“ชัยวุฒิ” เดินหน้า เร่งปิดช่องหลอกลงทุน-ระดมทุนออนไลน์ผิดกฎหมาย
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลฯ ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ให้ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งขอความร่วมมือธนาคารแห่งประเทศไทย เร่งรัดแก้ไขอย่างเร่งด่วนเกี่ยวกับปัญหาฉ้อโกงและหลอกลวงประชาชนผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะการหลอกลวงทางการเงิน เช่น หลอกลวงลงทุน แชร์ลูกโซ่ เป็นต้น โดยคนร้ายมีการปรับรูปแบบและวิธีการหลอกหลวงประชาชน จนมีเหยื่อหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก
รัฐมนตรีชัยวุฒิ ได้มอบหมายให้ นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยในวันที่ 21 ตุลาคม 2565 ได้มีการประชุมร่วมกับผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ผู้แทนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และผู้แทนสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง หารือแนวทางการแก้ไขปัญหาการหลอกลวงลงทุนทางออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันมีการเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อ และเชิญชวนให้ประชาชนลงทุนผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งไม่ได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลเป็นจำนวนมาก พบการนำภาพบุคคลที่มีชื่อเสียงมาใช้เพื่อในการประชาสัมพันธ์เชิญชวนการลงทุนดังกล่าว โดยไม่ได้รับความยินยอม ส่งผลให้เกิดการหลอกลวง ฉ้อโกง สร้างความเสียหายให้แก่ประชาชนในวงกว้าง
ในการนี้ ที่ประชุมได้หารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยบูรณาการอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน เพื่อป้องกันและปราบปรามไม่ให้เกิดความเสียหาย รวมทั้งการปิดกั้นเว็บไซต์ที่ไม่ได้รับอนุญาต เว็บไซต์หลอกลงทุนผิดกฎหมาย เว็บไซต์ลงทุนแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศผิดกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมายและการดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดอย่างเคร่งครัด ในส่วนของมาตรการเชิงรุกจะใช้ระบบ Social listening ในการตรวจสอบในช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ สื่อโซเชียลมีเดียทุกแพลต์ฟอร์ม ตรวจสอบกับระบบฐานข้อมูลของหน่วยงานกำกับดูแล หากพบการกระทำความผิด เจ้าหน้าผู้เกี่ยวข้องจะดำเนินการ ทั้งในส่วนของการปิดกั้นปิดกั้นแพลตฟอร์มหรือเว็บไซต์ทันที และดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป
สำหรับโทษของคนร้ายที่ชักชวนและหลอกลวงประชาชนลงทุนผ่านสื่อสังคมออนไลน์อย่างผิดกฎหมาย มีโทษหนัก อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน จำคุก 10 ปี และกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จำคุก 5 ปี
สำหรับประชาชน หรือผู้ที่มีข้อมูลเว็บผิดกฎหมาย สามารถแจ้งกับกระทรวงดิจิทัลฯ ได้ที่ 1212 หรือ https://facebook.com/DESMonitor เพจอาสาจับตาออนไลน์ หรือ แจ้งความออนไลน์ได้ตลอด24 ชั่วโมง ผ่านเว็บไซต์ https://thaipoliceonline.com อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่แนะนำการลงทุน ผู้ประกอบธุรกิจ หรือหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ได้ที่ SEC Check First และสามารถตรวจสอบ ผู้ได้รับใบอนุญาตหรือใบขึ้นทะเบียนให้ประกอบธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ที่ BOT License Check
Cr. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
24 ตุลาคม 2565