คุก 4 ปี 12 ด.! อดีตนายก อบต.ผาตั้ง ทุจริตใช้ชื่อบุคคลอื่นเป็นคู่สัญญาเอาเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว
ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา ‘มงคล เพ็งสมภาร’ อดีตนายก อบต.ผาตั้ง หนองคาย ทุจริตใช้ชื่อบุคคลอื่นเข้าเป็นคู่สัญญาโครงการจ้างเหมาซ่อมแซมแทนผู้รับจ้าง เอาเงินที่ได้ไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาลงโทษ จำคุก 4 ปี 12 เดือน พวก 2 ราย โดนด้วย – รอลงอาญา 1 คน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายมงคล เพ็งสมภาร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย กับพวก 2 ราย คือ นายสุพฤทธิ์ สุรสิทธิ์ นายแดนชัย รามประพฤติ ทุจริตดำเนินการใช้ชื่อบุคคลอื่นเข้าเป็นคู่สัญญาในโครงการจ้างเหมาซ่อมแซมแทนผู้รับจ้าง และเมื่อมีการเบิกจ่ายเงินแล้วได้ให้ผู้รับจ้างส่งมอบเงินสดคืน แล้วนำเงินที่ได้ไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา 151, 152 , 157 ประกอบมาตรา 86, 90, 91 และตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 100 ประกอบมาตรา 103/1, 122 ,123/1 ประกอบ พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 192 ประกอบ มาตรา 86 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ก.พ.2564 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษาว่า นายมงคล เพ็งสมภาร จำเลยที่ 1 นายสุพฤทธิ์ สุรสิทธิ์ จำเลยที่ 2 นายแดนชัย รามประพฤติ จำเลยที่ 3 มีความผิด
จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ ตามมาตรา 78 ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง
นายมงคล เพ็งสมภาร จำเลยที่ 1 คงจำคุกกระทงละ 2 ปี 6 เดือน และปรับกระทงละ 20,000 บาท รวม 2 กระทง รวมเป็นจำคุก 4 ปี 12 เดือน และปรับ 40,000 บาท
นายสุพฤทธิ์ สุรสิทธิ์ จำเลยที่ 2 คงจำคุก กระทงละ 1 ปี 6 เดือน และปรับกระทงละ 15,000 บาท รวม 2 กระทง รวมเป็นจำคุก 2 ปี 12 เดือน และปรับ 30,000 บาท
นายแดนชัย รามประพฤติ จำเลยที่ 3 คงจำคุก 1 ปี และปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 2 ปี
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2565 มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ดังกล่าว
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
Cr. สำนักข่าวอิศรา