ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

คุก 24 ปี 32 ด.! อดีต ผอ.ศูนย์ท่องเที่ยวกีฬาฯพัทลุง ทุจริตปลอมเอกสารเบิกค่าเช่าบ้านลูกน้อง


18 ธันวาคม 2022, 15:21 น.

 

ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา ‘เสมา หรือ สุชาติ วนะสิทธิ์’ อดีต ผอ.ศูนย์ท่องเที่ยวกีฬานันทนาการ พัทลุง ทุจริตปลอมเอกสารอนุมัติเบิกเงินค่าเช่าบ้านลูกน้อง นำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว ก่อนอ้างยังไม่ตกเบิก ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 9 พิพากษาลงโทษจำคุก 8 กระทง 24 ปี 32 เดือน ไม่รอลงอาญา คืนเงิน 36,000 บาท 

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายเสมา หรือสุชาติวนะสิทธิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์การท่องเที่ยวกีฬาและนันทนาการ จังหวัดพัทลุง ปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมเพื่ออนุมัติเบิกเงินค่าเช่าบ้านของผู้กล่าวหา จากทางราชการ และนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัวโดยทุจริต มิได้นำไปให้ผู้กล่าวหา แต่กลับแจ้งเท็จแก่ผู้กล่าวหาว่า เงินยังไม่ตกเบิก

 

ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 , 157 และ 147 ประกอบมาตรา 91  ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564

 

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9  มีคำพิพากษาว่า นายเสมา หรือสุชาติ วนะสิทธิ์ จำเลยมีความผิดตามมาตรา 147 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามมาตรา 91

 

จำคุกกระทงละ 5 ปี

 

คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง จึงมีเหตุบรรเทาโทษเห็นสมควรลดโทษให้หนึ่งในสาม

 

คงจำคุกกระทงละ 3 ปี 4 เดือน

 

จำเลยกระทำความผิด 8 กระทง รวมจำคุก 24 ปี 32  เดือน

 

ให้จำเลยคืนเงินจำนวน 36,000 บาท แก่ศูนย์การท่องเที่ยว กีฬา และนันทนาการจังหวัดพัทลุง ผู้เสียหาย

 

ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้

 

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 17  ตุลาคม 2565 ลงมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9  ดังกล่าว

 

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท

Cr.สำนักข่าวอิศรา

18 ธันวาคม 2565

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

เรื่องล่าสุด