พี่ป้อม น้องตู่ รับมุกเล่นเกมกัน เพื่อสืบทอดอำนาจ คณะ ป.??

การเมืองเป็นเรื่องประชาชนทุกคน แต่ทุก ๆ คนไม่ได้สนใจการเมือง

ทว่าข่าวคราวความเคลื่อนไหวทางการเมืองมีให้ประชาชนที่เป็นคอการเมือง และประชาชนที่เฉย ๆ ได้ติดตามสถานการณ์ทุกวัน

โดยเฉพาะช่วงระยะเวลานี้ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ของ “ลุงป้อม” พี่ใหญ่ตระกูล ป. กับ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่รู้กันชัดแล้วว่าเป็นของ “ลุงตู่” น้องเล็กแห่ง ป. กำลังเปิดศึกปั่นกระแสข่าวพรรคกันสนุกสนานสำราญบานใจ

ทำให้พรรคการเมืองอื่น ๆ ทั้งพรรคตั้งใหม่ และพรรคเก่าชิดซ้ายไปเลย

พรรค พปชร. ของ “ลุงป้อม” ป. พี่ใหญ่ โหมตีปี๊บว่ามีเลือดไหลเข้ามาแทนที่เลือดที่โดนดูดไปเข้าพรรค รทสช. ของ “ลุงตู่” ป.น้องเล็ก เรียบร้อยเกินจำนวนซะอีก

พร้อมกันนี้แกนนำของพรรค พปชร. หลายคนที่รักภักดี “ลุงป้อม” ประกาศจะดันให้เป็น “นายกรัฐมนตรี” คนที่ 30 ของประเทศไทย!!

ภาพจาก : สยามรัฐ

ด้วยเหตุฉะนี้ เรา ๆ ท่าน ๆ จะเห็นทั้งภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่งของ “ลุงป้อม” ระหว่างเดินทางไปตรวจราชการในจังหวัดต่าง ๆ มีชาวบ้านรุมล้อมเข้ามาหอมแก้ม พร้อมทั้งส่งเสียงเชียร์ให้พี่ใหญ่ สู้ ๆ

สู้ให้มีแรงบันดาลใจเป็นนายกฯ สืบทอดต่อจาก “น้องตู่” ??

ดังนั้นคำถามต่าง ๆ ของบรรดาสื่อทุกประเภทที่ถามจี้จุดตรงประเด็น “ลุงป้อม” ใช้วิชาเงียบ ไม่ตอบคำถามใด ๆ นอกจากยิ้ม!!

ทางด้านพรรค รทสช. ที่ “ลุงตู่” เปิดอนาคตการเมืองชัดเจนแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม ที่ผ่านมาว่าจะสมัครเป็นสมาชิกพรรค รทสช. เพราะได้รับเชิญมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะฉะนั้น ความชัดเจนชีวิตการเมืองอีก 2 ปี จนถึงปี 2468 จะต่อวีซ่าเป็นนายกฯ อีกล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องเซ้าซี้ถามอีกนะจ๊ะ

เชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอ จะมีข่าวการปรับทัพคนใน รทสช. ให้ฮือฮาแน่!!

แต่ระยะนี้มีแต่ข่าวคราว ส.ส. และ สมาชิกพรรค พปชร. ยกโขยงลาออกมาเข้ารั้วบ้าน รทสช. ด้วยความรักศรัทธา “ลุงตู่”

ซึ่ง “ลุงตู่” ได้แต่ปรับทัพรัฐบาลที่เกี่ยวข้องเฉพาะตัวเอง โดยเชิญให้ “ดิสทัต โหตระกิตย์” เลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตข้าราชการผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย แต่วิชาลีลาพลิ้วไหวด้านการเมืองไม่สันทัด “ลาออก” จากเก้าอี้ ด้วยเหตุผลทางการเมือง!!

โดยแต่งตั้งให้ “ท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรค รทสช. เข้ามานั่งเก้าอี้ “เลขาธิการนายกรัฐมนตรี” แทนด้วยความเหมาะสมประการทั้งพวง ซึ่งดีกว่าประการทั้งปวง!!

เพราะ “ท่านพีระพันธุ์” เป็นผู้รอบรู้ทางกฎหมาย อดีตผู้พิพากษา อดีต รมว.ยุติธรรม คลุกคลีการเมืองที่เคยสังกัดพรรค ปชป. มากว่า30 ปี!!

ฉะนั้นและฉะนี้ “ท่านพีระพันธุ์” จึงเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สามารถงัดวิชาตำราพิชัยสงครามมาลุยศึกเลือกตั้ง และ กฎหมายเรื่องยุ่ง ๆ ที่โยงมาเกี่ยวกับการเลือกตั้ง

เพื่อวางแผนวางเป้าหมายให้ “ลุงตู่” เป็นนายกฯ คนที่ 29 ตามเดิม ต่อไปอีก 2 ปี!!

ช่วงสัปดาห์นี้ ข่าวของ “ลุงตู่” มีการเดินสายไปตรวจราชการเช่นเดียวกันกับ พี่ใหญ่ “ป้อม”

โดยหาเสียงให้กับตัวเองและทำตัวกลมกลืนกับชาวบ้าน ไปภูมิภาคไหนก็สวมชุดของท้องถิ่นภูมิภาคนั้น ๆ

ล่าสุดไปไปเชียงราย พบเยี่ยมชนเผ่า ก็ยิ้มแย้มใส่เสื้อชนเผ่า ให้ชาวเขาชาวเผ่าเข้ามาโอบกอด

ภาพที่ปรากฎให้เห็นกับตาในช่วงเวลาเดียวกันของ 2 ป. พี่น้องที่กินข้าว “หม้อ” เดียวกัน ย่อมแสดงว่าเป็นการเล่นกลเกมการเมืองสืบทอดอำนาจของคณะ ป. ต่อไปอีก??

ภาพจาก : LINE TODAY

เพราะฉะนั้นการเล่นวิทยายุทธการเมืองต้องมองให้ลึกดูให้ซึ้งตรึงใจ อย่าเจาะลึกคุ้ยแคะแกะเกามั่วเกินไปอันเนื่องมาจากอคติทั้งรักและชัง เดี๋ยวจะหน้าแหก!?!

อ๊ะ อ๊ะ จากสถานการณ์ของพรรคพี่กับพรรคน้องที่วาดลวดลายทางการเมืองให้เป็นที่กระแสสร้างการล้วงควักวงในเจาะลึกเจาะลับของบรรดากูรู้ในแต่ละมุมมองไปคนละทิศคนละทาง

กูรู้เกินร้อยบางส่วนเจาะลึก ๆ ลับ ๆ มาว่า 2 ป. พี่น้องแตกทะเลาะกัน เพราะยื้อแย่งอำนาจกัน??

แต่ผู้ทรงคุณวุฒิด้านยุ่งเหยิงบางคนกลับมองว่า การเล่นการเมืองที่รับมุกกันไปมาแบบอีรุงตุงนังของ 2 พรรคพี่น้องต้องคิดลึกมองลึกว่าทะเลาะกันจริงหรือหลอก!?!

ทั้ง 2 พรรค พี่ใหญ่ และ น้องเล็ก อาจร่วมกันเล่นเกมการเมืองให้ฝ่ายตรงกันข้ามมึนงงสับสน??

อา..ตำราพิชัยศึกการเมืองนั้นพลิกซ้ายพลิกขวาได้ทุกวินาทีตลอดเวลา!!

อะไรที่นึกไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้น ก็เกิดขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ!!

เพราะฉะนั้น ท่านสาธุชนทั้งหลาย กรุณาเฝ้าติดตามอย่ากะพริบตา มิฉะนั้นความสนุกตื่นเต้นระทึกใจจะขาดตอน??

ว่ามาว่า แผนยุทธการเล่นเกมการเมืองของพรรคพี่กับพรรคน้องในขณะนี้ ก็เพื่อให้ “ลุงตู่” เป็นนายกฯ คนที่ 29 ก้าวขาต่อวีซ่าตามสิทธิในเก้าอี้อีก 2 ปีจนถึงปี 2568

จากนั้นอีก 2 ปี ส่งเก้าอี้ “นายกรัฐมนตรี” คนที่ 30 ให้ “ลุงป้อม” เป็นต่ออีก 2 ปี ให้ครบเทอม 4 ปี!!

การเล่นการเมืองของพรรคพี่พรรคน้องในเวลานี้ กูรูผู้รู้ดีวิเคราะห์ว่าเปรียบเสมือนคำกล่าวอมตะของนิยายอิงประวัติศาสตร์ประเทศฝรั่งเศส ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 เรื่อง “สามทหารเสือ the three musketeers”  ที่คนทั้งโลกรู้จักกันดี

โดยคำอมตะกล่าวไว้ว่า “one for all and all for one”

จากหนึ่งจึงเป็นเรา รวมเราสองเข้าเป็นหนึ่ง!!

ภาพยนตร์อวสาน สวัสดี!!

นายจักรยาน