สืบสวนนครบาล รวบทันควันโจรในคราบไรเดอร์จัดฉากปล้นฉวยโอกาสช่วงเอเปค
ในช่วงระหว่างการประชุมผู้นำเอเปค 2022 ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายจำนวน 2 คนใช้อาวุธมีดจี้คอชิงทรัพย์คนขับไรเดอร์ และผู้โดยสารหญิงขณะเดินทางกลับบ้าน สืบสวนนครบาลรุดตรวจสอบพบว่า บังมีน ชาวมายอ จังหวัดปัตตานี เป็นหนุ่มไรเดอร์ และผู้โดยสารหญิง อายุ 20 ปี โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินไปเป็นโทรศัพท์ ไอโฟน ของผู้เสียหายหญิง และรถจักรยานยนต์ 1 คันของหนุ่มไรเดอร์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ย.65 เวลาประมาณ 03.10 น. บริเวณระหว่างหน้าปากซอยศรีนครินทร์ 9 กับ ซอย 11 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
ชุดสืบสวนนครบาลวิเคราะห์แผนประทุษกรรมคนร้ายเห็นความผิดปกติผิดวิสัยของไรเดอร์รับส่งไม่ขับรถตามเส้นทางปกติ อีกทั้งไม่น่าจะบังเอิญจอดรถระหว่างทาง ไรเดอร์แสร้งทำที่จอดรถดูแผนที่ทางโทรศัพท์ข้างทาง จุดที่คนร้ายซุ่มรออยู่ แถมคนร้ายไม่มีท่าทีบังคับข่มขู่ หนุ่มไรเดอร์ แต่กลับเอามีดจี้คอหญิงสาวผู้เสียหายและพาเดินลากไปไกล
พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้เร่งรัดการสืบสวนและจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและเพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายในช่วงการประชุมผู้นำเอเปค 2022 เป็นการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศ พร้อมกันนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. กำชับให้ระดมกำลังไล่ล่าคนร้ายโดยเร็ว
เมื่อวันที่ 19 พ.ย.65 เวลาประมาณ 17.30 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุระพรรณ นาทวรทัต ผบก.น.4, พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก.สน.ประเวศ, พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก. กก.สส.บก.น.4 และเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออนไลน์ของ บก.สส.บช.น., ฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ, กก.สส.บก.น.4
ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายอามีน (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ที่อยู่ 234 ม.1 ต.มายอ อ.มายอ จ.ปัตตานี ทำหน้าที่เป็น หนุ่มไรเดอร์จัดฉากพาผู้เสียหายหญิงพาไปยังจุดเกิดเหตุ, นายอาหมัด (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ที่อยู่ 75/1 ม.5 ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ทำหน้าที่เป็นคนลงมือปล้น และ นายอนันต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ที่อยู่ 38 ม.2 ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ทำหน้าที่เป็นคนลงมือปล้นพร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้านทะเบียน จำนวน 1 คัน, อาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ 2 เล่ม, เครื่องแต่งกายที่ใช้สวมใส่ในวันที่ก่อเหตุ, โทรศัพท์ มือถือไอโฟน 7 จำนวน 1 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า “ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวไปด้วย และโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้ผู้กระทำผิดพ้นการจับกุม” โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ห้องพักเลขที่ 235 สุขถาวรอพาร์ทเม้นท์ ซ.รามคำแหง 24 แยก 24 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ
พฤติกรรมในการก่อเหตุกล่าวคือ เมื่อวันที่ 19 พ.ย.65 เวลาประมาณ 03.10 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายจำนวน 2 คนใช้อาวุธมีดจี้คอชิงทรัพย์คนขับไรเดอร์ และผู้โดยสารหญิงขณะเดินทางกลับบ้านบริเวณระหว่างหน้าปากซอยศรีนครินทร์ 9 กับ ซอย 11 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินไปเป็นโทรศัพท์ ไอโฟน ของผู้เสียหายหญิง และรถจักรยานยนต์ 1 คันของหนุ่มไรเดอร์ หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายที่เป็นหญิงสาวได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ซึ่งภายหลังรับแจ้ง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ระดมกำลัง ชุดสืบสวน สืบสวนนครบาล, สน.ประเวศ, กก.สส.บก.น.4 และชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5 ได้ระดมกำลังลงพื้นที่เพื่อสืบสวนจับกุมคนร้าย ซึ่งต่อมาวิเคราะห์แผนประทุษกรรมได้วิเคราะห์เห็น “ความผิดปกติ” ของวิธีการกระทำความผิดของคนร้ายคล้ายการ “จัดฉาก” ให้ไปถูกปล้น ซึ่งมีความผิดปกติของ “หนุ่มไรเดอร์” ที่ไม่ได้ขับไปส่งผู้เสียหายตามเส้นทางปกติ และท่าทีขณะคนร้ายปล้นหนุ่มไรเดอร์นั้นมีความนุ่มนวล แตกต่างจากหญิงสาวผู้เสียหาย ที่ถูกมีดจี้คอและพาเดินฉุดลากไประยะไกล อีกทั้งกลุ่มคนร้ายกลับไม่นำเอาโทรศัพท์ของหนุ่มไรเดอร์ทั้งที่มีมูลค่าสูงกว่าของหญิงสาวผู้เสียหาย
โดยหลังเกิดเหตุหนุ่มไรเดอร์ดังกล่าวยังทำทีบ่ายเบี่ยงที่จะเข้าแจ้งความดำเนินคดี จึงวิเคราะห์ได้ว่า “หนุ่มไรเดอร์” นั้นมิใช่ผู้เสียหาย แต่เป็น “คนร้ายคนที่ 3” ซึ่งก็คือ นายอามีน (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ชาว ต.มายอ อ.มายอ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นบุคคลที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 2 คดี และเคยก่อเหตุคดีลักทรัพย์ 1 คดีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เข้าตรวจค้นห้องพักของ นายอามีนฯ เลขที่ 235 สุขถาวรอพาร์ทเม้นท์ ซ.รามคำแหง 24 แยก 24 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ สามารถพบ นายอาหมัด ผู้ต้องหาที่ 2 และนายอนันต์ ผู้ต้องหาที่ 3 ขณะกำลังอยู่ร่วมกันในห้องพัก โดยหลังจับกุม นายอาหมัดฯผู้ต้องหาที่ 2 ได้นำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบรถจักรยานยนต์ที่ “แสร้งจัดฉากปล้น” ไปจาก นายอามีนฯ (หนุ่มไรเดอร์) ซึ่งจอดอยู่ใกล้ที่พัก และโทรศัพท์มือถือที่ได้ของผู้เสียหายหญิง นายอาหมัดฯ และ นายอนันต์ฯ ได้นำไปตรวจยึดจุดทิ้งไว้ข้างทางระหว่างการหลบหนีซึ่งได้นำพาที่บริเวณพุ่มหญ้าข้างทางใน ซ.ลาดพร้าว 124
โดยในชั้นจับกุม นายอาหมัดฯ ผู้ต้องหาที่ 2 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองพึ่งเดินทางมาจาก จ.ยะลา ด้วยรถไฟเมื่อวันที่ 14 พ.ย.65 และเมื่อมาถึงกรุงเทพฯ ยังหางานทำไม่ได้จึงได้คิดก่อเหตุเพื่อหาเงิน โดยยืนยันว่าการเดินทางขึ้นมากรุงเทพฯ นั้น ไม่เกี่ยวกับการก่อความไม่สงบแต่อย่างใด โดยที่ถูกจับกุมขณะอยู่กับ นายอามีนฯ (ไรเดอร์) ในห้องเดียวกันนั้น เพราะว่าตนเองจะมาขอโทษที่ก่อเหตุปล้นรถของ นายอามีนฯ” ส่วนนายอนันต์ฯ ผู้ต้องหาที่ 3 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองนั้นอยู่ที่กรุงเทพฯ มาเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว แต่ไม่มีงานทำใด ๆ เที่ยวเตร็ดเตร่ไปวัน ๆ และให้การสอดคล้องกับ นายอาหมัดฯ ว่า ที่ถูกจับกุมขณะอยู่กับ นายอามีนฯ (ไรเดอร์) ในห้องเดียวกันนั้น เพราะว่าตนเองจะมาขอโทษที่ก่อเหตุปล้นรถของ นายอามีนฯ” และ นายอามีนฯ (ไรเดอร์) ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองไม่ทราบเรื่องใด ๆ ทั้งสิ้น ที่ถูกจับกุมขณะอยู่ในห้องเดียวกันนี้เพราะ นายอาหมัดฯ และ นายอนันต์ฯ เดินทางมาขอโทษตนเองที่ห้อง ที่ได้ก่อเหตุปล้นตนเอง และที่ตนเองไม่เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นเพราะตนเองติดทำงาน จึงไม่มีเวลาเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ”
พล.ต.ต.ธีรเดชฯ กล่าวว่าจากคำให้การในชั้นจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ นายอามีนฯ คนขับไรเดอร์ เนื่องจากพบพยานหลักฐานที่ยืนยันว่าทั้ง 3 มีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดครั้งนี้ และพบมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุมาจาก “ไม่มีเงินและไม่มีงาน” ส่วนมูลเหตุเรื่องการก่อเหตุรุนแรงหรือความไม่สงบ จากการตรวจสอบยังไม่พบแต่ประการใด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในช่วงการดูแลความปลอดภัยของประชาชน และการประชุมผู้นำเอเปค 2022 ให้อยู่ในความเรียบร้อย
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน