ซ้อนแผนรวบ “แฟ้มเมืองทอง” ลูกจ้างสุดแสบลักพระพุทธรูปเก่าแก่ แล้วนำของปลอมมาวางตบตาเจ้าของ
พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. (ศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ส่งทีมแกะรอยจับกุม “แฟ้มเมืองทอง” มือขโมยพระพุทธรูปปรางนาคปรกเก่าแก่ ก่อนนำไปขายในโลกโซเชียล หลังได้รับเบาะแสจากประชาชนว่ามีคนร้ายนำพระพุทธรูปสมบัติเก่าแก่ และทรัพย์สินอีกหลายรายการมาขายในโลกโซเชี่ยลดังกล่าว จึงมอบหมายให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 5 ศอ.ปส.ตร. จัดชุดลาดตระเวนในโลกออนไลน์สืบสวนจับกุมคนร้าย
สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 17.00 น. พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.กฤติเดช จันทร์เพชร ผกก.สน.ธรรมศาลา, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.ฯ ปฏิบัติหน้าที่ ศอ.ปส.ตร., พ.ต.ท.นรามินทร์ เทพจักรินทร์, พ.ต.ท.ปรีชา ใยมะเดื่อ, พ.ต.ต.ชัยวัฒน์ จงเจริญ, ร.ต.อ.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ, ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น, ร.ต.อ.วุฒินันท์ คงดี, ร.ต.อ.ปรมา ปราณี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ศอ.ปส.ตร.ชุดปฏิบัติการที่ 5 ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) และฝ่ายสืบสวน สน.ธรรมศาลา
นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายสันติชัย คำบอนพิทักษ์หรือ แฟ้ม อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124/3 ม.3 ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง” ตรวจยึดของกลางกว่า 5 รายการ ดังนี้ 1.พระพุทธรูปปรางนาคปรก สีดำฐานกว้าง 6 นิ้ว สูง 9 นิ้ว 1 องค์, 2.พระพุทธรูปปรางลีลา สีทอง ฐานกว้าง 4 นิ้ว สูง 20 นิ้ว 1 องค์, 3.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ ไอโฟน 8 พลัส สีทอง 1 เครื่อง, 4.พระเครื่องจำนวน 7 องค์, 5.สมุดบัญชีธนาคารธนชาตทหารไทย เลขที่ 308-7-17xxxx โดยจับกุมตัวได้ที่ ลานจอดรถT10 ถ.ป๊อปปูล่า ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
พฤติการณ์กล่าวคือ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร. (ศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ได้จัดชุดลาดตระเวนในโลกออนไลน์ เพื่อสืบสวนหากลุ่มเครือข่ายยาเสพติดที่มีการฟอกเงินจากการซื้อขายบูชาพระเครื่อง ซึ่งได้พบเบาะแสจากบุคคลรายหนึ่งเรื่องการขายพระพุทธรูปปรางนาคปรก ซึ่งพระพุทธรูปดังกล่าวเป็นสมบัติเก่า ซึ่งเมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาอย่างผิดกฏหมาย พล.ต.ท.ชินภัทรฯ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 5 นำกำลังชุดปฏิบัติการที่ 5 ศอ.ปส.ตร. สืบสวนนครบาล สืบสวนแกะรอยจนพบพยานหลักฐานยืนยันว่า พระพุทธรูปดังกล่าวเป็นทรัพย์ที่ถูกขโมยมาจากผู้เสียหายรายหนึ่ง
พล.ต.ต.ธีรเดชฯ นำกำลังชุดสืบสวนซ้อนแผนติดต่อล่อซื้อ ได้พบ นายสันติชัย หรือ แฟ้ม อายุ 25 ปี นำของกลางพระเครื่องที่ได้มาจากการขโมยมาขายให้เจ้าหน้าที่ล่อซื้อหลายรายการ จึงทำการควบคุมตัวไว้ทันที โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ที่ ลานจอดรถT10 ถ.ป๊อปปูล่า ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และได้ขยายผลการจับกุมจนพบ พระพุทธรูปปรางนาคปรก และพระพุทธรูปปรางลีลา สีทอง โดยชุดสืบสวนนครบาล ได้ตรวจสอบและติดต่อไปยัง ผู้เสียหายผู้เป็นเจ้าของพระพุทธรูปนี้ทำให้ทราบว่า นายสันติชัยฯ ได้เคยทำงานรับจ้างภายในบ้านของผู้เสียหาย โดยที่ผู้เสียหายพึ่งทราบเหตุเนื่องจาก นายสันติชัยฯ ได้นำพระพุทธรูปของปลอมมาวางไว้แทนที่เพื่อตบตาผู้เสียหาย ซึ่งเมื่อขยายผลต่อไปได้พบว่า นายสันติชัยฯ ยังได้นำทรัพย์สินภายในบ้านผู้เสียหายไปอีกหลายรายการ อาทิเช่น พระเครื่อง,พระพุทธรูป และ กระเป๋าแบรนด์เนม รวมของกลางที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดทั้งหมด 5 รายการ
ในชั้นจับกุม นายสันติชัย หรือ แฟ้ม ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองได้ลงมือก่อเหตุในช่วงปลายเดือน ธ.ค.65 ก่อนที่จะหยุดยาวปีใหม่ โดยตอนนั้นตนเองตัดสินใจลาออก แต่ด้วยตนติดการพนันออนไลน์ มีหนี้สินค่างวดรถ จึงทำให้ตัดสินใจลงมือก่อเหตุ โดยทรัพย์สินที่ขโมยมานั้นตนเองนำไปโพสขายในโลกออนไลน์ และที่นำพระพุทธรูปของปลอมมาวางไว้แทนที่ของจริงเพราะต้องการตบตาไม่ให้รู้ว่าถูกขโมย” เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน