทหารม้าที่ 2 กองพลทหารเสนารักษ์
ไม่นับที่ตั้งของกองทัพอากาศ กองทัพเรือ และกองทัพบก !
กระแสย้ายทหารออกนอกเมืองหลวง ถูกนำร่องมาตั้งแต่ มีเสียงระเบิดคลังแสงครั้งใหญ่ หลายสิบปีที่ผ่านมา
ตั้งหน้าฟังว่าจะเป็นไปได้กี่เปอร์เซ็นต์ เพราะเป็นเรื่องใหญ่มหาศาล เกี่ยวพันกับผลประโยชน์ทับซ้อน เกี่ยวพันกับงบประมาณ มหึมา
หากเป็นยุคนี้ พูดได้คำเดียว..
“ฝันกลางแดด ชัดๆ !”