กรมพัฒน์ฯ ปั้น ‘นักสื่อสารองค์กร’ รุ่นใหม่ ปลุกความเป็น ‘Brand Ambassador’ ในตัวให้ฉายแสง มุ่งสู่การให้ ‘บริการ’ ที่เป็นเลิศ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เดินหน้าสู่เป้าหมายผู้นำองค์กรภาครัฐด้านการให้บริการที่เป็นเลิศ ปั้น ‘นักสื่อสารองค์กร’ รุ่นใหม่ เสริมทัพสนับสนุนภารกิจกรมฯ ปลุกความเป็น ‘Brand Ambassador’ ในตัวให้ฉายแสง มุ่งสู่การให้ ‘บริการ’ ที่เป็นเลิศแบบครบวงจร : มีความมั่นใจ ยินดีให้บริการทุกภาคส่วน รอบรู้ภารกิจกรมฯ เชิงลึก ควบคุมสถานการณ์ได้ดี มีเทคนิคการสื่อสารชั้นยอด มุ่งมั่นสร้างความประทับใจด้านการบริการแก่ภาคธุรกิจและประชาชน
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีภารกิจหลัก คือ การให้บริการด้านการจดทะเบียนธุรกิจ บริการข้อมูลธุรกิจ และส่งเสริมพัฒนาธุรกิจ เป็นหน่วยงานบริการภาครัฐที่มีภาคธุรกิจและประชาชนเข้ามาใช้บริการนับหมื่นรายในแต่ละปี การให้บริการที่เป็นเลิศ คือ เป้าหมายลำดับต้นที่คณะผู้บริหารให้ความสำคัญ เนื่องจากการบริการที่ดีจะสร้างความพึงพอใจและสนองความต้องการทุกภาคส่วนได้อย่างตรงจุด ขณะที่ความคาดหวังของผู้รับบริการที่ต้องการได้รับการบริการที่ดีและตรงใจ เป็นโจทย์ท้าทายให้กรมฯ ต้องดำเนินการพัฒนาและยกระดับการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้
ปี 2566 กรมฯ กำหนดค่านิยม ‘SUPER DBD สร้างพลังการเปลี่ยนแปลง’ วางเป้าหมายให้บุคลากรกรมฯ เป็นฮีโร่ของผู้ประกอบการด้านให้คำปรึกษาและการบริการ รวมถึงปรับเปลี่ยนบริบทการทำงาน จากการตั้งรับเป็นเดินหน้ารุก เพื่อให้ทันต่อความต้องการของภาคธุรกิจ/ประชาชน ด้วยความถูกต้อง สะดวก รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่าย ล่าสุด กรมฯ ได้คัดสรรเจ้าหน้าที่กรมรุ่นใหม่ จำนวน 20 คน เพื่อพัฒนาให้เป็น ‘นักสื่อสารองค์กรรุ่นใหม่ หรือ DBD Brand Ambassador’ ที่มีความเข้าใจเชิงลึก พร้อมทั้งสามารถสื่อสารภารกิจและโครงการต่าง ๆ แก่ภาคธุรกิจและประชาชนได้เป็นอย่างดี พร้อมถ่ายทอดเทคนิคการสื่อสารแก่บุคลากรภายในกรมฯ ให้มีทักษะการสื่อสารอย่างมืออาชีพ มีประสิทธิภาพ ส่งผลถึงการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น เจ้าหน้าที่กรมทั้ง 20 คนที่ผ่านการคัดเลือก จะได้รับการพัฒนาองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับงานบริการแบบเชิงลึก การพัฒนาบุคลิกภาพ การเสริมสร้างทัศนคติที่ดีต่องานบริการ การฝึกทักษะการนำเสนองานและตอบข้อซักถามภารกิจกรมฯ ด้วยวิธีการสื่อสารที่เป็นมิตร/เข้าใจง่าย/สร้างสรรค์ ทั้งการใช้ร่างกายและการใช้น้ำเสียง ตลอดจนการควบคุมอารมณ์ ความรู้สึก เพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความมีคุณธรรม จริยธรรม ความประพฤติดี ประพฤติชอบ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายหลักสร้างความประทับใจด้านการให้บริการภาคธุรกิจและประชาชน
ผู้เข้ารับการอบรมทุกคนต้องทดสอบความสมบูรณ์ของการเป็นนักสื่อสารองค์กรรุ่นใหม่ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ และจะมีการคัดเลือกสุดยอดนักสื่อสารองค์กรรุ่นใหม่ จำนวน 5 ด้าน ให้สอดคล้องกับภารกิจ SUPER DBD ประกอบด้วย S = service mind บริการด้วยใจ U = unified เป็นน้ำหนึ่งใจเดียว P = people มุ่งประชาชนเป็นศูนย์กลาง E = energetic ตื่นตัว นำการเปลี่ยนแปลง R = reliable เป็นที่ไว้วางใจ เชื่อถือได้ และพร้อมที่จะเป็นต้นแบบ/พี่เลี้ยงในการถ่ายทอดความเป็นสุดยอดแก่บุคลากรระดับต่าง ๆ ภายในกรมฯ โดยหลังจากผ่านการอบรมแล้ว ผู้เข้าร่วมการอบรมมีทักษะการสื่อสารและบุคลิกภาพที่ดี มีความกล้าแสดงออก และสามารถสื่อสารบทบาทภารกิจของกรมแก่ประชาชนทั่วไปได้อย่างมั่นใจ สามารถเป็นตัวแทนของกรมในการสื่อสารงานบริการดิจิทัลใหม่ โครงการส่งเสริมธุรกิจต่าง ๆ ให้ประชาชนได้รับรู้และเข้าใจ ตลอดจนการร่วมดำเนินการในงานพิธีต่าง ๆ หรืองานสำคัญได้ และสามารถป็นต้นแบบตามค่านิยม #SuperDBD ของกรมซึ่งจะขยายผลในบุคลากรกลุ่มอื่น ๆ ต่อไป
ทั้งนี้ กรมฯ ได้วางแนวทางพัฒนาบุคลากรอย่างเป็นระบบและเหมาะสมแต่ละบุคคล เพื่อให้ทุกคนมีความสุขในการทำงาน พร้อมให้บริการประชาชนด้วยความเต็มที่และเต็มใจ ขณะเดียวกัน ต้องมีการพัฒนาจิตใจและความประพฤติให้มีคุณธรรม-จริยธรรม ยืนอยู่บนความซื่อสัตย์สุจริตและมีธรรมาภิบาลในการทำงาน เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ข้าราชการรุ่นต่อ ๆ ไป รวมถึง การปรับทัศนคติให้มองการอบรมฯ เป็นการเติมทักษะสำหรับอนาคต และสร้างเครือข่าย ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการทำงานในปัจจุบันและอนาคต ทั้งการพัฒนาตนเองผ่านการทำงาน (OJT) การโค้ชโดยพี่เลี้ยง (Mentoring) การจัดอบรมหลักสูตรต่าง ๆ ทั้งภายในองค์กร และส่งบุคลากรเข้าร่วมอบรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากกรณีศึกษาภายนอกองค์กร ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว คนที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด ก็คือ เจ้าหน้าที่ผู้เข้ารับการพัฒนาเอง สามารถเป็นที่ปรึกษาภาคธุรกิจ ส่งผลดีต่อองค์กรให้มีความเข้มแข็ง น่าเชื่อถือ ภาครัฐมีความแข็งแกร่ง และประเทศชาติมีความมั่นคง” อธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้าย
*****************************
ที่มา : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
สำนักงานเลขานุการกรม ฉบับที่ 3